แรดสลัดคาน

98.0K · จบแล้ว
วรนิษฐา
65
บท
3.0K
ยอดวิว
9.0
การให้คะแนน

บทย่อ

สาวอวบที่มาพร้อมการสลายไขมัน หวังสลัดคานให้กระเด็น แต่เพราะไม่ชื่นชอบการออกกำลังกาย เธอจึงคิดจะผอมทางลัดด้วยการนวดเพื่อสลายไขมัน แต่มือนวดกลับเป็นหนุ่มหล่อแถมยังน่าลาก งานนี้ไม่รู้เธอจะให้เขานวดหรือจะไปนวดเขากันแน่นะสิ

นิยายรักโรแมนติกนิยายรักประธานรักแรกพบฟินๆนัดบอดพระเอกเก่งรักหวานๆโรแมนติก

บทนำ

เพลงรำวงที่ดังขึ้นไปทั่วโรงเรียนหนองปลาช่อน โรงเรียนที่ทิพย์ทิวาสาวอวบและสาวสวยเพื่อนสนิทอย่าง แม้นศรี ร่ำเรียนมาด้วยกัน และขณะนี้เธอสองคนก็มาอยู่ในบรรยากาศงานคืนสู่เหย้าแบบบ้านๆ ที่เปิดเพลงรำวงกันอย่างสนุกสนาน ดูครื้นเครง เฮฮา

แม้นศรีเป็นจุดเด่นและจุดสนใจอยู่กลางเวที นั่นเพราะสาวสวยของงานกลายเป็นดาวล้อมเดือน วันนี้แม้นศรีสวยพริ้งตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า เล่นเอาคนทั้งงานตกตะลึงกำลังออกสเต็ปเต้นรำวงควงคนนั้นคนนี้อย่างสนุกสนาน

ขณะที่ทิพย์ทิวานั้นขออาสานั่งรอและกินอยู่ที่โต๊ะอย่างเมามัน แหม...ของกินแต่ละอย่าง เป็นของขึ้นชื่อประจำจังหวัดทั้งนั้น จะเลิกกินง่ายๆ ได้ยังไงเล่า นานๆ กลับมากินที ต้องฟาดให้พุงกาง แถมยังกระซิบบอกเพื่อนที่คุมเรื่องอาหาร ให้ห่อให้เธอกลับบ้านด้วยโดยเฉพาะกุ้งแม่น้ำ

แต่เพราะดื่มน้ำมากไป ทำให้อยากเข้าห้องน้ำเสียแล้ว จึงลุกขึ้นจากเก้าอี้ตัวที่นั่งอยู่ แล้วก้าวยาวๆ ตรงไปยังห้องน้ำของโรงเรียน

“โธ่…ตอนเด็กๆ อ้วนยังไง โตขึ้นก็ยังอ้วนเหมือนเดิม” ประโยคนี้ดังแว่วฝ่าเสียงเพลงรำวงมาเข้าหูให้ทิพย์ทิวาได้ยิน แม้จะไม่อยากสนใจนัก แต่ประโยคนี้ก็ดึงเหตุการณ์ในอดีตให้หวนเข้ามาตอกย้ำ

จำได้…ว่าเมื่อตอนประถม เธอเป็นเด็กใหม่ที่พึ่งย้ายมาเรียนที่โรงเรียนหนองปลาช่อน วันแรกที่เข้ามาเรียนก็ถูกรับน้อง ถูกแกล้งสารพัดอย่าง ความที่ยังเป็นเด็กใหม่ ไม่มีเพื่อน ทำให้ทิพย์ทิวาไม่มีพรรคพวกไปต่อกร

อย่าว่าแต่พรรคพวกเลย แม้แต่เพื่อนที่จะคุยด้วยเธอยังไม่มี

ขณะที่กำลังจะกินข้าวเที่ยงคนเดียว อยู่ๆ หัวโจกของห้องก็เข้ามาก่อกวน แย่งปิ่นโตที่แม่อุตส่าห์เตรียมมาให้ไปจากมือ ส่วนเธอถูกผลักจนตกเก้าอี้ ลงไปนั่งกองอยู่กับพื้น

‘ยัยอ้วน ยัยหมูตอน’

ทิพย์ทิวาโกรธคำๆ นี้มาก โกรธจนเลือดขึ้นหน้า แต่แรงเดียวหรือจะสู้สามแรง กระทั่งถูกแกล้งจนพอใจ แก๊งหัวโจกจึงเดินไปพร้อมกับปิ่นโตที่เป็นมื้อเที่ยงของเธอ

ขณะที่ก้มหน้ามองพื้น อยู่ๆ ก็รู้สึกเหมือนมีคนมานั่งด้วย พอเงยหน้าขึ้นมอง จึงเห็นว่าเป็นเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆ ผอมๆ ที่กำลังส่งยิ้มจนตาหยี แล้วตักข้าวสวยพร้อมกับไข่พะโล้แบ่งใส่จานยื่นมาให้เธอ

‘อร่อยนะ แม่เราทำเอง’ เสียงสดใสเอ่ยบอก ทิพย์ทิวาก้มมองไข่ไก่ฟองใหญ่สีน้ำตาลแล้วเงยหน้าขึ้นมองแม้นศรี เพื่อนรัก เพื่อนแท้ และเพื่อนตายของเธอตั้งแต่วันนั้น จนกระทั่งวันนี้

ทิพย์ทิวาดึงสติกลับมาสู่ร่างอวบๆ ก่อนจะเดินตรงไปเข้าห้องน้ำ พยายามไม่สนสายตาของใครต่อใครที่จ้องมอง เมื่อเห็นทิพย์ทิวาเข้าห้องน้ำไปแล้ว

สายตาที่มองเธอเมื่อครู่ ก็หันไปเพ่งยังแม้นศรีที่ตอนนี้ยังออกสเต็ปรำวงอย่างสนุกสนานตลอดเวลาอย่างอาฆาต

“หมั่นไส้นังแม้นมาก” กิรณากระซิบกับบัณฑิตา เธอมองภาพที่แม้นศรีกำลังเต้นกับอดีตหนุ่มฮอตที่สุดของชั้นเรียน ที่ตอนนี้แม้จะผมบางๆ ไปนิด แต่ก็ยังหล่อพอดูได้

“มากอะ”

“จะทำยังไงกับมันดี ว่ามันเรื่องศัลยกรรมก็ไม่เห็นมันจะสะท้านเลย”สีหน้าของกิรณาครุ่นคิด หาทางเล่นงานแม้นศรี

“มันยังโสด ไม่มีคนมาจีบ เล่นงานข้อนี้เลยมะ สามสิบแล้วก็จองคาน น่าอายขายหน้าจะตาย ถึงมันจะสวยก็เหอะ”บัณฑิตายิ้มเย้ย อริหมายเลขหนึ่งของแม้นศรีและทิพย์ทิวาส่งยิ้มให้กันและกัน

“ลุยปะ”กิรณายิ้มกริ่มถามคนข้างๆ

“ลุยสิ” ว่าแล้วสองสาวก็ทำหน้าเชิด เดินสวยๆ เข้าไปหาแม้นศรี ที่ตอนนี้เดินเซน้อยๆ เพราะเริ่มมึน

จังหวะนั้น ทิพย์ทิวาจัดการธุระส่วนตัวเสร็จก็เดินออกมา สายตาก็มองเห็นศึกที่กำลังเกิดตรงหน้า แม้นศรีถูกรายล้อมด้วยกิรณาและบัณฑิตา แก๊งหัวโจกที่เป็นอริกันมาตั้งแต่ยังเป็นเด็กหญิงยันตอนนี้ นั่นทำให้ทิพย์ทิวารีบเดินเข้าไปหาทันที

ส่วนแม้นศรี เมื่อเห็นสองสาวเดินมาเธอก็ทำหน้าเชิด แล้วโบกมือให้

“เฮลโหล ว่ายังไงจ๊ะ”

