3.เป็นเรื่อง
ในความคิดของท่านเคาน์ มันมีแค่ว่าเขาอยากจะฆ่าเธอให้ได้ในคืนนี้เลยงั้นเรอะ!! ให้ตายสิคนดีๆที่ไหนจะรั้งอยู่ที่นี่ทั้งๆ ที่รู้เจตนาอันชัดเจนของอีกฝ่ายล่ะ
สายตาของเขาที่มองมา เหมือนกับสัตว์นักล่าที่กำลังจ้องเหยื่อด้วยความหิวโหย..นักล่าแบบนักล่าจริงๆ ไม่ใช่แบบสิบแปดบวกอ่ะนะ..
“ข้าทำเช่นนั้นไม่ได้หรอกนะคะนายท่าน คือว่า..ข้า..”
เอาสิ พูดออกมาสิ เขาจะรอฟังว่าเธอจะหยิบยกเหตุผลแบบไหนออกมากล่าวอ้างอีก
“คือว่า..ข้าน่ะ ข้า...”
คิดสิ! คิดสิโว้ย หากไม่มีเหตุผลที่ดีพอรับรองได้เลยว่าคืนนี้ฉันจะต้องตายอย่างแน่นอน..รีบๆ คิดเลยจีเซล
จะว่าไป หากไอเท็มอ่านใจคูลดาวน์อยู่เช่นนั้นหากฉันใช้ไอเท็มอีกอันจะได้ไหมนะ
เลือกใช้ไอเท็มใหม่..การโน้มน้าวจิตใจ
“คือว่าข้าน่ะไม่เหมาะที่จะนอนที่นี่หรอกนะคะ ข้าไม่อยากให้ชื่อเสียงอันดีงามของท่านเคาน์ต้องแปดเปื้อนเพราะสาวใช้เช่นข้า แต่ก่อนที่ข้าจะกลับไป ข้าจะกล่อมนายท่านนอนก่อนนะคะ”
อีกฝ่ายนิ่งอึ้งไปในทันทีที่จีเซลกล่าวถ้อยคำพวกนั้นออกมา ก็แน่ล่ะสิ่งที่เธอกล่าวออกไปมันไม่ใช่ประโยคธรรมดาๆ แม้แต่นิดเดียว ที่เธอกล่าวออกไปมันคือถ้อยคำที่กล่าวออกมาโดยใช้ไอเท็มลับยังไงล่ะ
ฟาเบียนไม่เข้าใจเหมือนกันว่าอยู่ๆ ทำไมเขาถึงรู้สึกง่วงเช่นนี้ เขาก้มมองมือของจีเซลที่กำลังจับจูงมือของเขาไปที่เตียงก่อนจะล้มตัวนอนอย่างว่าง่าย
“ท่านเคาน์จะนอนหลับฝันดีอย่างแน่นอน นอนเถอะนะคะ พรุ่งนี้เช้าข้าจะมาปลุกท่านตามเวลาแน่ๆ”
เธอกล่าวออกมาพร้อมกับส่งยิ้มให้เขา ในช่วงเวลานั้นไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมฟาเบียนถึงมองว่ารอยยิ้มนั้นของจีเซลมันช่างงดงามมากเหลือเกิน เขาหลับตาลงก่อนจะเข้าสู่ห้วงนิทราอย่างรวดเร็ว และเมื่อเห็นว่าเขาหลับไปแล้ว จีเซลก็รีบลุกขึ้นในทันที
เธอพ่นลมหายใจ ราวกับหลุดพ้น เมื่อเดินออกมาจากห้องนอนของท่านเคาน์
วันนี้ดูเหมือนว่าเธอจะรอดไปอีกวันเพราะได้ไอเท็มลับในการช่วยเหลือ แต่ทว่าวันพรุ่งนี้หรือว่าวันต่อๆไปละโว้ย เธอควรจะทำอย่างไรดี
หรือว่าฉันควรจะหนีไปซะให้รู้แล้วรู้รอด..ใช่แล้วหนีดีกว่า
“คุณผู้เล่นไม่สามารถออกจากคฤหาสน์ซากอสได้นะครับ เนื่องจากยังไม่ได้โหลดทรัพยากร และยังไม่ได้ปลดล็อคแผนที่ใหม่ๆ ด้วย..”
“......”
นี่จะบอกว่าฉันจะต้องติดอยู่ที่นี่ไปจนกว่าจะปลดล็อคแมฟอื่นๆ งั้นเรอะ!
แกก็ใจร้ายเกินไอ้เกมบ้า ระหว่างปลดล็อคแผนที่ใหม่กับตาย ไม่รู้ว่าอะไรมันจะเดินทางมาถึงก่อน
“อย่าลืมจุดประสงค์ในการเข้ามาในเกมนี้สิครับ คุณผู้เล่นเข้ามาเพื่อสืบค้นข้อมูลของเคาน์ซากอสเพื่อไปคอยช่วยเหลือดยุคเดเมี่ยนนะครับ”
ฉัน..มาที่นี่ทำไม? พอคิดเรื่องนั้นภาพใบหน้าของเดเมียนก็ผุดขึ้นมาในทันที..จริงอยู่ที่เดเมี่ยนคือลูกรัก แต่ว่าจะให้ฉันติดอยู่ที่นี่ตลอดเลยงั้นเหรอ? ติดอยู่กับตัวร้ายแสนชั่วคนนั้นเนี่ยนะ..
“ล้อเล่นรึเปล่าเนี่ย”
“แน่นอนว่าทางระบบของเกมไม่ได้ล้อเล่นอย่างแน่นอน อีกทั้งคุณผู้เล่นเป็นผู้กดตกลงด้วยมือของท่านเองเลยนะครับ ทางเราไม่ได้บังคับสักหน่อย..จากนี้ไประบบจะทำการปรับปรุงเพื่ออัปโหลดทรัพยากร ผมจะหายไปสักระยะนะครับ แล้วก็เพราะชีวิตของคุณผู้เล่นขึ้นอยู่กับตัวละครเคาน์ซากอส ดังนั้นแผนที่จะได้รับการปลดล็อคจากการที่คุณผู้เล่นออกเดินทางไปพร้อมท่านเคาน์เท่านั้น ขอให้โชคดีแล้วพบกันใหม่”
จีเซลอ้าปากค้าง เกมบ้านี่..ระบบก็กำลังปรุงปรุงแล้วจะให้เธอเข้ามาเล่นเพื่ออะไรกัน!!
ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมชีวิตของฉันมันถึงได้ดูสิ้นหวังอะไรขนาดนั้น หากอยากออกนอกคฤหาสน์ก็จะต้องให้ท่านเคาน์พาไปอย่างนั้นหรือ?
“จีเซล..”
ผู้ที่เดินออกมาจากทางเดินที่มืดมิดคืออันนา สาวใช้ที่นอนห้องเดียวกันกับฉัน
“ข้าเห็นว่าเจ้าไม่กลับมาสักทีก็เลย..มาตามน่ะ”
ดวงตาของจีเซลพลันอ่อนลงเล็กน้อย เธอเดินเข้าไปหาอันนาก่อนจะโผกอดสาวใช้ผู้นั้น
“ข้ากลับมาแล้ว..กลับไปกันเถอะ ข้าง่วงแล้ว”
อันนามองหน้าของจีเซลด้วยความเป็นห่วง
“เจ้าคงไม่ได้ถูกนายท่านดุด่าอีกหรอกใช่ไหม”
จีเซลยกมือขึ้นมาโบกไปมาพร้อมกับหัวเราะ
“จะเป็นเช่นนั้นได้อย่างไรกัน ข้าก็แค่ทำงานเสร็จช้าก็เท่านั้น”
อันนาผ่อนลมหายใจยาวผ่านปลายจมูก
“หากเป็นเช่นนั้นก็ดีแล้ว ถึงแม้ว่าเจ้าจะได้เป็นสาวใช้ของนายท่านแต่ถึงอย่างนั้นเจ้าก็ต้องเว้นระยะห่างให้ดีเข้าใจไหม..นายท่านอันตรายยิ่งนัก”
จีเซลพยักหน้ากับคำเตือนของอันนา
“ข้าเข้าใจแล้วอันนา ข้าจะไม่ใกล้ชิดนายท่านมากเกินไปหรอก..”
