บทที่ 1. ยั่วเย้าเข้าแผนร้าย
ภาสกร ไทเลอร์ เกรย์ ชายหนุ่มวัยยี่สิบหกปีมองสาวน้อยวัยสิบเจ็ดที่กำลังนั่งร้อยมาลัยอยู่กับ แม่ชื่น แม่บ้านวัยชราของตนอย่างเบื่อหน่ายและไม่ชอบใจเลยที่สาวน้อยหน้าตาหมดจดผิวขาวผ่องน่ามองไม่เคยหันมาสนใจเขาเหมือนพี่น้องคนอื่นๆ และมักจะทำหน้าบึ้งใส่เขาตลอดซ้ำยังเชิดใส่อีกด้วยซึ่งสำหรับภาสกรแล้วเคยชินแต่มีหญิงสาวพุ่งเข้าหาเข้ามาสานไมตรีด้วย แน่ล่ะ ชายหนุ่มรูปหล่อเก่งฉลาดและร่ำรวยระดับโลก ผู้หญิงที่ไหนก็สนใจเขา แต่มีแค่ทิพย์ธาราเท่านั้นที่ไม่เคยให้ความสนใจเขาเหมือนหญิงสาวคนอื่นๆ ขนาดมาเที่ยวพักผ่อนเจ้าหล่อนยังจะมานั่งร้อยมาลัยมาทำขนมไทย ทำตัวเหมือนหลุดออกมาจากวรรณคดีไทย
ตั้งแต่เด็กๆ หาก เด็กหญิงทิพย์ธารา มาบ้านเขาที่เมืองไทยทีไรเด็กหญิงก็จะรีบเข้าไปออดอ้อนบิดามารดาของเขา หรือไม่ก็ไปเรือน คุณย่าเล็ก คุณย่าของเขาเพื่อหัดร้อยมาลัย ทำขนมทำของหวานและอาหารต่างๆ โดยไม่คิดจะสนใจเขาซึ่งเป็นลูกชายเจ้าของบ้านเลยสักนิด แต่พอเห็นน้องๆ ของเขา เด็กหญิงหน้าตาจิ้มลิ้มจะยิ้มร่าวิ่งไปหาไปเล่นด้วย โดยเฉพาะกับน้องชายของเขานั้นทิพย์ธารา จะยิ้มหวานให้เป็นพิเศษทั้งพูดจาหวานหู คะ ขา ออดอ้อนมีขนมหรือไม่ก็มาลัยพวงเล็กๆ ไปอวดไปพูดคุยด้วยอย่างสนิทสนม
และวันนี้ครอบครัว เบญจบริรักษ์ มาเยี่ยมบิดามารดาของตนและพาลูกๆ มาด้วยทั้งสองคน...ครอบครัวเบญจบริรักษ์มีลูกสอง คนโต คือ เทพธาร ซึ่งอยู่ในวัยเดียวกันกับเขาและเป็นเพื่อนรักกัน คุณธิชา ภรรยาของ คุณทวิภาค ผู้เป็นอาของเขานั้นเป็นหญิงสาวสวยยิ้มหวานที่ภาสกรนึกชมชอบอยู่ในใจและคุณอาธิชาใจดีพูดจาอ่อนหวานไพเราะ เขาไม่แปลกใจเลยที่คุณอาภาคของเขานั้นทั้งรักทั้งหลงภรรยาสาวแสนสวยมากขนาดไหน จนยอมทิ้งมรดกมูลค่ามหาศาลของคุณปู่มาอยู่กันกับสาวไทยและเปลี่ยนมาใช้นามสกุลของคุณย่าเล็ก
แต่ท้ายที่สุดเมื่อคุณปู่โลแกนของเขาเสียชีวิตก็ยกมรดกซึ่งเป็นที่ดินกว่าร้อยไร่ที่เชียงใหม่ให้คุณอาของเขา แม้ว่าคุณทวิภาคจะเป็นเพียงลูกติดภรรยาใหม่ของตนก็ตาม แต่คุณลูอิสบิดาของเขากับคุณปู่ก็รักคุณทวิภาคมากเพราะท่านเป็นคนเก่งฉลาดเฉลียวและนิสัยดีซื่อสัตย์และอดทน พอคุณทวิภาคตัดสินใจจะร่วมชีวิตกับสาวไทยแสนธรรมดาทำให้คุณปู่ของเขาเสียดายลูกชายนอกไส้อยากจะให้ได้คู่ครองที่ร่ำรวยมีชื่อเสียงทัดเทียมกัน แต่คุณทวิภาคเลือกที่จะอยู่กับหญิงสาวแสนธรรมดาอย่างคุณธิชาและตัดสินใจกลับประเทศไทย ทำให้คุณปู่โกรธอาภาคมากแต่เมื่อได้เห็นหน้าหลานๆ คุณปู่ก็ใจอ่อนและมาหาอาภาคกับภรรยาที่เมืองไทย และยอมรับคุณอาธิชาเป็นศรีสะใภ้และคุณปู่ของเขาก็รักคุณอาธิชามากทีเดียว
ซึ่งเรื่องราวความรักและการฝ่าฝันเพื่อจะได้อยู่ด้วยกันของคุณอาทั้งสองนั้นถูกเล่าขานด้วยความชื่นชมและรักใคร่เมื่อในปัจจุบันพวกเขาอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุขและมีลูกๆ ที่น่ารัก ซึ่งคุณปู่ของเขานั้นทั้งรักทั้งหลงหลานๆ ทั้งสองที่เมืองไทยไม่ต่างจากเขาและน้องๆ โดยเฉพาะเด็กหญิงทิพย์ธาราหรือน้ำแข็งนั้นคุณปู่โลแกนโปรดปรานรักใคร่กว่าใครๆ ซึ่งทำให้เขารู้สึกไม่ชอบใจเพราะเหมือนว่าเด็กหญิงหน้าตาน่ารักผิวขาวสะอาดเหมือนหิมะนั้นมาแย่งมาแบ่งเอาความรักจากคุณปู่ไป ภาสกรยังจำได้ดีว่าในวันที่คุณปู่จะสิ้นใจนั้นเรียกหาทิพย์ธาราและพูดคุยกับเธอเป็นคนสุดท้าย ก่อนที่ท่านจะเสียชีวิตในเวลาต่อมา...
“เป็นอะไรอีกล่ะแสน” เทพธาราถามเพื่อนรักที่ทำหน้ามุ่ยอยู่อย่างไม่เข้าใจที่วันนี้เพื่อนรักมีอาการเหมือนจะเซ็งๆ
“เบื่อว่ะ” ภาสกรตอบเสียงเอื่อยเฉื่อย
“เบื่ออะไรวะ เมื่อวานก็ไปเดตกับสาวๆ นี่หว่า”
“สาวๆ ก็น่าเบื่อ แต่ละคนกรี๊ดกร๊าดจนแสบแก้วหูเลยหนีกลับมาก่อน..”
ภาสกรบอกยิ้มๆ แล้วเอนกายลงนอนบนผืนหญ้าเขียวขจีมองท้องฟ้าสีฟ้าสดใสในวันแดดอุ่นๆ ช่วงเดือนพฤศจิกายน อากาศที่บ้านพักตกอากาศบนเนินเขากำลังเย็นสบาย วันนี้ครอบครัวของเขามาพักที่บ้านหลังงามหลังจากที่ไม่ได้มาเกือบปี ตอนนี้ไร่ชาไรสตรอว์เบอร์รี่กำลังงามทำให้ได้บรรยากาศดีๆ ถ่ายรูปก็สวย นักท่องเที่ยวเริ่มเดินทางขึ้นเหนือมากันเยอะ แต่ที่นี่จะมีความเป็นส่วนตัวและไม่พลุกพล่าน
แม่ฮ่องสอนแม้จะเป็นจังหวัดเล็กๆ แต่ก็น่าอยู่และอากาศดี ครอบครัวของเขาจึงมาซื้อที่ไว้ที่นี่ราวห้าสิบไร่และสร้างรีสอร์ตหรูไว้เพื่อรองรับเพื่อนๆ ของครอบครัวและให้นักท่องเที่ยวเข้าพัก แต่จะมีบ้านพักหลังใหญ่ที่อยู่แยกต่างหากจากโซนรีสอร์ตเพื่อความเป็นส่วนตัว และ ไทเลอร์บลูสกายรีสอร์ต ก็เป็นรีสอร์ตสุดหรูที่งดงามเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดฮิตไปด้วยเพราะบ้านพักและหลังอาคารที่พักแต่ละหลังนั้นสวยงามมีความเป็นส่วนตัวและสถานที่ตกแต่งงงดามอิงธรรมชาติได้อย่างลงตัวเรียบๆ แต่หรูหราที่ผสมผสานความเป็นไทยกับตะวันตกได้เป็นอย่างดี
แม้ธุรกิจรีสอร์ตและโรงแรมจะมีกำไรมหาศาลในแต่ละปี แต่รายได้หลักของครอบครัวภาสกรไม่ได้มาจากธุรกิจนี้ แต่มาจาก เกรย์อินดรัสตี้ ดีเวลลอปเมนต์ ซึ่งเป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ที่ผลิตและจำหน่ายเฮลิคอปเตอร์ รถบรรทุก รถดับเพลิง ตลอดจนเครื่องมือขุดเจาะอุโมงค์ต่างๆ ที่มีชื่อเสียงของอเมริกา และยังเป็นบริษัทที่มั่นคงมั่งคั่งที่สุดแห่งหนึ่งของโลก
ภาสกร หรือเพื่อนๆ ที่อเมริกามักเรียกเขาว่า แซม เป็นหนุ่มเนื้อหอมและทรงเสน่ห์เป็นที่ถูกตาต้องใจของหญิงสาวทั้งอเมริกา แน่นอนว่าการเป็นทายาทของมหาเศรษฐีชื่อดัง ชีวิตของเขาต้องเพียบพร้อมทุกอย่างไม่เคยสักครั้งที่อยากได้อะไรแล้วไม่ได้ แต่ภาสกรถูกอบรมสั่งสอนมาให้เป็นลูกผู้ชายที่มีความเป็นสุภาพบุรุษสูง เขาจะไม่อยากได้อะไรที่ทำให้คนอื่นเดือดร้อนหรือไร้เหตุผล ทุกอย่างในชีวิตของเขามีแบบแผนและมีเหตุผลเสมอ
มารดาซึ่งเป็นคนไทยนั้นจะย้ำนักย้ำหนาเรื่องบาปบุญคุณโทษ แม้จะร่ำรวยเราก็ไม่ควรเอาเปรียบหรือข่มเหงใคร ซึ่งสำหรับภาสกรนั้นยอมรับคำสั่งสอนนี้ของมารดา แต่สำหรับเรื่องชีวิตลูกผู้ชายนั้นเขาก็ได้คุณปู่มาเต็มที่เช่นกัน หล่อเหลา เร่าร้อน ร้ายกาจและเสเพล นั่นคงเป็นข้อเสียของเขาแต่ใครจะสนเมื่อเซ็กซ์มันคือความสุขของมนุษย์อย่างหนึ่ง
“นายนี่ปากร้ายจริง”
“นายร้ายกว่า..” ภาสกรพูดยิ้มๆ สองหนุ่มนอนอาบแดดกันอย่างเพลิดเพลินอยู่อย่างนั้นจนได้เวลาอาหารกลางวันจึงเข้ามาในบ้าน...
ภาสกรเห็นร่างบอบบางของสาวน้อยแสนสวยกำลังก้มๆ เงยๆ อยู่กับแจกันดอกไม้บนโต๊ะอาหารที่ถูกจัดเตรียมไว้สำหรับทุกคนในครอบครัวทั้งบิดามารดาและน้องสาวน้องชายฝาดแฝดของเขา รวมไปถึงครอบครัวของทิพย์ธารา และย่าเล็กกับแม่ชื่นด้วย ดวงตาคมมองอาหารบนโต๊ะก็พอรู้ได้ว่าใครทำ..
“โอ้โห น่ากินจังเลยแต่อร่อยรึเปล่านะหรือจะเค็มขี้มือ..” เขาแสร้งร้องขึ้นแล้วเดินไปชะโงกดูอาหารบนโต๊ะและทำท่าจะเอื้อมมือไปหยิบปลาที่หั่นเป็นชิ้นพอดีคำทอดเหลืองกรอบน่ากินแต่ไม่ทันที่มือเขาจะได้ยื่นไปถึงชิ้นปลาที่ถูกตกแต่งอย่างสวยงามในจานภาสกรก็สะดุ้งชักมือกลับแทบไม่ทันเมื่อมือเล็กๆ ของทิพย์ธาราตีเผี๊ยะลงมา...
“โอ๊ย..” ภาสกรร้องลั่นเลยทีเดียวเมื่อมือเรียวบางฟาดลงมาแบบไม่ออมแรง
“ไปล้างมือเดี๋ยวนี้เลยค่ะ” ใบหน้างามผุดผ่องด้วยวัยสาวบึ้งตึงดวงตากลมโตดำขลับวาววับราวแม่เสือ
“พี่ขอชิมแค่นิดเดียวเองทำหวงไปได้..”
“นิดเดียวก็ไม่ได้ค่ะเพราะพี่แสนยังไม่ล้างมือและการมาแอบหยิบอาหารในจานแบบนี้มันไม่ดีค่ะ เสียมารยาท”
“อะไรกันจ๊ะเด็กๆ เสียงดังไปถึงข้างนอกเลย” คุณย่าเล็กเดินเข้าเข้ามาพร้อมด้วยน้องชายน้องสาวฝาแฝดของภาสกร...
“น้องน้ำแข็งจัดการคนดื้อหรือจ๊ะ” เอกธนา หรือ เอ็ดดี้ เอ่ยถามทิพย์ธาราแล้วหันไปมองพี่ชายยิ้มๆ
“พี่แสนมาแกล้งอะไรน้องน้ำแข็งอีกคะเนี่ย” พิ้งกี้ หรือ อุษาพิไล หลิ่วตาให้พี่ชายแล้วนั่งลงข้างๆ ย่าเล็ก เอกธนาเลื่อนเก้าอี้ให้ผู้เป็นย่านั่งเรียบร้อยแล้วก็มานั่งข้างๆ พี่สาว
“ไม่ได้ทำอะไรเสียหน่อย” ภาสกรตอบเสียงเบาแล้วมองหน้าสวยใสของทิพย์ธาราอย่างล้อเลียน
“แค่แม่แก่แถวๆ นี้ขี้หวง”
“พี่แสนว่าใครคะ..” ทิพย์ธาราหน้างอมองเขาตาขุ่น
“ก็ใครล่ะที่ขี้หวงแล้วก็ขี้บ่น..”
ภาสกรยื่นหน้ามาใกล้ทิพย์ธาราผงะหนีเล็กน้อยแล้วผลักอกกว้างของเขาอย่างฉุนเฉียว ภาสกรแสร้งเซน้อยๆ แล้วหัวเราะขบขัน
“พี่แสนคนบ้า ว่าน้ำแข็งเป็นยายแก่”
“แสนนี่ละก็ชอบแกล้งน้ำแข็งจริงๆ เลย ไปล้างมือไป แล้วรีบมากินข้าว..”
คุณย่าเล็กเอ็ดหลานชายเบาๆ ในใจของผู้เป็นย่านั้นรู้ดีว่าหลานชายตัวดีนั้นคิดอย่างไรกับทิพย์ธาราแต่พอเข้าใกล้สาวน้อยหน้าใสแสนสวยทีไรภาสกรก็มักจะกลั่นแกล้งให้ทิพย์ธาราโมโหฉุนเฉียวหรือไม่ก็ต้องหาเรื่องทะเลาะกับทิพย์ธาราเสมอ จนเหมือนไม้เบื่อไม้เมาที่พบกันทีไรก็มักจะมีปากเสียงกันตลอด จนบรรดาผู้ใหญ่ต่างก็เอือมระอาและมักจะต่อว่าภาสกรเสมอที่ชอบหาเรื่องทิพย์ธารา
“ก็ดูสิครับ หลานสาวที่รักของคุณย่าขี้บ่นขี้หวงเจ้าระเบียบชะมัด เหมือนคุณย่าไม่มีผิด ถ้าไม่เรียกว่ายายแก่จะเรียกอะไรล่ะครับ”
“ยังอีกแน่ะ เด็กคนนี้นี่..”
ภาสกรหัวเราะเบาๆ แล้วเดินไปล้างมือก่อนจะกลับมานั่งที่โต๊ะอาหารซึ่งในวันนี้อยู่กันพร้อมหน้า เหมือนครอบครัวใหญ่สองครอบครัวมาเจอกัน บรรยากาศจึงอบอุ่นและเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะ
ภาสกรมองบรรยากาศบนโต๊ะอาหารที่มีคนในครอบครัวสิบเอ็ดชีวิตอย่างรู้สึกอบอุ่นและซึมซับบรรยากาศเช่นนี้ไว้ เขาชอบความรู้สึกที่อยู่ท่ามกลางคนในครอบครัวได้พุดคุยได้เห็นหน้ากันได้หัวเราะในเรื่องเฉิ่มๆ เปิ่นๆ เด๋อด๋าของกันและกัน ได้เห็นใบหน้าสวยละมุนรอยยิ้มหวานๆ และเสียงหัวเราะใสๆ ของทิพย์ธารา...
หากเขาจะแต่งงานมีครอบครัว หรือในอนาคตที่เขาจะได้เป็นปู่หรือตา เขาก็หวังจะได้เห็นบรรยากาศครอบครัวใหญ่ที่อยู่กันพร้อมหน้าแบบนี้เช่นกัน...
ทิพย์ธาราเดินลงมาที่ห้องครัวของเรือนหลังใหญ่ที่มีห้องร่วมยี่สิบห้องเรียกได้ว่าเรือนหลังนี้เหมือนคฤหาสน์หลังใหญ่ๆ ที่เคยเห็นในภาพตามนิตยสารต่างๆ ซึ่งเรือนหลังนี้เป็นรูปทรงแบบยุโรปผสมผสานกับอาคารแบบไทยภาคเหนือมองเผินๆ จะเหมือนปราสาทในเทพนิยายที่มีความงดงามที่ผสมผสานกันอย่างลงตัว และเธอก็ชอบที่นี่มากเวลาที่รวมญาติกันทุกคนมักจะเลือกที่นี่เป็นที่แรกแต่ก็มีบ้านพักอีกหลายแห่งที่คุณปู่โลแกนสร้างไว้ให้สำหรับลูกๆ หลานๆ เพื่อให้ทุกคนได้เที่ยวพักผ่อนอย่างสะสวกสบายไม่ต้องไปแย่งบ้านพักกับใครเพราะทั้งสองตระกูลนั้นมีสมาชิกหลายชีวิตดังนั้นการสร้างบ้านพักเพื่อรับรองคนในครอบครัวจึงเป็นทางออกที่ดีที่สุด คุณปู่จึงซื้อที่ไว้หลายแห่ง มีทั้งที่ติดทะเลติดภูเขารวมไปถึงเกาะส่วนตัวของคุณปู่โลแกนที่มีบ้านพักสำหรับทุกคนในครอบครัว
