ตอนที่ 4

รวิกานต์อิ่มเอมใจอย่างบอกไม่ถูกรู้สึกประทับใจในความตั้งใจจริงของเขาเป็นที่สุด รอยยิ้มและเสียงหัวเราะของทั้งสองคนต่างดังออกมาประสานกันด้วยความสุข

หลังจากที่บริกรเก็บจานอาหารหวานออกไปจากโต๊ะ นักไวโอลินและบริกรหนุ่มก็อันตรธานหายไปจากตรงนั้นด้วย

ความเงียบเข้าครอบคลุมโดยทันที ได้ยินเพียงเสียงจิ้งหรีดเรไรที่ดังระงมกลบเสียงลมหายใจที่ดังขึ้นของรวิกานต์ ตลอดการทานอาหารเธอใจเต้นแรงเพราะสายตาที่จดจ้องมองอย่างตั้งใจของเบน

“เต้นรำกับผมได้ไหมครับ” เขาลุกขึ้นโค้งตัว ยื่นส่งมือมาให้เธอจับ เกวมองหน้าเขาด้วยความฉงน เพราะไม่ได้ยินเสียงเพลงที่บรรเลงมาจากตรงไหนเลย แต่ก็ยื่นมือให้เขาจับ

เบนประคองเธอเข้าสู่อ้อมแขน สองคนสบสายตากันในระยะประชิด เบนพาเธอเต้นรำโดยอาศัยจังหวะที่นับในใจ ลมหายใจเธอแรงจนเขาจับสังเกตได้ว่าเธอประหม่า เธอส่งยิ้มตอบรับยิ้มหวานๆ ของเขาอยู่ตลอดเวลา

‘บ้าแล้ว คุณเบนเล่นจ้องกันขนาดนี้’ เธอคิดในใจ ใจเต้นโครมครามคร่อมจังหวะ ทำให้ขยับขาแทบไม่ถูก

“ผมชอบตาคุณจัง สวยมาก และดูจริงใจไม่มีพิษภัย” เขาเอ่ยเสียงทุ้มโน้มใบหน้าเข้ามาใกล้ๆ สองร่างที่แนบชิดสัมผัสได้ถึงความร้อนรุ่มที่อยู่ในกายของกันและกัน

เบนโน้มใบหน้าเขามาแนบชิด เธอไม่กล้าขืนตัว ยอมให้ใบหน้าหล่อเหลาของเขาคลอเคลียอยู่ที่ข้างแก้มนวล

“จะเร็วไปไหมถ้าผมจะบอกว่า ผมประทับใจคุณมากตั้งแต่แรกเห็น และผมอยากจะบอกว่า ผมชอบคุณ” คำพูดเบาๆ ที่ข้างแก้ม ทำให้เธอถึงกับหน้าร้อนออกผ่าวๆ

รวิกานต์ถึงกับตะลึงอย่างไม่คาดคิด เมื่อเขาจ้องสบสายตา มือหนึ่งที่ประคองอยู่ที่เอวคอดเลื่อนมารั้งยึดท้ายทอยของเธอเอาไว้ ก่อนประกบริมฝีปากลงมาบนกลีบปากสีสวยของเธออย่างรวดเร็ว มือที่จับประสานกันไว้ ถูกเบนบีบเอาไว้เบาๆ

ปลายลิ้นเรียวอุ่นค่อยๆ แทรกเข้ามาในโพรงปากของหญิงสาวเพื่อควานหาความหวานให้ชื่นใจ เธอยืนตัวแข็งทื่อ ขาแข้งเริ่มอ่อนแรง หากไม่ได้มือเขาที่รั้งโอบเอาไว้เธอคงร่วงไปกองกับพื้นแล้ว

ความหวานฉ่ำในรสจุมพิตซ่านซ่าไปถึงใจ อีกมือหนึ่งของรวิกานต์รั้งรัดรอบคอเขาไว้เป็นที่ยึดเหนี่ยว

เธอจูบตอบเขาทั้งๆ ที่ไม่เคยจูบกับใครหรือชายหนุ่มคนใดมาก่อน ชายหนุ่มผู้เจนในเรื่องบนเตียงและความรักพาเธอเข้าสู่ห้วงของความสิเน่หา สาวสวยใจเต้นระส่ำแทบหลุดออกมานอกอก

ปลายนิ้วแกร่งคลึงลูบสะโพกกลมมนของเธอ และกดอัดตัวเธอเข้าชนกับหน้าขาแข็งแรงของเขา เธอรับรู้ได้ถึงความต้องการที่อัดแน่นอยู่กลางลำตัวของเบน เขาช่างเก่งนัก ขุดหลุมพรางพาเธอเข้าสู่บ่วงรัก หัวใจของเกวหล่นตุบหลงเคลิ้มไปกับรสสัมผัส และจูบที่ดูดดื่มของเขาเสียแล้ว

สองแขนแกร่งช้อนร่างของเธอขึ้นมาทั้งตัว ใบหน้าสวยๆ ของร่างบางถูกเขาคลอเคลียอยู่ไม่ห่าง

เธอได้แต่หลับตาพริ้ม ไม่กล้าเอ่ยปฏิเสธออกมาเช่นไร เพียงหลังของเธอสัมผัสกับที่นอนนุ่มที่ยวบตัวลงไปด้วยน้ำหนักของสองคนที่ถูกทิ้งตัวลงไป เบนทาบทับร่างของเขาบนตัวเธอแทบทันที รวิกานต์มองเขาด้วยความตกใจ ตาเปิดเบิกออกกว้าง เห็นเขาส่งยิ้มมาให้ ยกมือขึ้นลูบปอยผมที่ระลงมาปิดหน้าผากให้อย่างอ่อนโยน

แสงเทียนที่ถูกจุดในตะเกียงแก้วใสๆ เรียงรายเอาไว้ ส่องแสงสว่างไปทั้งห้อง ม่านในห้องถูกเปิดจนเห็นดวงดาวที่พราวอยู่เต็มท้องฟ้า

“คุณเกรทถ้าบอกว่าผมรักคุณ คุณจะเชื่อไหม” เขาพูดออกมาดื้อๆ เธอตกใจทำตากลมโต หัวใจเต้นแรงกว่าครั้งไหนๆ

“เอ่อ คุณเบน เกรทว่ามันคง... เอ่อ... จะเร็วไปไหมคะ” เธอใช้สองมือผลักดันหน้าอกของเขาให้ขยับลงไปจากตัวเธอ จ้องมองใบหน้าของเบนด้วยความเขินอายฉายออกมาอย่างชัดเจน แต่สายตาปกปิดความพึงพอใจที่เธอมีต่อเขาไม่ได้ เบนเหมือนผู้กำชัยชนะ เขาโปรยเสน่ห์แล้ว ไม่มีพลาดแม้แต่ครั้งเดียว

“ผมอยากอยู่เมืองไทย และถ้าอยู่ที่นี่จริงๆ ถ้าผมมีคุณเกรทอยู่ข้างกาย ผมคงเป็นผู้ชายที่โชคดีที่สุดในโลกแน่ๆ” เขาอ้อนด้วยคำพูดหวานๆ ใบหน้าของเขาช่างน่าหลงใหลนัก เกวยังจ้องมองเขาด้วยความตะลึง

ความหล่อคมคายกับรอยยิ้มที่ฆ่าผู้หญิงได้ลอยอยู่ตรงหน้า เธอได้แต่ลืมตาค้างกลั้นลมหายใจ ตอนนี้ใบหน้าหล่อเข้มนั้นชิดแนบเข้ามาใกล้ ก่อนจะเลื่อนริมฝีปากของเขาปิดริมฝีปากของเธอที่เผยอออกด้วยความตกใจ

ความหวานฉ่ำชุ่มไปทั้งใจของชายหนุ่ม เขารู้สึกพึงใจกับร่างบางนุ่มนิ่มตรงหน้าที่ไม่ได้มีปฏิกิริยาต่อต้าน แถมยังจูบแลกลิ้นตามแรงดึงดูดของเขา

จากจุมพิตที่หวานละมุน ขยับเป็นยั่วเย้า จังหวะปลายลิ้นที่ดูดดุนเริ่มหนักหน่วง เธอเพิ่งเคยจูบกับผู้ชายเป็นครั้งแรกแทบหายใจไม่เป็น ตัวสั่นสะท้านอยู่ใต้ร่างหนาๆ ของเขา ซึ่งเขารับรู้ได้ถึงร่างกายที่สั่นเทาของเธอ แต่ก็ไม่ได้คิดหักห้ามใจ มันกลับกระตุ้นความกระหายรักในตัวเธอให้เพิ่มมากขึ้น

‘อายุเธอก็ไม่ใช่น้อย น่าจะมีประสบการณ์ทางนี้มาบ้าง’ เขาคิดเห็นเหมือนเข้าข้างตัวเอง ลืมคำเล่าของมารดาว่า ผู้หญิงไทยดีๆ เขามักจะรักนวลสงวนตัว

เขาผละออกจากริมฝีปากสาวสวย ใบหน้ายังระเลื้อยตามลำคอสีนวล สองมือกอบกุมขยำหยอกเย้าเบาๆ กับหน้าอกหน้าใจที่ใหญ่พอดีมือกำลังสวยของเธอภายใต้เสื้อผ้าราคาแพง

“คุณเบน... อื้อ... อย่า... ค่ะ” เธอร้องห้ามเสียงแผ่ว ตอนนี้ยังหายใจไม่ทั่วท้อง รู้สึกขนลุกเกรียวไปทั้งตัวไปกับสัมผัสรัญจวนของชายหนุ่มที่ซุกไซ้หาความหอมหวานไปทั้งตัว

ชุดที่เปิดไหล่ และบราเซียแบบไร้สาย ดูช่างเป็นชุดที่เป็นใจให้เขานัก เบนดึงรั้งให้มันหลุดลงไปกองอยู่ที่เอว สองมือประสานสอดปลดตะขอบราเซียที่อยู่ที่ด้านหลัง เธอยกตัวขึ้นตามริมฝีปากร้อนที่ระเลื้อยบนเนินเด่น เปิดโอกาสให้เขาเชยชมเหมือนเต็มใจ

ริมฝีปากร้อนระไล่ซุกไซ้จนมาครอบครองบนยอดสีสวยงาม สองฝ่ามือเคล้าคลึงฐานปทุมคู่งามเบียดชิดเข้าหากัน ส่งใบหน้าหล่อเหลาของเขาลงคลุกเคล้า เธอได้แต่เผยอปากร้องครวญครางเรียกชื่อเขาแผ่วๆ สองมือสอดขยุ้มเส้นผมของเขาอย่างลืมตัว