บท
ตั้งค่า

บทที่ 5

ปภาวรินทร์หันกลับไปจ้องมองบิดาและบ้านที่เธออยู่มาตั้งแต่จำความได้เป็นครั้งสุดท้ายทั้งน้ำตาจนทุกสิ่งเบื้องหลังค่อยๆ หายลับสายตาเธอไปในที่สุดหญิงสาวถึงได้หันกลับมาหาว่าที่พ่อสามีในอนาคตอันใกล้ของตัวเองซึ่งท่านก็เอื้อมมือมาบีบมือเธอเบาๆ เพื่อให้กำลังใจลูกสะใภ้ที่กำลังนั่งร้องไห้อย่างน่าสงสาร

“ไม่ต้องห่วงนะหนูริน ฉันรับรองได้เลยว่าหนูจะต้องมีความสุข ที่เหมืองเราทุกคนอยู่ร่วมกันด้วยความรัก จะไม่มีใครทำร้ายหนู ฉันให้สัญญา” ปภาวรินทร์ยิ้มรับด้วยความรู้สึกขอบคุณที่ท่านเมตตาเธอ หญิงสาวไม่อาจรู้ได้เลยว่าความสุขที่ท่านเอ่ยถึงนั้นมันจะมีรูปร่างหน้าตาเป็นเช่นไร

เธอรู้เพียงแต่ว่าตอนนี้เธอเดินมาไกลมาก ไกลเกินกว่าที่จะหันหลังเดินกลับไปทางเดิมในชีวิตอีกแล้ว

ในเมื่อไม่รู้ก็ต้องข่มใจเดินหน้าต่อไปเพราะถอยไม่ได้ ไม่ว่าสิ่งที่รออยู่จะดีหรือร้าย เธอก็ต้องทำใจยอมรับและอยู่กับมันให้จงได้!

ทั้งคู่ใช้เวลาเดินทางนานนับครึ่งวันก่อนที่รถยนตร์คันหรูที่ขับมารอรับที่สนามบินจะขับออกมาไกล ลัดเลาะข้ามป่าเขาลูกแล้วลูกเล่าก่อนที่มันจะเลี้ยวเข้าสู่อาณาเขตของเหมืองพลอยขนาดใหญ่

ภาพทิวทัศน์ทั้งสองข้างทางที่เต็มไปด้วยต้นไม้และดอกไม้หลากสีสร้างความตื่นตาตื่นใจแก่คนที่ไม่เคยมีโอกาสได้พบเห็นสิ่งเหล่านี้ด้วยตาตัวเองสักเท่าไหร่อย่างปภาวรินทร์เป็นอย่างมาก หญิงสาวแทบจะโยนทิ้งความเศร้าหมองลงในทันทีเมื่อได้มาเห็นบ้านหลังใหม่ของตัวเอง ที่ไม่ว่าจะมองทางไหนก็มีแต่ความร่มรื่นเต็มไปหมด

“ชอบรึเปล่าหนูริน ที่นี่เรามีทั้งฟาร์มม้า ฟาร์มวัว ส่วนตัวเหมืองนั้นอยู่ท้ายๆ เลย เอาไว้พักผ่อนให้หายเหนื่อยลุงจะให้คนพาหนูไปเที่ยวชมก็แล้วกันนะ” หญิงสาวยิ้มรับอย่างมีความสุข แค่ฟังที่คุณลุงมานพเล่าให้ฟังมาตลอดการเดินทางเธอก็ตื่นเต้นจนเก็บอาการไม่อยู่ หากลองได้เที่ยวชมจริงๆ อย่างที่ท่านว่าคงจะดีไม่น้อย

กระทั่งเมื่อรถยนตร์ที่นั่งมานานร่วมชั่วโมงค่อยๆ ชะลอลงตรงหน้าบ้านหลังใหญ่ หญิงสาวถึงเดินลงจากรถตามหลังเจ้าบ้านไปติดๆ เพราะเธอไม่รู้จักใครนอกจากท่าน และก็ไม่รู้ด้วยว่าทุกๆ คนที่นี่นั้นจะยินดีต่อการมาเยือนของเธอมากแค่ไหน ไม่อาจจะรู้ได้จริงๆ ทั้งคู่เดินขึ้นเข้ามาในตัวบ้านก่อนจะพบร่างอ้วนท้วมของหญิงชราคนหนึ่งที่เดินออกมาต้อนรับ รอยยิ้มดีใจที่ได้เห็นเจ้านายใหญ่กลับบ้านโดยสวัสดิภาพค่อยๆ เลือนหายไปในทันชั่วพริบตาเมื่อเห็นแจ้งแก่ใจว่าหนนี้ท่านไม่ได้กลับมาตามลำพัง แต่พาผู้หญิงที่ไหนก็ไม่รู้กลับมาด้วยอีกคน ความสงสัยนั้นมากจนต้องถามออกไป

“ใครคะพ่อเลี้ยง!”

นางน้อมถามเสียงแข็งด้วยคิดไปไกลว่านายท่านของนางจะพาเมียใหม่วัยลูกเข้ามาแทนที่นายหญิงของตัวเอง ซึ่งหากเป็นเช่นนั้นจริงนางคนหนึ่งล่ะไม่มีวันยอมรับแม่หน้าสวยตรงหน้าคนนี้แน่ ไม่ว่าอย่างไรจะต้องรีบกำจัดหล่อนไปให้พ้นๆ อย่างเร่งด่วน เพื่อนายผู้หญิงที่นางทั้งรักและเคารพจะได้ตายตาหลับ

“นี่หนูปภาวรินทร์ แม่น้อมมาก็ดีแล้วเดี๋ยวให้เด็กช่วยไปจัดห้องให้หนูรินเขาหน่อยนะ เอาห้องที่อยู่ข้างๆ เจ้าราชเลยก็ได้เพราะว่านับจากวันนี้ไปหนูรินจะย้ายเข้ามาอยู่กับเราที่นี่ในฐานะ…ว่าที่ลูกสะใภ้ของฉัน!” สิ้นคำตอบที่ชัดเจนจนไม่ต้องถามเพิ่มหญิงสาวก็ถึงกลับเบิกตากว้าง ตกใจเสียยิ่งกว่าตอนที่ตนคิดเอาไว้เสียอีก

“มะ…เมียของคุณราชเหรอคะ!”นางน้อมย้อนถามเสียงหลง รู้สึกได้ถึงลางร้ายที่กำลังใกล้เข้ามาในตัวบ้านมากขึ้นเรื่อยๆ กับความจริงที่เพิ่งได้ยิน ความจริงที่นางรู้ว่ามันต้องเป็นเรื่องใหญ่แน่ๆ

“ใช่! สวยไหมล่ะ แล้วนี่ไอ้ตัวดีมันหายหัวไปไหน”

“คุณท่านบอกคุณราชเรื่องนี้แล้วหรือยังคะ คะ..คุณราชต้องไม่ยอมแน่ๆ ค่ะที่จู่ๆ คุณท่านจะให้เธอคนนี้…” หญิงชราไม่ตอบคำถามนั้น เลือกที่จะถามอีกเรื่องที่ต้องการจะรู้มากกว่า นางเลี้ยงคุณหนูของนายมาตั้งแต่เกิด มีหรือจะไม่รู้ว่าเหมราชเกลียดการคลุมฝูงชนมากขนาดไหน ไม่ว่าผู้หญิงกี่คนต่อกี่คนที่นายท่านเสาะหามาให้นั้นแทบไม่เคยมีใครคนไหนถูกใจนายน้อยของนางเลยสักคน จะมีก็แค่เป็นคู่นอนชั่วครั้งชั่วคราวเท่านั้น หากจะให้มาแต่งงานยกย่องให้เป็นเมียออกหน้าออกตาไปตลอดทั้งชีวิตของเขานี่ลืมไปกันได้เลย

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel