EPISODE 5 สินค้ามูลค่าสิบล้าน
“ถ้ากล้าสร้างเรื่องอีก ฉันไม่เอาเธอไว้แน่”
มาดามแพมเอ่ยข่มขู่เด็กสาวด้วยสีหน้าจริงจัง แววตาคมกริบตวัดมองผ่านกระจกเงา ก่อนจะหันไปย้ำเตือนช่างแต่งหน้าสาวสองอีกครั้ง
“เหลือเวลาอีกสิบห้านาที”
“ใกล้จะเสร็จแล้วค่ะ มาดาม” ช่างแต่งหน้าปริปากตอบด้วยน้ำเสียงกระตือรือร้นพร้อมขยับมือบรรจงทาลิปสติกสีระเรื่อบนเรียวปากกระจับสวยของเด็กสาว
แม้หัวใจของลดาจะเต้นรัวแรงเพราะถ้อยคำข่มขู่ของมาดามแพม แต่เธอก็ทำได้เพียงก้มหน้ารับชะตากรรมโดยการนั่งนิ่งๆ ปล่อยให้ช่างแต่งหน้าเติมแต่งทุกอย่างตามต้องการ
ดวงตากลมโตวูบไหวอีกครั้ง ครั้นนึกถึงสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นหลังจากนี้ หัวใจหนักอึ้งเมื่อคิดว่าความงามที่ถูกแต่งแต้มขึ้น ไม่ใช่เพื่อตัวเธอเอง แต่เพื่อเป็นสินค้าให้กับใครบางคนที่พร้อมจะจ่ายในราคาสูงสุด
เด็กสาวเริ่มขยับตัวเล็กน้อย รู้สึกถึงชุดเดรสผ้าซาตินที่แนบชิดผิวกายราวกับพันธนาการ เธออยากจะถอดมันทิ้ง อยากลบเครื่องสำอางทั้งหมดออกจากใบหน้า แต่ทำได้เพียงกำมือเข้าหากันแน่น พยายามระงับความหวาดหวั่นที่ก่อตัวขึ้นในอก
มาดามแพมที่สังเกตเห็นปฏิกิริยาของเด็กสาวค่อยๆ โน้มตัวลงกระซิบน้ำเสียงเย็นยะเยือกกว่าเดิม
“อย่าลืมสิ ว่าถ้าเธอทำตัวมีปัญหา ผลจะเป็นยังไง”
ลดาสะดุ้งเล็กน้อยพร้อมลมหายใจที่สะดุด ก่อนจะรีบพยักหน้าตอบรับ ช่างแต่งหน้าซึ่งสังเกตเห็นสีหน้าของเธอทำทีเป็นหัวเราะแห้ง ๆ ก่อนจะปลอบประโลมด้วยความเห็นใจ
“ไม่ต้องกลัวนะจ๊ะ แค่ทำตัวน่ารัก ๆ เข้าไว้ ทุกอย่างจะผ่านไปด้วยดี”
แต่คำปลอบโยนนั้นไม่ได้ทำให้เด็กสาวรู้สึกดีขึ้นแม้แต่น้อย เพราะรู้ดีว่า สิ่งที่รออยู่ข้างหน้า ไม่มีอะไรที่เรียกว่า ‘ดี’ สำหรับเธอเลยสักนิดเดียว...
แสงไฟสว่างเจิดจ้าจากด้านบนสาดส่องลงมายังเรือนร่างเล็กที่ยืนโดดเด่นบนฟลอร์ซึ่งเป็นคนสุดท้ายที่จะถูกประมูลในค่ำคืนนี้
เด็กสาวพยายามปรับสายตาอันพร่ามัวให้กลับมาปกติก่อนจะเห็นใบหน้าของบรรดาผู้ชายที่กำลังจับจ้องเธอด้วยสายตาที่ทำให้ร่างกายเย็นเฉียบ
ในจังหวะนั้นเอง ที่เผลอเหลือบเห็นสายตาคู่หนึ่งซึ่งเธอจดจำได้เป็นอย่างดีว่าเคยพร่ำอ้อนวอนไปเมื่อหลายชั่วโมงก่อน
สายตาที่แตกต่างจากบุคคลอื่น ไม่ได้มองอย่างโลมเลียหรือต้องการความเป็นเจ้าของ แต่กลับฉายแววบางอย่างที่เธอไม่อาจเข้าใจได้ มันให้ความรู้สึกนิ่งสงบ แต่ลึกลงไปกลับเหมือนมีพายุบางอย่างซ่อนอยู่ในนั้น
แต่แค่เพียงได้สบตากับเขาชั่วขณะเดียว หัวใจของเธอกลับสั่นไหวอย่างบอกไม่ถูก...
“กูว่าเป็นเธอคนนี้” คาลิกซ์ออกความคิดเห็นด้วยน้ำเสียงราบเรียบ หลังจากละสายตาจากคนที่ยืนอยู่บนฟลอร์
“ใจตรงกับกูเลยว่ะเพื่อน” นัยน์ตาของแพทริคฉายประกายวาบอย่างนึกสนุก
“มึงกำลังใช้วิธีเดียวกับกูสินะ”
“ใช่! เพราะคนเราจะกะพริบตาถี่ในยามที่ตื่นตัวหรือตกอยู่ในสถานการณ์ยากลำบาก”
แพทริคเริ่มอ่านภาษากายของสาวๆ แต่ละคนมาสักพักแล้ว และเพิ่งรู้ว่าเพื่อนของเขาก็กำลังทำแบบเดียวกัน
“การเม้มริมฝีปากบ่อยๆ ของเธอ บ่งบอกว่ากำลังเจออะไรที่ผิดปกติ อะไรที่ไม่คุ้นเคย” คาลิกซ์แสดงความคิดเห็นต่อจากเพื่อน
“การใช้มือสัมผัสบริเวณลำคอ แสดงออกถึงความกังวลว่าจะมีสิ่งอันตรายเกิดขึ้น รู้สึกไม่สบายใจสุดๆ “ สายตาของแพทริคยังคงจับจ้องเธอคนนั้นไม่วางตา
“ซึ่งผู้หญิงอีกสองคนไม่ได้มีอาการแบบนั้น ราวกับเป็นเรื่องปกติของพวกเธอ”
คาลิกซ์เอ่ยปิดท้ายด้วยความมั่นอกมั่นใจ จะมีก็แต่อีกคนที่ไม่ยอมหยุดอยู่แค่นั้น
“ส่วนมึงเองก็เผลอยักคิ้ว หลังจากเห็นผู้หญิงคนนั้นปรากฏตัว”
“ใครใช้ให้มึงอ่านภาษากายของกู”
“เพราะกูมั่นใจ ว่ามึงกำลังสนใจเธอคนนั้นเป็นพิเศษ”
จริงอยู่...ที่คาลิกซ์ไม่อาจละสายตาจากผู้หญิงคนนั้นได้ แต่ก็ใช่ว่าจะมีอะไรที่มากไปกว่านั้น อย่างที่เพื่อนของเขากำลังกล่าวหา
“ถ้ามึงสนใจก็จัดสิวะ จะรออะไร”
“มึงไม่เห็นราคาที่พุ่งสูงแทบทะลุเพดานของเธอหรือไง กูไม่เข้าใจว่าทำไมคนเราต้องเสียเงินมากขนาดนั้น เพื่อผู้หญิงแค่คนเดียว”
“เงินแค่นั้นไม่ได้ทำให้ขนเพชรของมึงร่วงหรอกเพื่อน”
“ขอบาย”
“ถ้าอย่างนั้นกูเอาเอง”
“แต่มึงมีเมียแล้วนะ อีกอย่างก็เพิ่งจะแต่งงานไปยังไม่ถึงยี่สิบสี่ชั่วโมงด้วยซ้ำ”
“เมียก็ส่วนเมียสิ ไหนๆ มึงก็ไม่เอานี่”
“มึงก็ชอบหาเรื่องทำให้ครอบครัวแตกแยกอยู่นั่นแหละ”
“ก็น้องเขาสวยสดขนาดนั้น กูโคตรมั่นใจว่าเธอนี่แหละสาวบริสุทธิ์ทีเด็ดของงานนี้ ไม่มีหลอกลวงแน่นอน”
“...”
“และถ้ามึงไม่เอา กูจะเอา”
เสียงตัวเลขการประมูลยังคงดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง ราวกับไม่มีทีท่าว่าจะหยุดง่าย ๆ ในตอนนี้ราคาของเธอพุ่งทะลุสามล้านบาทไปแล้ว ทำให้มาดามแพมที่ยืนกอดอกเฝ้าดูอยู่ต้องเลิกคิ้วขึ้นอย่างประหลาดใจ มันเกินกว่าที่คาดไว้มาก
กระทั่งตัวเลขมาหยุดอยู่ที่ ห้าล้านบาท เสียงฮือฮาดังขึ้นทั่วทั้งห้อง ทุกคนต่างจับจ้องมาที่เด็กสาวบนเวทีราวกับเธอเป็นอัญมณีหายากของค่ำคืนนี้
“ห้าล้านบาทครั้งที่หนึ่ง...”
“ห้าล้านบาทครั้งที่สอง...”
และในจังหวะที่ค้อนกำลังจะเคาะลง
“สิบล้าน”
เสียงหนึ่งดังขึ้น ก้องกังวานไปทั่วทั้งห้อง ประหนึ่งหยุดทุกอย่างให้นิ่งงันชั่วขณะ
ดวงตาทุกคู่หันไปมองยังต้นเสียง แม้แต่เด็กสาวเองก็ต้องเบิกตากว้างด้วยความตกตะลึงและไม่มีใครกล้าสู้ราคาที่มากกว่านั้น
“สิบล้านบาทครั้งที่หนึ่ง...”
“สิบล้านบาทครั้งที่สอง...”
“และสิบล้านบาทครั้งที่สาม ปิดการประมูล!” เสียงเคาะค้อนดังขึ้นเป็นอันสิ้นสุด
ลดาแทบไม่อยากเชื่อ ว่าเพียงเพราะความบริสุทธิ์ผุดผ่องของตัวเองจะถูกประมูลไปในราคาที่มากมายมหาศาลถึงขนาดนั้น
และไม่รู้ด้วยซ้ำ ว่าเธอควรดีใจหรือเสียใจกันแน่...
