บท
ตั้งค่า

บทที่6 กำลังใจของแม่

‘ณิช’ น้ำเสียงของวีรพลดังขึ้นทำให้คนเพิ่งรู้ว่าตัวเองมีอีกหนึ่งชีวิตอยู่ในท้องต้องหันไปมอง ชายหนุ่มถอนใจหนัก ๆ ก่อนจะสอบถาม ‘ณิชจะเอายังไง พี่ว่า...’

‘ณิชจะเก็บเขาไว้ค่ะ’ หญิงสาวตอบกลับโดยไม่รอให้อีกฝ่ายพูดจบ เธอรู้ว่าวีรพลคิดอะไรอยู่ หญิงสาวส่ายหน้าพร้อมกับวางมือลงบนหน้าท้องแบนราบที่ยังดูอย่างไรก็ไม่ออกว่ากำลังมีใครอีกคนค่อย ๆ เติบโตอยู่

ตอนนี้เจ้าตัวเล็กยังเป็นแค่ก้อนวุ้นเท่านั้นแต่เธอก็ไม่กล้าจะทำร้ายลูกจริง ๆ เจ้าวุ้นไม่ได้ผิดอะไร แล้วมีเหตุผลอะไรให้เธอต้องเอาออก

‘ณิชทำร้ายเขาไม่ลง อีกอย่างเขาไม่ได้ผิดอะไรด้วย’

‘‘งั้นให้พี่เป็น...’

‘ไม่ค่ะ’ ก่อนที่วีรพลจะได้พูดอะไรต่อหญิงสาวก็ขัดเขาอีกครั้ง ก่อนจะพยักพเยิดให้หันไปมองมธุราที่กำลังหยิบมะม่วงดองที่ซื้อมาให้เธอกินอย่างเมามันอยู่ ‘ไปดูแลลูกตัวเองเลย มิ้นก็ท้องอยู่นี่ค่ะ เรื่องอะไรมายุ่งกับลูกคนอื่นล่ะ’

มธุราแทบจะสำลักมะม่วงเมื่อเพื่อนพูดความลับของตัวเองที่วีรพลยังไม่รู้ เธอท้องจริง ๆ แต่ไม่ได้ทะลุยาคุมแบบเพื่อนหรอก มันเป็นเรื่องหลังจากตอนนั้นต่างหากแต่เธอไม่คิดจะบอกพ่อของลูก หญิงสาวเกิดอาการทำอะไรไม่ถูกขึ้นมาทันทีจนต้องรีบคว้ากระเป๋า ‘กะ กลับละนะ’

‘เดี๋ยว มิ้น มิ้น’ วีรพลแทบไม่สนใจน้องสาวต่างสายเลือดแล้วเขารีบตามหญิงสาวไปในทันที ณรชญาไม่รั้งใครไว้ หญิงสาวระบายยิ้มก่อนจะเหลือบไปเห็นป้าธารทิพย์ที่กำลังถือปิ่นโตเข้ามาทางประตูด้านหลัง

‘ป้าทิพย์ มาค่ะณิชช่วยถือ’

‘ไม่ต้องเลย กำลังท้องกำลังไส้ อย่าทำอะไรเกินตัวรู้มั้ย’ คุณป้าเจ้าของบ้านเช่าผู้ใจดีพูดแล้วก็เป็นฝ่ายประคองคนท้องอ่อน ๆ ไปนั่ง ‘ต่อไปนี้อย่าลืมนะว่าไม่ได้ตัวคนเดียวแล้ว จะเดินเหินอะไรก็ต้องระวัง ต้องการอะไร โทรหาป้า หรือถ้าป้าช่วยไม่ได้ เดี๋ยวป้าโทรหาลุงให้มาช่วย’

‘ป้าทิพย์ดีกับณิชมากเลย ขอบคุณนะคะ’ หญิงสาวอดไม่ได้ที่จะน้ำตาซึม ตั้งแต่มาอยู่บ้านหลังนี้และมีป้าธารทิพย์กับลุงทวีเป็นเพื่อนบ้าน ท่านทั้งสองก็ดีกับเธอมาก ๆ ราวกับเธอเป็นลูกคนหนึ่งด้วยซ้ำ ยิ่งตอนที่ท่านทักว่าอาการของเธอเหมือนคนท้อง และมั่นใจว่าเธอท้องจริง ๆ ก็ยิ่งดูแลเธอเป็นอย่างดี

เธออดน้ำตาซึมด้วยความยินดีไม่ได้จริง ๆ หลายปีมานี้ ผู้ใหญ่ที่ใจดีกับเธอ ทำให้เธอคิดถึงวันวานที่พ่อแม่คอยดูแลอย่างเอาใจใส่ได้มีแค่ทั้งสองท่านเท่านั้น ช่างโชคดีจริง ๆ ที่ได้มาเจอกัน

ธารทิพย์ระบายยิ้มเป็นการรับคำขอบคุณก่อนจะสอบถาม อันเนื่องมาจากเห็นชายหนุ่มที่มักแวะมาหาหญิงสาวออกไปหลังไว ๆ ‘แล้วนี่ตกลงกับพ่อของตัวเล็กแล้วเหรอ เขาว่ายังไง เมียท้องไส้แบบนี้ทำไมไม่อยู่ดูแล’

ณรชญาจะยิ้มแหยก็ยิ้มไม่ออก หญิงสาวถอนใจเบา ๆ ก่อนจะแก้ไขความเข้าใจผิด ‘ไม่ใช่นะคะ พี่วีเป็นเพื่อนของณิชค่ะ ไม่ใช่พ่อของเจ้าตัวเล็ก’

‘แล้ว...’

ตาคู่นั้นของป้าธารทิพย์เต็มไปด้วยความสงสัย ณรชญารู้ดีว่าหากไม่พูดให้ชัดเจน อีกฝ่ายก็คงจะต้องเก็บความสงสัยไว้อย่างแน่นอน และท่านก็คงไม่กล้าสอบถาม หรือแสดงความอยากรู้ออกมา

ป้าธารทิพย์เป็นผู้ใหญ่คนหนึ่ง ถ้าเธอไม่พูดอะไรจริง ๆ ท่านก็คงไม่ถาม และไม่คิดเซ้าซี้ แต่หญิงสาวก็ไม่อยากปิดบังกับคนที่เธอมองเป็นแม่คนนึงไปแล้ว หญิงสาวถอนใจเบา ๆ ก่อนจะบอกเล่าออกไป ‘คือ...เรื่องมันเป็นแบบนี้ค่ะ’

ได้ฟังเรื่องราวของหญิงสาวธารทิพย์ก็ต้องถอนใจหนัก ๆ รู้สึกเห็นใจในโชคชะตาของหญิงสาวเป็นอย่างมากจนต้องยื่นมือไปลูบไหล่เป็นการปลอบใจ ‘โชคชะตานี่มันยังไง ถึงได้ซ้ำเติมผู้หญิงตัวเล็ก ๆ ซ้ำไปซ้ำมาแบบนี้ ไม่เป็นไรนะ ถือว่ายังโชคดีที่หนูไม่ได้เสียท่าเพื่อนกับเสี่ยลามกนั่น’

‘ค่ะ ณิชก็คิดว่าอย่างนั้น’ ณรชญาคิดมาตลอดว่าเรื่องที่เกิดขึ้นเธอไม่ได้โชคร้ายจนเกินไป โชคดีที่เธอไม่เสียท่าเสี่ยคนนั้น และเธอไม่ได้มองว่าการเจอกับผู้ชายคนนั้นเป็นเรื่องแย่ ๆ กลับกัน เธอขอบคุณโชคชะตาที่ทำให้ได้เจอเขาอยู่ตลอด...ถ้าไม่ได้เจอคนคนนั้น ก็ไม่รู้ว่าเธอจะไปเจอคนดีหรือไม่ดี และจะเกิดอะไรขึ้น

แม้ว่าจะมีผลพวงจากคืนนั้นมาอยู่ในท้องเธอก็เถอะ...แค่ไม่เสียท่าให้คนไม่ดีก็ดีมากแล้ว

‘แล้ว...หนูจะเก็บเด็กไว้หรือเปล่า’ ปล่อยให้หญิงสาวเงียบคิดไม่นานคนได้ฟังเรื่องราวของคนรุ่นลูกก็สอบถามขึ้นด้วยความห่วงใย แม้จะเห็นใจและรู้ว่าเด็กในท้องของหญิงสาวอาจจะสร้างความลำบากให้กับหญิงสาวได้แต่ไม่รู้ทำไม ลึก ๆ เธอกลับปรารถนาให้ณรชญาเก็บเด็กไว้

ณรชญายื่นมือไปลูบหน้าท้องที่ยังแบนราบอีกครั้วก่อนจะเอ่ยบอก ‘ค่ะ ณิชทำร้ายเขาไม่ลง’

‘ดีแล้วลูก ลูกน่ะเป็นของขวัญพิเศษจากสวรรค์ ไม่ใช่ใครก็มีได้ บางคนพยายามแทบตายก็ไม่มี เรามีแล้วก็ควรรักษาไว้’ ธารทิพย์พูดปลอบใจก่อนจะยื่นมือมาจับมือเล็กเอาไว้ทั้งสองข้าง ‘งั้นต่อไปป้ากับลุงช่วยเลี้ยงนะ ป้าน่ะอยากมีหลานมานานแล้ว แต่ลูกป้าแต่ละคนสนใจแต่งานกับงาน ไม่คิดมีครอบครัวสักคน ป้าน่ะถูกชะตาหนูตั้งแต่วันแรกที่เจอแล้ว ถ้าหนูไม่ติดอะไร มาเป็นลูกป้านะ’

‘ณิชก็ถูกชะตากับป้าทิพย์เหมือนกัน งั้น…ณิชขอเรียกว่าแม่ทิพย์นะคะ ขอบคุณค่ะแม่ทิพย์ ณิชรู้สึกโชคดีมากเลยที่ได้รู้จักกับแม่ทิพย์’

‘แม่ก็รู้สึกว่าหนูเข้ามาเติมเต็มชีวิตเหงา ๆ ของแม่เหมือนกัน ต่อไปเราจะดูแลกันนะ’ ธารทิพย์พูดแล้วก็อ้าแขนรับหญิงสาวเข้ามาในอ้อมกอด ณรชญากอดแม่คนที่สองเอาไว้แน่น ไม่รู้ทำไมแต่หญิงสาวรับรู้ได้เลยว่าจากนี้เธอจะไม่ต้องเผชิญกับเรื่องร้ายตามลำพังอีกแล้ว และในวันที่เธอเหนื่อย ก็มีคนให้เธอโอบกอดแล้ว

ปัจจุบัน

หลังจากที่แม่ทิพย์รับเธอเป็นลูก ชีวิตของณรชญาก็เปลี่ยนไป ทั้งธารทิพย์และผู้กำกับทวีสามีดีกับเธอมาก เหมือนกับเธอเป็นลูกในไส้คนนึง พวกท่านคอยดูแลเธอเสมอ ซ้ำยังเอ็นดูเด็ก ๆ ราวกับหลานแท้ ๆ มาโดยตลอด มาถึงวันนี้ก็หลงหลาน ๆ มาก ๆ

แน่นอนว่าเธอเองก็หลงเด็ก ๆ เช่นกัน เพราะยัยหนูยี่หวาและยัยหนูยาหยีน่ารักน่าชังซะเหลือเกิน

ในตอนนั้นเธอคิดแค่ว่าไม่กล้าทำร้ายลูกในท้องจึงไม่คิดจะไปทำแท้ง ส่วนในตอนนี้ทุกครั้งที่มองหน้าลูกเธอก็คิดในทุกครั้งว่าโชคดีแล้วที่เธอไม่ทำร้ายลูก เพราะเจ้าตัวเล็กไม่ได้มีแค่หนึ่ง แต่มีถึงสอง

ถ้าตอนนั้นเธอเห็นแก่ตัวเลือกอนาคตตัวเอง วันนี้ก็คงไม่มีกำลังใจที่ชื่อว่าน้องยี่หวาและน้องยาหยีที่ทำให้ชีวิตที่ไม่ได้สดใสของเธอไม่หมองหม่นจนเกินไป

สองชีวิตที่เกิดมาได้เติมเต็มความสุขที่เธอขาดหายไปนานได้อย่างดี ไม่มีวันไหนที่เธอไม่มีความสุขเมื่อได้เห็นรอยยิ้มของเด็ก ๆ

ถ้าเขาคนนั้นได้รู้สึกแบบเดียวกับเธอก็คงจะดีสินะ

เช้าวันใหม่ของคุณแม่ยังสาวเริ่มต้นตอนตีห้า เธอตื่นมาจัดเตรียมอาหารเช้าสำหรับเด็ก ๆ ก่อนจะกลับขึ้นมาอาบน้ำและจัดเตรียมเสื้อให้กับลูก ๆ สำหรับไปโรงเรียนในวันนี้จากนั้นจึงใช้เวลาก่อนจะต้องปลุกเด็ก ๆ สะสางงานที่ทิ้งค้างไว้

จริง ๆ แล้วณรชญาจบจากคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ แต่เพราะไม่สะดวกไปทำงานกับบริษัทอันเนื่องมาจากอยากใช้เวลากับเด็ก ๆ ทุกวันนี้เธอจึงรับงานฟรีแลนซ์ รับเขียนแบบและรับงานควบคุมดูแลการสร้างบ้าน บ้างจากบริษัทของวีรพล นอกจากนี้ยังช่วยแม่ทิพย์ดูแลหอพักที่อยู่ข้าง ๆ นี้ด้วย

แต่ละวันมีอะไรให้ทำมากมาย แต่เทียบกับตอนที่อยู่ตัวคนเดียวต้องทำงานไปด้วยเรียนไปด้วยแล้วณรชญากลับชอบชีวิตในตอนนี้มาก ๆ แม้ว่าในแต่ละวันเธอมีเรื่องให้ทำเยอะแยะไปหมด แต่ก็ยังมีกำลังใจจากเด็กหญิงณิรินทร์ธิตาและเด็กหญิงณิรินทร์ทิราที่ช่วยเยียวยาให้หายเหนื่อยในทุก ๆ วัน

ตึ่ง!

เสียงข้อความจากโทรศัพท์มือถือเรียกความสนใจจากณรชญาได้อย่างดีหลังจากที่เธอก้มหน้าก้มตาทำงานที่ค้างคาอยู่อย่างมีสมาธิอยู่นาน หญิงสาวหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาดูเวลาก่อนจะกดเข้าไปอ่านข้อความเมื่อเห็นว่าข้อความนั้นมาจากแม่ธารทิพย์

ห้องสนทนา

แม่ทิพย์ : ตื่นหรือยังคะคุณแม่น้องแฝด

Nich Narachaya : ตื่นแล้วค่ะ กำลังแอบหนูแฝดทำงานเลย

แม่ทิพย์ : วันนี้ช่วยบ่าย ๆ ว่างมั้ย

แม่ทิพย์ : งานยุ่งหรือเปล่า

Nich Narachaya : บ่าย ๆ น่าจะชิลล์ค่ะ แม่ทิพย์มีอะไรรึเปล่าคะ

แม่ทิพย์ : ยัยธาราน่ะสิ อยู่ ๆ ก็โทรมาบอกแม่ว่ากำลังจะขึ้นเครื่อง จะถึงไทยบ่ายนี้

แม่ทิพย์ : แล้วยังบอกให้ไปรับด้วย

แม่ทิพย์ : แม่เลยจะให้ณิชขับรถให้หน่อยน่ะ

Nich Narachaya : อย่างนี้เอง ได้สิคะ ไม่มีปัญหา

Nich Narachaya : จะไปประมาณกี่โมงคะ ณิชจะได้เตรียมตัวถูก

แม่ทิพย์ : บ่ายโมงครึ่งลูก

Nich Narachaya : โอเคค่ะงั้นเดี๋ยวบ่ายโมงณิจะไปเอารถกับพ่อทวีนะคะ

Nich Narachaya : ว่าแต่พ่อทวีไปด้วยมั้ยคะ

แม่ทิพย์ : รายนั้นน่ะอยากไปใจจะขาด แต่งานรัดตัว ฮ่า ๆ

Nich Narachaya : น่าสงสาร ฮ่าๆ

แม่ทิพย์ : หนูทำงานต่อเถอะลูก เดี๋ยวคุยเพลินเสียงานพอดี

Nich Narachaya : โอเคค่ะ

เมื่อบทสนทนาจบลงหญิงสาวก็วางโทรศัพท์กลับลงที่เดิมพร้อมกับบิดขี้เกียจ งานของเธอยังไม่เสร็จ แต่ก็คิดว่าเสร็จก่อนบ่ายโมงอย่างแน่นอน หญิงสาวจึงไม่ได้ปฏิเสธแม่ธารทิพย์ไป

ลูกสาวของแม่ธารทิพย์ที่เธอรู้แค่ว่าชื่อเล่นว่าธาราเรียนต่อปริญญาโทอยู่ที่อเมริกา และได้ทำงานที่นั่น หลายปีมานี้จึงไม่ได้กลับบ้าน แม้แม่ธารทิพย์จะมีเธอกับเด็ก ๆ ทำให้ไม่เหงาในทุก ๆ วัน แต่ลึก ๆ ก็ยังคิดถึงลูกอยู่ดี ลูกสาวจะกลับมาอย่างนั้น คงเป็นแม่ย่อมตื่นเต้นและยินดี อะไรที่ช่วยให้ท่านมีความสุขได้ แม้เพียงนิด เธอก็จะทำ

แต่ตอนนี้...

“เด็ก ๆ คะ ตื่นได้แล้วลูก ต้องอาบน้ำแล้วนะ เดี๋ยวคุณตาทวีไปทำงานสายนะ” คุณแม่ยังสาวส่งเสียงเรียกหนูแฝดที่ยังนอนหลับปุ๋ยอยู่บนเตียงในทันทีก่อนจะลุกมาหาและใช้มือสะกิดเบา ๆ

ได้เวลาที่ยัยหนูแฝดต้องตื่นแล้ว...แต่ก็ขี้เซากันเหลือเกิน

“น้องคะ ตื่นได้แล้ว... ตื่นเร็ว!”

“งือ ขอห้านาตี” ยัยหนูยาหยีบอกมาด้วยเสียงงัวเงียก่อนจะขดตัวเข้าในผ้าห่ม ก่อนที่ยัยหนูยี่หวาจะพูดต่อจากน้องสาว

“ยี่หวาขอฉามนาตี”

“ไม่ได้ค่ะ ต้องตื่นแล้ว ถ้าไม่ตื่น เจอระเบิดจุ๊บนะบอกให้”

เด็ก ๆ พากันขดตัวไม่ยอมตื่น ทว่าคนเป็นแม่กลับอมยิ้มกับความน่ารักนั้น แต่ก็ไม่คิดจะลงให้ ด้วยว่าการไปโรงเรียนของหนูแฝดนั้นอาศัยไปกับพ่อทวีหรือที่เด็ก ๆ เรียกกันว่าคุณตาทวีที่ไปทำงาน หากเด็ก ๆ ตื่นสาย คุณตาทวีก็จะสายไปด้วย แม้ท่านจะรักและเอ็นดูพวกเธอแม่ลูกไม่ต่างจากแม่ธารทิพย์ แต่เธอก็ไม่อยากให้ท่านไปสายและเกรงใจท่านอยู่มาก

“เดี๋ยวคุณตาสายนะคะ ลุกเร็วลูก”

“งืม”

เจ้าตัวขี้เซายังคงไม่ยอมลุกขึ้น คนเป็นแม่ที่มีวิธีจัดการอยู่แล้วเป็นต้องใช้ไม้ตาย หญิงสาวขยับไปนั่งตรงกลางระหว่างสองแฝดในทันที “แบบนี้ต้องเจอ นี่แหนะ ๆ”

“อ๊าย คิกคิก”

“โอ๊ย แม่จ๋าง่า คิกคิก ไม่เอาแย้ว ยี่หวาตื่นแย้ว” เจอแม่จ๋าฟัดแก้มเข้าไปทั้งพี่ยี่หวาและน้องยาหยีก็พากันตื่นเต็มตา และหัวเราะไม่หยุด

ณรชญายกยิ้มอย่างผู้ชนะในทันทีก่อนจะเอ่ยถาม “เอ ตื่นแล้วทำไงเอ่ย...”

“ต้องจุ๊บ...จุ๊บ อายุนฉาหวัดค่ะแม่จ๋า”

“จุ๊บ อรุณสวัสดิ์ค่ะยาหยีของแม่จ๋า” คุณแม่ยังสาวจุ๊บแก้มยัยหนูคืนก่อนจะทำแก้มป่องไปให้ยัยหนูยี่หวาที่กำลังลุกมาเกาะไหล่คนเป็นแม่และยื่นหน้าเข้ามาจุ๊บแก้มของคนเป็นแม่

“จุ๊บ อารุนซาหวัดคร่า แม่จ๋า”

“จุ๊บ อรุณสวัสดิ์ค่ะยี่หวาของแม่จ๋า” ตื่นเช้ามาเด็ก ๆ ต้องเติมพลังให้กับคนเป็นแม่และรับพลังจากคุณแม่ยังสาวอย่างนี้ทุกวัน และหลังจากที่ผลัดกันจุ๊บแก้มคุณแม่แล้ว เด็ก ๆ ก็กอดแม่จ๋าของพวกเธอไว้คนละข้างและยื่นมาจุ๊บสองแก้มของแม่พร้อม ๆ กัน

“จุ๊บ/จุ๊บ”

“อ่า ชื่นใจจังเลย แบบนี้ต้องให้รางวัล”

“คิกคิก”

ราวัลที่ว่าก็คือการระดมหอมแก้มที่ยัยหนูแฝดชื่นชอบนั่นเอง หนูแฝดหัวเราะชอบใจอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะจูงมือคนเป็นแม่ไปอาบน้ำเพื่อเตรียมตัวไปโรงเรียน แต่กว่าจะได้อาบน้ำ ก็เล่นเป่ายิ่งฉุบหาคนที่จะอาบก่อนกันอยู่นานเหมือนกัน

และพอถึงเวลาอาบจริง ๆ...

ความแสบซนก็บังเกิด เช้า ๆ แบบนี้มีหรือที่เด็ก ๆ จะให้แม่จ๋าอาบน้ำให้ดี ๆ ต้องชวนแม่จ๋าเล่นสงกรานต์กันสักหลายนาที

สภาพเช้านี้ของคนเป็นแม่จึงเปียกปอนไม่ใช่น้อย

และในทุก ๆ วันก็เช่นกัน

ตอนเด็ก ๆ พ่อกับแม่บอกว่าเธอเรียบร้อยมาก ไม่เคยซนสักครั้ง แต่ทำไมลูก ๆ ของเธอถึงได้ไม่เรียบร้อยเลยล่ะ

ไม่รู้ว่าแสบได้ใครสิเนี่ย!

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel