บท
ตั้งค่า

บทที่ 3 สติเลือนราง 18+

ชลารีนรีบจัดการธุระส่วนตัวให้เสร็จอย่างรวดเร็ว แล้วมานั่งรอคนของลีวายเพื่อออกไปซื้อเสื้อผ้า ประมาณหนึ่งชั่วโมงก็มีเสียงกดออดหน้าห้องดังขึ้น

“สวัสดีครับ ผมชื่อแดนจะเป็นคนพาคุณไปซื้อของแทนลูกพี่เอง” ทันทีที่เปิดประตู แดนดินไม่รอช้าแนะนำตัวให้หญิงสาวรู้จัก

“รบกวนด้วยนะคะ” ส่งยิ้มหวานให้แก่เขาอย่างเป็นมิตร

“นี่ครับ”

“อะไรเหรอคะ” คิ้วโก่งสวยเลิกขึ้นอย่างงุนงง ขณะมองบัตรเครดิตในมือของอีกฝ่าย

“บัตรของลูกพี่ครับ คุณสามารถใช้บัตรใบนี้ซื้อของตามที่ต้องการได้เลย” แดนดินอธิบายให้ชลารีนฟังด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม

“อืม” เผยยิ้มเล็กน้อยพร้อมเอื้อมมือรับ ลึก ๆ ในใจแอบรู้สึกกังวลเหลือเกินที่ต้องพึ่งพาลีวายทุกอย่าง แม้กระทั่งของใช้ส่วนตัว

“ไม่ต้องเกรงใจหรอกครับ ลูกพี่ผมเงินเยอะ ว่าแต่คุณชื่ออะไรเหรอครับ”

“ชลารีนค่ะ จะเรียกชลก็ได้”

“ผมขอเรียกว่าชลได้ไหม”

“ได้ค่ะ” ฉีกยิ้มกว้างอย่างโล่งอก อย่างน้อยคนตรงหน้าไม่ได้น่ากลัวเหมือนอย่างที่คิด

“งั้นไปกันเถอะ”

“ค่ะ”

หญิงสาวใช้เวลาในการออกไปซื้อของนานกว่าที่คิด กว่าจะกลับก็เป็นเวลาช่วงเย็น เมื่อเปิดประตูเข้าไปด้านในก็พบกับเจ้าของห้อง

“คุณอยู่เหรอคะ” เธอหอบของพะรุงพะรังพร้อมยกเท้าเดินเข้าไปด้านใน

“แดนล่ะ”

“ไปแล้วค่ะ”

“ได้ของที่ต้องการเรียบร้อยใช่ไหม” เอ่ยถามขึ้นขณะสายตามองดูข่าวสารบนจอสมาร์ตทีวี

“ค่ะ” หญิงสาววางของบนพื้นและก้าวเดินไปหาลีวาย ก่อนยื่นบัตรเครดิตคืนเจ้าของ “นี่คะ”

“ใบนั้นเก็บไว้ที่เธอเถอะ เผื่อมีของต้องซื้ออีก ฉันยังมีหลายใบ”

“หนูไม่มีของที่อยากได้แล้วค่ะ”

ถ้อยคำจากริมฝีปากอมชมพู ทำให้ลีวายชำเลืองดูถุงกระดาษบนพื้น แล้วดึงสายตามองคนตัวเล็ก

“ได้อะไรมาบ้างล่ะ”

“หนูซื้อของใช้ส่วนตัว แล้วก็เสื้อผ้าอีกเจ็ดชุด”

“เจ็ดชุดพอเหรอ” คิ้วเข้มขมวดเข้าหากันเชิงสงสัย คิดไม่ถึงเธอจะซื้อน้อยเกินกว่าที่เขาคาดไว้เยอะ

“พอค่ะ แค่นี้หนูก็รู้สึกเกรงใจจะแย่แล้ว”

“คิดมากไปได้” เสียงทุ้มเอ่ยขึ้นเบา ๆ ซึ่งดังพอให้เธอได้ยิน

“คุณคะ ถ้ามีอะไรให้หนูช่วยก็บอกมาได้เลย” แววตาที่มองคนตัวโตเต็มไปด้วยความหวัง เพราะไม่อยากทำตัวเป็นภาระของใคร ไม่ว่าอีกคนจะสั่งให้ทำอะไรก็พร้อมเต็มที่

“เธออยากทำงานไหม”

“ได้เหรอคะ” ดวงตากลมโตเบิกโพลงอย่างดีใจ หลังจากได้ยินประโยคนั้นจากปากหยัก

“งานแม่บ้านแบบนี้พอทำได้หรือเปล่า ถ้าทำได้ฉันจะฝากให้เธอทำที่คฤหาสน์ของเจ้านายฉัน”

“ได้ค่ะ งานอะไรหนูก็ทำได้หมด” ขอแค่มีงานทำ เธอก็จะมีเงินและไม่ต้องเป็นภาระของเขาอีกต่อไป

“อืม แล้วฉันจะจัดการให้ละกัน”

“เอ่อ คุณคะ แล้วเอกสารของหนูล่ะคะ”

“ของพวกนั้นฉันจะจัดการให้ ไม่ต้องห่วงหรอก”

“ขอบคุณมากนะคะ นี่ค่ะบัตรของคุณ” หญิงสาววางบัตรเครดิตบนโต๊ะตรงหน้าเขา แล้วหยิบถุงกระดาษและเดินขึ้นบันไดไปยังชั้นบนด้วยท่าทางดีใจสุดขั้ว

“ท่าทางจะดีใจมาก” เป็นครั้งแรกได้เห็นใครดีใจมากมายขณะนี้ทำเอาแปลกใจไม่น้อย ก่อนเหลือบมองบัตรพร้อมหยิบขึ้นมาดู

“เติบโตมาแบบไหนกันนะ”

วันเวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว หนึ่งสัปดาห์แล้วที่ชลารีนได้มาอาศัยอยู่ร่วมกับลีวาย นับตั้งแต่เจอเขาครั้งล่าสุดก็ไม่ได้เจอหน้ากันอีกเลย

ท่ามกลางแสงสลัวในห้องนั่งเล่น หญิงสาวนั่งชันเข่าบนโซฟาพร้อมโอบกอดตัวเอง ขณะทอดสายตาดูภาพเคลื่อนไหวบนจอสมาร์ตทีวี

“หายไปไหนกันนะ” เพราะเขาไม่โผล่หน้ามาให้เห็น ทำให้เธอไม่สามารถสอบถามเรื่องงาน จนรู้สึกร้อนใจเป็นอย่างมากที่ต้องทำตัวเป็นภาระเขาอย่างนี้

ระหว่างกำลังคิดเรื่อยเปื่อย เสียงเปิดประตูห้องดังขึ้น ตามด้วยร่างกำยำของลีวายที่เดินเข้ามาในสภาพโซซัดโซเซ

ชลารีนเห็นท่าไม่ดีจึงกดปิดทีวีและพุ่งไปหาเขา ก่อนช่วยพยุงคนตัวโตลุกขึ้นยืนอย่างทุลักทุเล

“เป็นอะไรไหมคะ”

“ยังไม่นอนอีกเหรอ”

“หนูยังไม่ง่วงค่ะ คุณไหวไหมคะ”

“ไม่เป็นไร เธอไปเถอะ” ชายหนุ่มดันชลารีนออกห่างและยกเท้าไปเบื้องหน้า ซึ่งเดินได้ไม่กี่ก้าวก็ทรุดลงคาพื้น

“คุณคะ” เธอรีบวิ่งไปหาเขาทันใดอย่างตกใจ

“ฉันเวียนหัวมาก คงจะเดินขึ้นไปนอนข้างบนไม่ไหวแล้วแหละ เธอไปพักเถอะ”

“ให้หนูช่วยเถอะนะคะ”

“ไม่ต้องหรอก เธอรีบไปนอนเถอะ”

“หนูช่วยนะคะ” เธอไม่ละความพยายามง่าย ๆ ก่อนช่วยประคองลีวายอย่างยากลำบาก เนื่องจากไม่อาจทิ้งให้เขานอนบนพื้นเย็นเฉียบ

เดิมทีชายหนุ่มขัดขืนไม่ยอมให้เธอทำตามความปรารถนา ทว่ากลิ่นกายเฉพาะจากตัวเธอทำเขารู้สึกดี เลยยอมปล่อยให้คนตัวเล็กพาขึ้นไปส่งบนห้อง

กว่าชลารีนจะพาคนตัวโตมาถึงยังที่หมาย เล่นเอาปาดเหงื่อทีเดียว

“เฮ้อ” เธอถอนหายใจเฮือกหนึ่งพลางทอดสายตามองคนตัวโตบนที่นอนหนานุ่ม “เท่านี้ก็น่าจะพอแล้ว”

ระหว่างกำลังจะหมุนตัวออกจากห้อง ทันใดนั้นลีวายกระชากท่อนแขนขาวเนียนอย่างแรง แล้วกดเธอลงบนเตียงนอน

“คุณคะ ปล่อยหนูเถอะ เธอพยายามจะออกแรงผลักคนเหนือร่าง แต่แรงอันน้อยนิดกลับสู้แรงมหาศาลไม่ได้เลย

ฤทธิ์ของแอลกอฮอล์บวกกับกลิ่นหอมจากตัวเธอ ส่งผลให้อารมณ์ของลีวายพลุ่งพล่าน จนยากจะยับยั้งชั่งใจ

ริมฝีปากหยักได้รูปทาบลงบนกลีบปากอวบอิ่ม ชลารีนไม่ทันตั้งตัวสักนิด เธอดิ้นพล่านสุดขั้วเพื่อหวังให้หลุดพ้นจากการเกาะกุมของอีกคน

“อื้อ” จูบที่ช่ำชองของคนเหนือร่าง ทำเอาคนไร้ประสบการณ์อย่างชลารีนอ่อนระทวยง่ายดาย

เธอไม่เข้าใจเลยตนเองเป็นอะไรกันแน่ ถึงเสียการควบคุมมากขนาดนี้ ทั้งที่สมองสั่งให้ผลักไสเขาออกห่าง แต่ร่างกายดันตอบสนองอีกคนเป็นอย่างดี ช่างย้อนแย้งยิ่งนัก

“อึก” ร่างเล็กสะดุ้งโหยงอย่างตกใจ เมื่อฝ่ามือใหญ่สอดเข้าในร่องกลีบพร้อมขยับขึ้นลงตามจังหวะพิศวาส

ลีวายถอนจูบออกจากปากนุ่ม เลื่อนใบหน้าคมคายซุกไซ้ซอกคอหอมกรุ่นอย่างหลงใหลในกลิ่นกายสาว

“ปล่อยหนูเถอะ ถ้าคุณทำแบบนี้จะเสียใจทีหลังนะคะ” พยายามเตือนสติอีกคน แต่คำพูดนั้นไม่มีความหมายสำหรับคนเมา

ชายหนุ่มผงกหัวมองกรอบหน้างดงามครู่หนึ่ง จากนั้นโน้มหน้าเข้าใกล้คอระหงอีกครั้ง ปลายลิ้นสากตวัดลิ้นเลียพร้อมฝังจูบ ไม่วายทิ้งรอยแดงสีกุหลาบมากมาย

ความปรารถนาของเขาเริ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ ก่อนเลื่อนใบหน้าหล่อไปยังยอดปทุมถัน ลากลิ้นเลียผ่านชุดนอนที่เธอสวมใส่

“อื้อ ตั้งสติหน่อยสิคะ” เพราะถ้าเขายังไม่หยุด เธอเองก็จะควบคุมสติไม่ได้เหมือนกัน ซึ่งเธอไม่ปรารถนาให้เรื่องราวบานปลายไปมากกว่านี้ ไม่อยากถูกเขามองว่าฉวยโอกาสตอนเมา

แควก! ชุดนอนตัวสวยถูกฉีกขาดเป็นสองชิ้นด้วยฝีมือของลีวาย เขาเลิกบราเซียร์ขึ้นไปกองยังเนินอก ไม่รอช้าจัดการงับยอดถันสีหวานและดูดดื่มอย่างหื่นกระหาย

“อ๊ะ” เธอไม่รู้ว่าต้องทำยังไงดีกับสถานการณ์ในตอนนี้ เหมือนว่าทุกอย่างกำลังจะเลยเถิด ถึงกระนั้นไม่ละความพยายามที่จะหนีไปให้พ้น

“คุณคะ รู้ตัวหรือเปล่ากำลังทำอะไรอยู่” มือนุ่มนิ่มประคองใบหน้าคมคายพร้อมสบตาคม ราวกับต้องการเค้นคำตอบจากปากหยัก

“รู้สิ” คำตอบสั้น ๆ ส่งผลให้ชลารีนเบิกตากว้าง

“แล้วคุณจำได้ไหมว่าหนูเป็นใคร”

“อืม” พยักหน้าเล็กน้อย

“งั้นคุณคงไม่ทำแบบนี้กับคนที่ไม่ได้รักหรอกใช่ไหม”

ไม่มีประโยคใดเปล่งออกจากปากเขา ลีวายจัดการปิดปากนุ่มด้วยปากหยัก สอดลิ้นเร่าร้อนเข้าในโพรงปากสาวและเกี่ยวกระหวัดกับลิ้นเล็ก

“อื้อ”

สุดท้ายชลารีนไม่สามารถหนีพ้นจากเงื้อมมือของเขา ก่อนหย่อนเปลือกตาบางลงและตอบรับจูบจากเขาอย่างเงอะงะ

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel