บทย่อ
ชายคนหนึ่ง ยื่นมือเข้ามาในวันที่ย่ำแย่ ฉุดเธอขึ้นจากหุบเหวลึก เปรียบดังเทพบุตรจุติมาเมตตา คืนวันผันผ่าน บังเอิญกลับมาพบพานอีกครา ทว่าเทพบุตรในวันนั้น กลับกลายเป็นซาตานแสนร้ายกาจในวันนี้ เฝ้าย้ำรักย้ำสวาทอย่างร้อนเร่า แผดเผาให้ยอมจำนนลุ่มหลงโหยใคร่ เธออยากจะหนีไปแต่ใยทำไม่ได้ เพราะถูกจองจำไปหมดแล้วทั้งใจกาย คล้ายถูกพันธนาการไว้ด้วยโซ่ตรวน ..โซ่ตรวนแห่งซาตาน.. ตัวอย่าง : เสียงเขาคำรามครางในลำคออย่างพออกพอใจก่อนก้มใบหน้าลงมายังตรงนั้น เธอตกใจรีบหุบขาแต่ไม่ทันสองมือแข็งแรงที่กดมันให้แบะอ้าบนเตียงนอน สองกลีบสามเหลี่ยมที่ปิดสนิทกลับเปิดอ้าอวดอ้างติ่งน้อยสีชมพูสดที่ซ่อนอยู่ภายใน ก่อนเขาจะก้มลงกินมัน ! สาวน้อยไร้เดียงสาผู้ไม่เคยต้องมือชาย แรกนั้นเธอตะลึงงันและอับอาย รู้สึกบัดสีอย่างไรบอกไม่ถูก มันคือของลับ มันคือของสงวนในที่ต่ำ ไม่เคยคิดว่าใครสักคนจะใช้ปากกับส่วนนั้นได้ลงคอ แต่พอโดนเขาดูดเลียซอกซอนไปทั่วสองกลีบอย่างตะกรุมตะกราม ตวัดลิ้นพลิกติ่งน้อยไปมาเร็ว ๆ ตามด้วยดูดมันเป็นจังหวะ นั่นทำให้เธอเลือนลืมความอับอายทั้งหลายทั้งปวงไปสิ้น เผลอไผลอ้าขาให้กว้างออกอีกหวังให้เขาเลียกินถ้วนทั่วให้สะดวกขึ้น มันเสียวเป็นบ้า เสียวจนในหัวขาวโพลนไปหมดสติสตังไม่อยู่กับเนื้อตัว ยิ่งดูดแรง ภายในกายเสมือนมีดวงไฟเล็กจิ๋ววิ่งพล่านไปหมด ก่อนมันจะไปหยุดอยู่ตรงนั้นที่รูน้อยลึกต่ำลงไปจากที่ที่เขากำลังดูดกินอย่างเมามัน “ น้ำแฉะเชียวสาวน้อย ” เสียงเขาพึมพำอยู่กับกลีบและติ่งกระสันอันน้อยที่การปลุกเร้าด้วยลิ้นไร้กระดูกของเขามันทำให้เธอเสียวไม่น้อย เสียวจนต้องเม้มริมฝีปากเอาไว้แน่นเพราะกลัวจะเผลอร้องครวญครางออกมาให้น่าละอาย “ เสียวก็ครางชื่อพี่สิ ” เขาสั่งอย่างรู้เท่าทัน ทว่าเธอยังคงอดทนไม่ยอมเปิดปาก ชายหนุ่มจึงพลิ้วลิ้นวนไปบนติ่งน้อยและต่ำลงไปเบื้องล่าง เกร็งมันแล้วสอดลึกเข้าสู่รูร่องคับแคบที่มีน้ำฉ่ำแฉะรินไหลตลอดเวลา ริมฝีปากประกบ ดูดเกสรกระสันไม่หยุด สลับกับกระดิกลิ้นวนอยู่ในโพรงลึกที่ตอดรัดอยู่เป็นจังหวะ “ อ๊า ” ที่สุดแล้วเธอก็ต้องจำนนให้แก่ความซ่านเสียว ต้องเปิดปากระบายมันออกมา ศรุจถอดถอนลิ้นแล้วยกยิ้มอย่างพึงใจ ก่อนแทนที่มันด้วยหนึ่งนิ้วเรียวยาว “ พี่รุจขา ” เธอแอ่นสะโพกแล้วร่ำเรียกชื่อเขาทันทีที่รู้สึกถึงบางสิ่งบางอย่างคืบลึกเข้าสู่ร่องแคบ ชายหนุ่มสัมผัสได้ถึงเยื่อบาง ๆ ก่อนจะดันนิ้วเข้าไปจนสุด กล้ามเนื้อสวาทบีบรัดนิ้วแน่นหนึบจนแทบขยับไม่ได้ เขาขยับปากโลมเลียขึ้นมา เรื่อย ๆ จนถึงใบหน้าหวานที่มีเหงื่อเม็ดเล็ก ๆ ผุดพรายรายล้อมจนเปียกชื้น
มองแล้วแข็งเป็นใช้ได้
เที่ยงคืนครึ่งของวันศุกร์
ยามนี้ผู้คนส่วนมากคงจะกำลังอยู่ในห้วงภวังค์แห่งนิทรา แต่ไม่ใช่สำหรับคืนสุดสัปดาห์ของเหล่าผีเสื้อราตรี ผู้เสาะแสวงหาความหรรษาในยามค่ำคืน ดื่มด่ำกับแสงสี เมรัย และคาวใคร่แห่งราคะตามแต่ผู้ใดจะปรารถนา
แวร์อิสดิส หนึ่งในผับหรูใจกลางเมืองอันคราคร่ำไปด้วยเหล่าผีเสื้อราตรี สถานบันเทิงระดับที่มีแต่คนมีสตางค์เท่านั้นถึงจะย่างเท้าเข้ามาได้ ผู้คนเหล่านั้นกำลังหฤหรรษ์บันเทิงด้วยเครื่องดื่มราคาแพงและบทเพลงอันบรรเลงด้วย วงดนตรีสดบนเวที สลับดีการเปิดเพลงจากดีเจหนุ่มล่อล่ำและสาวสวยเซ็กซี่ผู้โด่งดังมาจากโลกโซเชียล
ทว่าสาวน้อยนางหนึ่งที่พึ่งเข้ามาทำงานใหม่ได้เพียง สี่วันกลับไม่ได้สนอกสนใจกับสิ่งบันเทิงรอบกาย แต่ดวงตากลมโตนั้นจ้องมองไปยังร่างของชายร่างใหญ่ที่นั่งอยู่บนโซฟาในมุมวีไอพี สวมเสื้อยืดสีขาว กางเกงยีนส์สีกรมท่า แม้จะสวมเสื้อผ้าธรรมดา ๆ แต่ก็ดูดีเหลือเชื่อ มือซ้ายคีบบุหรี่ มือขวายกแก้วขึ้นกระดกดื่มน้ำสีพัน เท้าขยับตามจังหวะเพลงสลับสนทนากับเพื่อนร่วมโต๊ะอีกสามคนเป็นระยะ
ศรุจ คือชื่อของผู้ชายวัยยี่สิบแปดคนนั้น ชายคนที่ตาคม คิ้วเข้ม จมูกโด่ง ริมฝีปากหยักสวย เขานั่งด้วยทีท่าสบาย ๆ กินดื่มอย่างไม่ยี่หระกับสายตากระหายของทั้งหญิงแท้และหญิงเทียม ไฮโซ ดารา พริตตี้ ที่จ้องอย่างเอาเป็นเอาตายอยากมอบกายถวายตัวให้คนแล้วคนเล่า
ก็ทั้งหล่อทั้งรวย ระดับทายาทไฮโซเจ้าของร้านเพชรชื่อดัง นอกจากนั้นยังมีหุ้นส่วนในกิจการอสังหาริมทรัพย์ และบริษัทรับเหมาตกแต่งภายใน รูปร่างหน้าตาที่ดีสูสีดารานายแบบ ทำให้คอลัมน์ข่าวซุบซิบมักจะชอบเอามาลงตามโลกโซเชียลให้สาว ๆ ได้คลั่งไคล้ ใครเล่าจะไม่อยากได้ เจ้าตัวเองก็ใช่ว่าจะรักนวลสงวนตัวเสียเมื่อไหร่ ตรงกันข้ามเขาใช้ผู้หญิงเปลืองไม่หยอกเพื่อบำบัดความต้องการที่กลางหว่างขา แค่คืนนี้ยังไม่เจอที่เข้าตาก็เท่านั้นเอง
ไอ้พวกดารานางแบบไฮโซทั้งหลายแหล่มันน่าเบื่อเกินไปสำหรับศรุจ ขึ้นเตียงกันมาจนนับไม่ถ้วน เขาเบื่อใบหน้าผิวพรรณสไตล์เกาหลีที่สาว ๆ นิยมไปศัลยกรรมปั้นแต่งจนแทบจะเป็นพิมพ์เดียวกัน นมต้มทรงโตที่หมอ มอบให้อีกนั่นแหละ
“ รุจ นั่นเอมี่ FHM เลยนะมึง เดินมาแทบจะเอานมเกยหน้ามึงอยู่แล้ว ทำไมไม่เอาวะ ” หนึ่งในกลุ่มเพื่อนเอ่ยถามพลางมองตามสะโพกใหม่กลมกลึงที่หมอพึ่งฉีดให้กวัดไกวจากไปเมื่อเดินเข้ามาชนแก้วกับศรุจ ชายหนุ่มยกแก้วขึ้นชนกลับก่อนจะแสร้งหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาบอกว่ามีสายเข้า นั่นทำให้เธอรู้ได้ทันทีว่าถูกปฏิเสธก่อนเดินจากไป
“ เบื่อ ไม่อยากแดกพลาสติกอีกละ แม่งทำมาแทบจะพิมพ์เดียวกันทั้งนั้น บีบนมแรง ๆ ก็ไม่ได้ ไม่ใช่เจ็บนะ บอกพี่ขาเบา ๆ เดี๋ยวนมหนูแตก เหี้ย กูหมดอารมณ์ ” คำบอกเล่าของเขาเรียกเสียงหัวเราะลั่นจากกลุ่มเพื่อน
“ ผู้หญิงสมัยนี้แม่งหาสวยแบบแม่ให้มาไม่ค่อยมีหรอก ยิ่งพวกดาราพริตตี้จะให้สวยธรรมชาติมึงอย่าได้หวังเขาใช้รูปร่างหน้าตาหากิน ก็ไม่ผิดนี่หว่าที่เขาจะดูแลตัวเองให้เป๊ะอยู่เสมอ อย่าเรื่องมากนักเลยน่าไอ้รุจ งั้นเอาเด็กเสิร์ฟร้านกูมะ นักศึกษาหน้าตาดี ๆ มาทำพาร์ทไทม์เยอะนะ มึงก็เคยสอยไปบ้างแล้วไม่ใช่เหรอ ” ธีรดลผู้เป็นเจ้าของผับว่า
“ ที่พอไปวัดไปวาได้ก็เอาไปแล้วไง ไม่ตราตรึงพอที่จะแดกซ้ำสองว่ะ ” ศรุจว่าเบื่อ ๆ
“ แล้วจะเอายังไง พวกกูจะได้ช่วยหาให้ถูก ”
“ บอกไม่ถูก ถ้ากูมองแล้วแข็งเป็นใช้ได้ ” คำตอบนั้นเรียกเสียงหัวเราะอย่างครื้นเครงจากเพื่อน ๆ ได้อีกครั้ง โดยไม่รู้เลยว่า ทุกกิริยาอาการถูกจับจ้องจากใครคนหนึ่งอยู่ตลอดเวลา
“ เฮ้ยดาว ยืนทำอะไร แอบมองผู้ชายเหรอ ” ฝ่ามือที่ฟาดลงบนบ่าเบา ๆ กับคำทักทายนั้นทำให้ ดุจดาว สะดุ้งโหยง
“ อุ๊ย ตกใจหมดพี่เมย์ ” อีกฝ่ายหัวเราะร่วน
“ มายืนซุ่มทำอะไรอยู่ล่ะ ” ดุจดาวชี้มือไปยังที่ชายคนนั้นนั่งอยู่
“ คนนั้นใช่ไหม คุณศรุจ เพื่อนของคุณธีรดลเจ้าของที่นี่ ที่เขาว่ารวยนักรวยหนา คนหล่อ ๆ ใส่เสื้อยืดสีขาว ”
เมย์ รุ่นพี่ในคณะ ที่มาทำงานในผับหรูด้วยกัน พยักหน้าหงึกหงักแล้วหัวเราะคิกคักไปด้วย