BAD DAJAVU เพื่อนรักหรือรักเพื่อน

145.0K · จบแล้ว
อยู่ในตะเกียงแก้ว
44
บท
9.0K
ยอดวิว
8.0
การให้คะแนน

บทย่อ

" ถ้ามึงก้าวออกไปหาไอ้เลวนั่น ความเป็นเพื่อนของเราขาดกัน " Alton I แอลตัน เจ้าของร้านอาหารอิตาลีและบาร์ Rooftop สุดหรู บนตึกสูงเฉียดฟ้าใจกลางกรุงเทพมหานคร แอลตัน : สุขุม เยือกเย็นและเย็นชากับทุกคน ยกเว้นแค่เพื่อนสนิท เพียงเธอคนเดียวเท่านั้น " เลิกทำตัว เxี้ยๆให้คนอื่นเป็นห่วงสักทีได้ปะ? " " กูจะเxี้ย กูจะเป็นหรือตายมึงจะมาสนใจทำไมวะ " " เอวาลีน!! " " มึงไม่ใช่พ่อกูสักหน่อย พ่อกูเขายังไม่ห่วงกูเลย" " ก็กูเป็นเพื่อนมึงไง " " เพื่อนกันก็ไม่จำเป็นต้องห่วงมากขนาดนี้ แอลตัน" " งั้นกูต้องเป็นอะไรวะ ถึงจะเป็นห่วงมึง ถึงจะห้ามมึงทำอะไรโง่ๆได้?" "....." " ตอบมาดิวะ!!!! " Evalyn I เอวาลีน ลูกสาวเพียงคนเดียวของ นักธุรกิจชื่อดังของเมืองไทย ติดอันดับรวยระดับ หนึ่งในสามสิบอันดัน เอวาลีน : ลูกคุณหนูเอาแต่ใจ และไม่ยอมฟังใครทั้งนั้น กล้าได้กล้าเสีย " ถ้ามึงก้าวออกไปหาไอ้เลวนั้น ความเป็นเพื่อนของเราขาดกัน " " กูจะเอากับใครก็ได้ทั้งนั้น มึงอย่ามายุ่งได้ปะ " ฟุ๊บบบ " ในเมื่ออยากทำอะไรมึงก็จะทำ. งั้นกูก็ขอทำอะไรที่กูอยากทำบ้างแล้วกัน" " แอลตัน!! มึงเป็นบ้าอะไร ปล่อยกูนะ" ....... " ทำไม ทีกับผู้ชายคนอื่นคันมากอยากเสียตัวชิบหาย ทีกับกูมึงจะกลัวอะไร?" นิยายเรื่องนี้แต่งขึ้นตามจินตนาการของผู้เขียน อาจมีถ้อยคำ พฤติกรรมความรุนแรง ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่มีอายุน้อยกว่า18 ปี โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน

นิยายรักโรแมนติกดีไซเนอร์รักหวานๆรักวัยรุ่นรักแรกพบโตมาด้วยเศรษฐีโรแมนติกนักศึกษา25+

EP.1 MY BOY ( FRIEND )

สำหรับบางความสัมพันธ์ มันยากเกินกว่าจะเข้าใจ

ว่าจริงๆแล้วเรารู้สึกไปเอง ก็อีกฝ่ายก็รู้สึกเหมือนกัน....

และหนึ่งในความสัมพันธ์ที่ยากแปรเปลี่ยนนั้น คือความสัมพันธ์ที่เรียกว่า เพื่อนรัก...

Alton part

ท่ามกลางแสงสีเสียงเพลงที่กระหึ่ม ของบ้านเพื่อนคนหนึ่งที่กำลังจัดงานปาร์ตี้สุดเหวี่ยง ในคืนวันอาทิตย์

ปาร์ตี้ต้อนรับเปิดเทอมของเรา ในวันรุ่งขึ้น ไม่รู้ว่าเมาวันอาทิตย์แบบนี้ วันจันทร์จะมีคนไปโรงเรียนสักกี่คนกัน" คืนนี้พลอยขอไปดูหนังที่ห้องแอลตัลได้ไหมอะคะ? " เสียงของพลอยสาวน้อยตากลมนมโตกำลังอ่อยผมด้วยสายตาที่ยั่วยวน

" ดูหนังอย่างเดียวงั้นเหรอ? " ผมกัดริมฝีปากทำหน้าครุ่นคิด

เธอมองผมและยิ้มอย่างกัดจิกริมฝีปากเล็กน้อย อย่างโคตรจะเซ็กซี่

" ก็ถ้าแอลตัลอยากทำอะไรพลอย ...ก็แล้วแต่เลยค่ะเพราะพลอยจะยอมทุกอย่าง.." พลอยพูดออกมาด้วยเสียงกระเส่าๆ

ผมประคองต้นคอของพลอยอย่างเล้าโลม มือกำลังคลำหาถุงยางเพื่อเช็กว่าพกมาด้วยอย่างมั่นใจ.. ผมก้มตัวลงไปหาเธอ เพื่อที่จะเริ่มจูบกันกับ พลอย สาวชื่อดังประจำโรงเรียนที่เพิ่งจะขึ้นปกนิตยสารวัยทีนชื่อดัง อย่าง hi LIKE ไปหมาดๆ แน่นอนว่าความสวยแบ๊วนี้ มันน่าลิ้มลองน่าดู

จ๊วบ จั่บ เราเริ่มจูบกันอย่างดูดดื่ม ด้วยฤทธิ์ของเหล้าที่ถูกแจกจ่ายให้ดื่มอย่างไม่มีอั้น ทำให้ผมเคลิ้มและเริ่มกรึ่มๆไปกับบรรยายกาศรอบๆ

ทันทีที่ผมเลื่อนมือไปบีบคั้นหน้าอกของสาวตรงหน้า เพื่อเช็กขนาดดู..

" แอลว่าเรา เข้าห้องน้ำบ้านไอ้มันเดย์ดีไหม? " ผมยื่นข้อเสนอไปเพราะว่าเจ้าลูกชายที่เริ่มแข็งตัวพร้อมรบเต็มที่แล้วจริงๆ

พลอยเลียริมฝีปากเล็กน้อยก่อนจะพยักหน้าอย่าง อินโนเซนท์จริงๆ

แต่ในขณะที่ผมกำลังลาก สาวที่ชื่อพลอยไปกินในห้องน้ำ

" เอวา!! " ผมชะงักและหันเพ่งมองไปทางนั้นทันที

ยัยเอวาลีน เพื่อนสนิทของผมเองมันนั่งกินเหล้าช็อต ท้าชนกับผู้ชายอีกคนหนึ่ง

ซึ่งสภาพของมันเมาเละ จนแทบจะนั่งทรงตัวไม่อยู่แล้ว

นั่งคอพับ เมาอย่างขาดสติ

และไอ้ผู้ชายคนนั้นก็โอบตัวมันเอาไว้ และพยายามยัดแก้วเหล้าช็อตให้มันดื่ม อย่างยัดเยียดกรอกเข้าปาก..

ผมผละออกจากสาวคนข้างๆ และเดินตรงเข้าไปเพื่อที่จะ

ผลั่ก เพล้ง!! ปัดแก้วนั้นตกพื้นจนแตก

" เฮ้ย!! นี่มันเหี้ยอะไรวะ? " ไอ้เวรนั่นตะคอกใส่หน้าของผมอย่างไม่พอใจ

​" มึงไม่เห็นเหรอ ว่าผู้หญิงคนนี้เมามากแล้ว? " ผมถามก่อนจะกระชากตัวเอวาลีนมาทางผม

ซึ่งมันก็เซมาทางผมทันที ด้วยกลิ่นเหล้าที่หึ่งเหมือนเทอาบก็ไม่ปาน

" ทีมึงจะลากผู้หญิงนั้นไปกิน กูยังไม่ไปเสือกเลย มึงก็อย่ามาเสือกดิวะ"ไอ้เวรนั่นชี้ไปทางผู้หญิงคนนั้นที่ยืนหน้าเสียอยู่

" ก็ถ้าเขาเต็มใจกูก็ไม่ว่าอะไรหรอกนะ" ผมหันไปมองทางเอวาลีนอย่างหงุดหงิดใจ

" แต่เพื่อนกูมันเมาหนักมากแล้ว คงดื่มหรือไปต่อกับมึงไม่ไหวหรอก!! " ผมกระชากตัวเอวาลีนมาทั้งตัว และจับมือของไอ้หมอนั่นสะบัดออกอย่างแรง

" นี่มึงจะมาแย่งเหยื่อคืนนี้ของกูหน้าด้านๆเนี่ยนะ ไอ้เหี้ย" ไอ้เวรนั่นชี้หน้าผม และตั้งท่าเข้ามาหาเรื่อง

" อ้างว่าเพื่อน เพื่อจะหวังฟันสินะ " มันพูดออกมาอย่างวอนส้นเท้า..

แม้ว่าผมอยากจะพุ่งตรงเข้าเสยหน้ากระแทกไอ้เวรนั่นสุดกำลัง

แต่ผมก็ต้องเอาตัวปัญหา ไปนอนพิงเสาเอาไว้ เพราะถ้ามันโดนลูกหลงขึ้นมา มันสร่างเมามันคงบ่นผมหูชาแน่ๆ

หลังจากที่ยัยเอวาลีนนั่งคอพับอยู่ที่เสาอย่างงัวเงียๆ ผมก็เดินหน้าตรงเข้าไปหาไอ้คนปากดีนั้นทันที

ตุ๊บตั่บ ตุ๊บๆๆตั่บ โคร้ม!!!

" มึง" ผมกระทืบเท้าลงไปซ้ำอีกครั้ง เพื่อเรียกให้มันหันมามองหน้าผมชัดๆ

" อย่ามายุ่งกับเพื่อนกูอีก " ผมพูดกระแทกเสียงใส่อย่างหัวเสีย หลังจากที่จับตัวมันทุ่มลงกับพื้นจนแน่นิ่งไป

ต้องขอบคุณวิชาคาราเต้ ที่ทำให้ไม่ต้องเหนื่อยมากผมนึกภายในใจ

" ส่วนมึง ถ้าได้สติ เคลียร์กับกูยาวแน่ " ผมส่ายหน้ากับยัยเอวาลีนที่นอนเมาเป็นหมา ไม่ได้สติ

ทันทีที่แบกเอวาลีนพาดขึ้นมาที่ไหล่ สาวที่ชื่อพลอยก็เดินตรงเข้ามาหาผมทันที

"แล้วพลอยละคะ?​" เธอถามผมด้วยเสียงที่เริ่มไม่พอใจ

"ถ้าอยากคุยต่อ พรุ่งนี้หลังเลิกเรียน เจอกันที่สนามบอลนะ "ผมพูดออกไปก่อนจะเดินผ่านเธอมาอย่างไม่รอคำตอบ

ผมรู้แค่ว่า ถ้าเธออยากเสียตัวก็แค่มาตามนัด ถ้าเธอเปลี่ยนใจ..ผมก็ไม่ได้แคร์อะไรมากมาย

เพราะจริงๆผมก็ไม่เคยขาดแคลน เรื่องผู้หญิงสักเท่าไหร่

"ก็ ได้ค่ะ " เสียงนั้นตอบกลับมาอย่างไม่มีทางเลือก

หลังจากที่ผมอุ้มเอวาเดินออกมาเรื่อยๆ..

" แอลตัล" เสียงของยัยตัวแสบยังคงเรียกผมและทุบแผ่นหลังของผมเรื่อยๆ

" แอลตัล~~" คนเมายังคงละเมอพูดอะไรไร้สาระไปเรื่อย

" อะไรมึงอีกละ? " ผมหยุดเดินและหันไปถามเจ้าตัวที่เมาไม่รู้เรื่อง

" กูรักมึงนะ เพื่อน " มันพูดออกมาก่อนจะแนบใบหน้าลงกับแผ่นหลังของผมอย่างไม่คิดอะไร

.......

.............

" เออ " ผมกระแทกเสียงตอบไปก่อนจะเดินต่อไปจนถึงที่จอดรถ...

Evalyn part

"คุณแม่คะ เรากำลังจะไปไหนกันเหรอคะ? " ฉันหันไปถามแม่ที่กำลังขับรถมุ่งหน้าตรงไปที่ไหนสักแห่ง

แม่หันมามองหน้าของฉันทั้งน้ำตาอาบน้ำ

" เราจะหนีไป หนีไปให้ไกลที่สุด " แม่พูดก่อนจะลูบหัวของฉันเบาๆ และปาดน้ำตาอย่างพยายามจะเข้มแข็งให้ได้มากที่สุด

" คุณแม่ค่ะ คุณแม่ร้องไห้ทำไม? " ฉันพยายามจะหันไปถามแม่อย่างห่วงใย

" แล้วทำไมเราต้องหนีด้วย?​" ฉันยังคงพยายามถามเอาคำตอบจากแม่

ในขณะที่โทรศัพท์มือถือของแม่ ยังคงสั่นไม่หยุด และเบอร์ที่โทรเข้ามาก็คือพ่อ..

เสียงโทรศัพท์นั้นยิ่งทำให้แม่ เหยียบคันเร่งรถเพื่อคำรามกลบเสียงนั้น

มันทำให้ฉันเริ่มกลัว ด้วยความเร็วและแรงของรถสุดหรูคันโปรดของแม่

" ..พ่อ.." ฉันหลับตาปี๋และเรียกหาพ่อเบาๆ

" เรียกหาคุณพ่องั้นเหรอเอวา? " แม่ที่ได้ยินหันมาถามฉันด้วยเสียงสั่นเครือ

เพราะทุกครั้งที่ฉันรู้สึกกลัวพ่อจะเป็นเพียงผู้ชายที่ฉันคิดถึง และรู้สึกปลอดภัย

" คุณพ่อน่ะ...เขาทิ้งเราไปหาผู้หญิงคนอื่นแล้วลูก " นั่นคือสิ่งที่แม่ตอบกลับมาก่อนจะปล่อยโฮร้องไห้อย่างหนัก

" เขาไม่เหลือความรักให้เราอีกแล้ว " สิ่งที่แม่พูดมันทำเอาฉันที่ได้ยิน ต้องรีบเอามือปิดหูทันที

" ไม่..ไม่ใช่ค่ะ คุณพ่อรักเรานะคะแม่ " ฉันส่ายหน้าและเถียงไป

" คุณแม่ต้องรับโทรศัพท์คุณพ่อก่อน พ่อต้องมีคำอธิบายแน่ๆ " ฉันพยายามจะฝืนไม่ร้องไห้ แต่ก็อดไม่ได้

การที่เราเป็นเด็ก เรื่องที่ทำให้เรารู้สึกแย่ที่สุดในช่วงชีวิตนั้น

ก็คงไม่พ้นเวลาเห็นพ่อกับแม่ ทะเลาะกัน...แบบนี้...

ฉันหยิบโทรศัพท์ของแม่มา และกดรับสายของพ่อทันทีอย่างถือวิสาสะ

" อย่านะ เอวาลีน " แม่หันมาขึ้นเสียงใส่ฉัน

แต่ฉันกดรับสายไปเรียบร้อยแล้ว

" คุณพ่อค่ะ คุณพ่อ.." ฉันเรียกหาปลายสายเสียงสั่นทั้งน้ำตา

" คุณแม่บอกว่า คุณพ่อไม่รักเราแล้ว ทำไมละคะ ทำไมกัน?? " ฉันพยายามจะถามเอาคำตอบ

" เอวาลูก..ไม่ใช่แบบนั้นนะ.." เสียงปลายสายตอบมาเพียงแค่นั้น

แต่ยังไม่ทันที่จะได้รับคำตอบอะไรเลย

ฟุบ โทรศัพท์ก็ถูกคุณแม่กระชากไปทันที

" เลิกตามรังควานพวกเราสักที ใบหย่าอยู่บนโต๊ะ แต่ถ้าคุณไม่ยอมเซ็นหย่าให้ฉัน"

" เราก็คงเจอหน้ากันอีกทีในชั้นศาล " แม่พูดออกไปอย่างใส่อารมณ์

แววตาของเธอเต็มไปด้วยความเจ็บปวด และแบกรับเรื่องต่างๆมากมาย

เกินกว่าที่เด็กอย่างฉันจะเข้าใจ มันเป็นความโกรธที่แสนเจ็บปวด เป็นความเกลียดที่เต็มไปด้วยความรู้สึกผิดหวัง

ปลายสายพูดแทรกออกมา แต่ฉันไม่ได้ยินทั้งหมดว่าคุณพ่อพูดอะไร

" ลูกงั้นเหรอ?​" แม่หันมามองหน้าของฉัน ตาของท่านบวมช้ำจากการร้องไห้มาตลอดทาง

ฉันทำได้แค่ใช้มือน้อยๆ เช็ดให้ท่านเบาๆ

"ลูกก็ต้องอยู่กับฉันสิ " แม่ขึ้นเสียงกลับไปอย่างไม่ยอม

" ฉันจะไม่ยอมปล่อยให้ลูกของฉันอยู่กับบรรดาเมียน้อยเมียเก็บคนไหนของคุณทั้งนั้น " แม่พูดออกไปและกำพวงมาลัยรถเอาไว้แน่น พ่อยังคงโต้กลับมาอย่างไม่มีท่าทีว่าจะยอม" ทำไมฉันจะเอาลูกไปไม่ได้ ลูกเป็นของฉันคนเดียว " แม่โต้เถียงกลับไปหลังจากที่พ่อพยายามพูดอะไรบางอย่าง

" รักฉันกับลูกงั้นเหรอ? " แม่ถามพ่อย้อนกลับไป

" ถ้ารักแล้วทำไมถึงทำ?? "

" ทำไมอลัน? ทำไมคุณถึงทำร้ายครอบครัวของเรา " แม่พ่นคำถามที่เจ็บปวดออกไป และร้องไห้อย่างใจจะขาด

เสียงปลายสายของพ่อพยายามอธิบายอะไรบางอย่าง แต่เหมือนว่าแม่จะไม่รับฟังใดๆ" ยังไงลูกก็ต้องไปกับฉัน คุณจะไม่มีทางได้เห็นหน้าลูกอีก" แม่พูดเสียงแข็ง ก่อนจะหันมามองฉันเป็นระยะ ระหว่างที่เราขับรถมุ่งหน้าตรง ไปยังหนทางที่มืดสนิท และเลี้ยวคดเคี้ยวตามเส้นทางขึ้นเขา

" ไม่มีผู้หญิงคนไหนรักลูกของเรา ได้ดีเท่ากับฉัน"

" และคนเลวๆแบบนี้จะต้องรู้สึกผิดไปทั้งชีวิต " แม่พูดก่อนจะตัดสายของพ่อทิ้งไปอีกครั้ง และโยนโทรศัพท์ไปที่เบาะหลัง