“สนุกมากเลยนะเมนี่ เธอสวยขึ้นจริงๆ นั่นแหละ” กิรณาโปรยยาหอมก่อน แม้นศรียิ้มด้วยรอยยิ้มของผู้ชนะ

“ก็จะได้เลิกขี้เหร่ยังไงล่ะ ความขี้เหร่น่ะ มันเลิกได้ด้วยเงิน พอดีว่า ฉันน่ะร้วย รวย ฮี่ๆ”

“จ้ะ รวย รวยจริงๆ นั่นแหละ แต่ว่าขี้เหร่ใช้เงินซื้อได้ แต่อย่างอื่น เงินซื้อไม่ได้นะ ฉันว่าคงจะมีคนเห็นว่าเธอมีอะไร...”กิรณามองแม้นศรีแบบหัวจรดเท้า พลางเบ้ปากและยักไหล่

“ก็เลยยังเก๋ๆ อยู่บนคาน”

“คนอย่างฉันน่ะ เลือกย่ะ จะได้ไม่เป็นแม่ม่ายวัยสาวยังไงล่ะ” เมื่อโดนแม้นศรีย้อนเข้ากิรณาก็หน้าตึงไปนิด แล้วหัวเราะหยันๆ

“แต่ก็ยังเคยได้มีผัว ได้ลองใช้ชีวิตคู่นะเมนี่ ไม่ใช่ว่าไม่เค้ย ไม่เคยมีใครมาจีบเลย มันน่าอับอายนะ เกิดมาทั้งทีไม่เคยมีแฟน”

“อย่างฉันน่ะมีเยอะแยะ มีให้เลือกไม่หวาดไม่ไหวต่างหากล่ะ” แม้นศรีทำปากยื่น เริ่มโมโหแล้วตุ่ยๆ เธอเท้าเอวฉับ เข้าทางกิรณาและบัณฑิตาเลยทันที

“พิสูจน์สิ ว่าเธอน่ะ มีเสน่ห์แล้วก็มีผู้ชายมารุมจีบจริงๆ เมนี่”

“พิสูจน์ยังไงล่ะ” เลือดบ้าเริ่มเดือดปุดๆ ทิพย์ทิวากำลังแทะน่องไก่ทอดอยู่ เห็นเพื่อนรักกำลังยืนคุยกับสองสาว ท่าทางไม่ชอบมาพากล เลยวางของกินลง แล้วเดินไปทางสาวๆ

“ก็หาคู่ควงมางานนี้ให้ได้ ฉันให้เวลาปีหนึ่งเลย ทำได้ปะล่ะ หาแฟนให้ได้แล้วเอามาประกาศ ฉันอยากจะรู้ว่า อย่างหล่อนน่ะ จะหาผู้ชายได้ดีขนาดไหน ดีกว่าฉันรึเปล่า เพราะระดับฉันน่ะ ทิ้งผู้ชายย่ะ ที่เป็นแม่ม่ายก็เพราะทิ้งผู้ชาย ถ้าหล่อนควงมา ฉันก็จะควงมาเหมือนกัน จะหาผู้ชายใหม่มาประชันกับเธอ ดูสิว่า ของใครจะดีกว่าใคร”

“อ๋อ...ท้าเหรอ เธอมาท้าฉันเรื่องปัญญาอ่อน คิดว่าจะไม่กล้ารับคำท้าเหรอ”

“พนันกันด้วยก็ยังไหวนะยะ” เสียงนี้มาจากบัณฑิตา ทิพย์ทิวาที่เดินเข้าไปใกล้ได้ยินแว่วๆ ว่าท้าพนันอะไรกัน ก็ตาโต รีบก้าวเท้าให้เร็วอีกหน่อย

“ได้เลย พนันอะไรล่ะ” แม้นศรีตอนนี้ชักหน้ามืดแล้ว เพราะทั้งเมา ทั้งโมโห

“เงินล้านหนึ่ง ถ้าใครไม่มีคนควงมางานคืนสู่เหย้าปีหน้า ว่าไง” กิรณาว่า