เพราะเธอเองก็ยังอยากจะมีชีวิตอยู่ต่อไป ยังไม่อยากจะตายหรือว่ายอมแพ้ง่ายๆ เช่นนี้หรอก
.
.
แสงแดดสาดส่องเข้ามาผ่านม่านหน้าต่าง รอบข้างพลังเงียบสงบมากกว่าที่เคย เขาลืมตาขึ้นมาอย่างช้าๆ ก่อนจะลุกขึ้นนั่ง..
“.....”
นี่คงเป็นเช้าแรกที่เขาสงบสุขและอารมณ์ดีมากกว่าทุกวัน คงเพราะเขานอนหลับได้เต็มอิ่มมากกว่าที่เคย
แสงแดดยามเช้างดงามเช่นนี้เองสินะ แถมยังมีกลิ่นดอกไม้อ่อนๆ ด้วย นี่ช่างสวยงามและชวนให้เขารู้สึกดีมากจริงๆ
ว่าแต่จีเซลยังไม่มาอีกอย่างนั้นหรือ..เขาสั่งให้นางเข้ามาปลุกเขาตั้งแต่เช้า..
พอฟาเบียนเหลือบมองนาฬิกาเขาก็ชะงักไปชั่วครู่ เมื่อเขาพบว่านี่เป็นเวลา..สิบเอ็ดโมงแล้ว
ฟาเบียนดีดตัวเองลุกจากที่นอนโดยเร็ว เขาเดินไปที่ประตูก่อนจะถีบมันออกด้วยความหงุดหงิด
“จีเซลอยู่ที่ไหน!! ไปตามนางมาเดี๋ยวนี้!!”
เขามีงานที่ต้องเข้าประชุมตอนแปดโมง แต่ตอนนี้มันสิบเอ็ดโมงและดูเหมือนว่าการประชุมจะเสร็จสิ้นไปแล้ว
จีเซล จีเซล จีเซล!
“ไม่ต้องไปตามนางแล้ว นำทางไป ข้าจะไปตามนางเอง!”
เมื่อกล่าวจบฟาเบียนก็คว้าเสื้อคลุมอาบน้ำมาใส่ด้วยท่าทีขึงขัง
“นายท่านครับเรื่องนั้น..”
“ที่นี่คือคฤหาสน์ของข้า มีเหตุผลอะไรที่ข้าจะเดินไปในบ้านของข้าไม่ได้”
ฟาเบียนจ้องใบหน้าของพ่อบ้านคอลตันด้วยแววตาที่ราวกับมีไฟลุก เขาโกรธแค้นมากจริงๆ ที่สตรีผู้นั้นรับปากเอาไว้แล้วทำไม่ได้น่ะ
ฆ่าเลยดีไหมนะ!! จะมีสักกี่คนที่ทำให้เขาโกรธเลือดขึ้นหน้าได้เช่นนี้กัน!!
อันนาที่กำลังทำความสะอาดทางเดินถึงกับเบิกตากว้างด้วยความตกใจเมื่อเธอเห็นนายท่านกำลังเดินไปยังเรือนพักของสาวใช้
แย่แล้วละสิ..นี่อย่าบอกนะว่านายท่านจะไปหาจีเซลน่ะ เป็นเรื่องแน่ๆ เพราะจีเซลยุ่งกับการดูแลนายท่านจนลืมสักผ้า เมื่อคืนจีเซลจึงไปซักเสื้อผ้าของตนเองเอาไว้ อีกทั้งนางยังนอนหลับไปทั้งๆ ที่ไม่ได้สวมอะไรอีกต่างหาก
“นะ..นายท่านคะ เข้าไปไม่ได้..”
