บท
ตั้งค่า

1

“อย่าให้กี๋รู้นะว่าอุ๋มกลับไปดีกับนายนาวินนั่นอีกน่ะ”

พิชชาอรบ่นหญิงสาวอีกคนที่หน้าตาละม้ายคล้ายกับเธอ แต่อีกฝ่ายดูอ่อนหวานนุ่มนวลมากกว่าทั้งภายในและภายนอก ต่างจากเธอที่เป็นน้องแต่ตัวโตกว่าพี่สาว

ขณะปิดกระจกหลังจ่ายค่าน้ำมันเรียบร้อยแล้วเร่งเครื่องขับเคลื่อนออกจากมหานครมุ่งหน้าสู่เมืองพัทยาในทันที

“ไม่หรอกกี๋ เราแค่จะไปถามเรื่องเงิน กี๋ก็รู้นี่ว่าตอนนี้เราตกงาน แล้วกี๋ทำงานคนเดียวจะเลี้ยงเราไหวหรือไง ไหนจะค่าเช่าห้อง ค่ากินคูณสองหมดเลยนะ”

อมิตาร่ายยาวรู้ว่าถ้าพูดเรื่องเงิน พิชชาอรต้องยอมอย่างแน่นอน

“ก็บอกให้ย้ายมาอยู่ห้องเดียวกัน กินด้วยกัน ตัวก็ไม่มา แล้วถ้าไม่ไหวจริงๆงั้นกลับไปของานอาตรีทำ” คนน้องว่าอย่างหน้าตาย อ้างถึงญาติเพียงคนเดียวของทั้งคู่ ที่เหลืออยู่

“อาตรีเหรอ ไม่เอาหรอก ไม่อยากไปเฝ้าสวนกับคอยเก็บค่าเช่าแผงให้แก” อมิตาว่าก่อนจะมุ่ยหน้าเมื่อนึกถึงบ้านต่างจังหวัด

“ไม่แน่นะ บางทีกี๋ก็คิดว่าถ้าทำงานเก็บเงินได้สักก้อนแล้วจะกลับไปอยู่กับอาตรี ปลูกผักเลี้ยงหมูเลี้ยงไก่ สบายจะตายไป”

“กี๋เนี่ยนะจะไปปลูกผักเลี้ยงหมูเลี้ยงไก่” อมิตาถามยิ้มๆ หน้าตาบอกว่าไม่เชื่ออย่างปากพูด

“ทำไม” เจ้าตัวย้อนถามยวนๆ

“เรานึกภาพกี๋ทำแบบนั้นไม่ออกเลย”

“เรื่องนั้นยังอีกนาน เราว่าอุ๋มจัดการเรื่องของตัวเองก่อนเถอะ” ว่าจบตั้งหน้าตั้งตาขับรถต่อสู่จุดหมายปลายทางที่อมิตาขอร้องให้พาไปพบกับอดีตคนรักเก่าที่ผับของเขา เพื่อจัดการกับทรัพย์สินที่เคยซื้อให้เมื่อตอนยังคบหากันดีอยู่

นาวินคือผู้ชายคนแรกที่ได้ทั้งตัวและหัวใจของอมิตาไปเต็มๆ พิชชาอรรู้ดีว่าพี่สาวของเธอยังรักหมอนั่นอยู่ไม่เสื่อมคลาย ทั้งๆที่ผู้ชายคนนั้นไม่ได้คิดจริงจังกับพี่สาวของเธอเลยแม้แต่นิดเดียว

จะอะไรนักหนา

หมอนั่นรวย หน้าตาดีระดับชาติ และยังมีสาวๆสวยๆรุมล้อมหน้าล้อมหลังออกแยะ เป็นไปได้น้อยเต็มทีที่จะมาลงเอยกับพี่สาวของเธอ ฝั่งนั้นคงแค่อยากลิ้มลองอมิตาเล่นๆเพียงเท่านั้นล่ะมากกว่า

แม้อมิตาจะเกิดก่อนเธอแต่อมิตานั้นเป็นคนหัวอ่อน ใบหน้าน่ารักอ่อนหวานราวกับตุ๊กตา ไหนจะรูปร่างที่ดูเล็กกะทัดรัดจึงดูราวกับว่ายังเป็นเด็กสาวเสมอ แต่เธอนั้นสูงโปร่งกว่าคนเป็นพี่โขอยู่ ใบหน้าของเธอแม้ใครๆจะบอกว่าสวยเฉี่ยว แต่หากไม่ยิ้มจะดูบึ้งดุอยู่ทุกเวลา

“กี๋ไปที่ร้านของวินเลยแล้วกัน อุ๋มถามเด็กในร้านแล้ว วันนี้เขาเข้าไปทำงานที่นั่น” อมิตาบอกเมื่อเห็นว่าอีกไม่กี่มากน้อยจะเข้าในเขตของเมืองพัทยาแล้ว

“หน้าแบบนั้นไปทำงานด้วยหรือไง น่าจะไปนั่งกินเหล้ามากกว่า พอเมาก็หิ้วสาวกลับห้อง” พิชชาอรพูดเพราะรู้นิสัยของฝ่ายนั้นดี

เกือบเที่ยงคืนกว่าที่พิชชาอรจะจอดรถลงได้ที่หน้าผับเปิดใหม่ ตรงใจกลางพัทยา

“มีเงินอย่างเดียวไม่พอนะเนี่ย ถึงจะเปิดร้านเหล้าสิ้นคิดแบบนี้ได้”

พิชชาอรบอกหมิ่นๆ ขณะลงจากรถ มองไปทั่วบริเวณอย่างไม่ใคร่จะพอใจเท่าไรนัก แล้วเดินตามแรงจูงของพี่สาวเข้าไปด้านในด้วยกัน

“เด็กเก่าผมว่าจะมาคุยเรื่องขายคอนโด ป่านนี้แล้วยังไม่เห็น สงสัยไม่มาแล้วมังฮะ” ญาติผู้น้องของปุญญ์บอกเล่าให้ฟัง ทั้งยังยิ้มส่งให้สาวสวยวัยแรกรุ่นอยู่ถัดไปอีกโต๊ะ ที่อีกฝ่ายโปรยยิ้มให้อย่างเชื้อเชิญ

ปุญญ์ถามขณะเอนหลังปิดตาลง ไม่ได้ใส่ใจกับคำตอบเท่าใดนัก“คนไหนอีก นี่เยอะจนพี่จำหน้าไม่ได้แล้วนะวิน”

“อย่าว่าแต่พี่เลยฮะ ผมเองก็ยังแทบจะจำไม่ได้” เจ้าตัวพูดอย่างติดตลก แล้วว่าต่อคล้ายคาดเดาเมื่อเลยเวลานัดไปแล้วยังไม่เห็นว่าจะมาตามนัด “สงสัยจะรอน้องสาวเขาเลิกงานก่อน ถึงมาได้”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel