สบตา ครั้งที่ 1: ฮิคารุซามะ [2/2]
“มายังไงของมึงวะเนี่ย!”
แหกปากลั่นสนั่นซอยมาก ความสุภาพก็ไม่มี ขึ้นมึงขึ้นกูหน้าตาเฉย ทำเอาคนทั้งห้องเรียนหันมามองยังมันเป็นตาเดียว ก่อนที่มันจะถูกอาจารย์อัปเปหิออกจากห้องในไม่กี่นาทีให้หลังด้วยโทษฐานไม่ตั้งใจเรียน
มันก็ยอมเดินออกจากห้องมาง่ายๆ นะ ดูท่าแล้วคงตั้งใจจะหนีผม แล้วถามว่าผมยอมปล่อยให้มันจากไปง่ายๆ ไหมล่ะ ...ไม่ บอกว่าจะตามติดแล้วก็ต้องตามสิ เห็นมันถูกไล่ออกจากห้อง ผมก็คว้าสัมภาระเดินตามมันออกมาทันที
เดินตามไปได้พักใหญ่ คชาก็เหมือนจะสิ้นสุดความอดทน หันมาแผดเสียงใส่ผมระหว่างที่เราเดินกันไปตามทางที่มุ่งตรงไปยังโรงอาหาร
“ตามกูมาทำไมวะ มึงจะเอาอะไร”
ผมที่ก้มหน้ามองพื้นระหว่างเดินอยู่เหลือบมองใบหน้าหล่อที่ยับยู่เล็กน้อยพลางว่า
“เราก็จะเอากระเป๋าตังค์มาคืนให้นี่แหละ”
“ถ้าจะมาแค่เอากระเป๋าตังค์มาคืนให้ ก็เอามา!”
ไม่ว่าเปล่า แบมือขอแบบซึ่งๆ หน้าอีกด้วย
ผมก็อยากจะให้แหละนะ แต่ท่าทางกุ๊ยแบบนี้มันใช่วิธีการขอของคืนจากคนที่อุตส่าห์เก็บได้ไหมฮะ!
ผมพยายามเก็บอารมณ์ที่หงุดหงิดขึ้นมาบ้างเต็มที่ อยากจะเลิกยุ่งกับมันเหมือนกัน แต่ก็นะ สบตามันกี่ครั้งๆ ก็ไม่เห็นจุ๊ดจู๋ ผมเลยจัดใจเทมันทิ้งไม่ลง ยิ่งในเวลาที่ต้องหารูมเมตเร่งด่วนก่อนที่จะถึงกำหนดย้ายออกจากหอหลังหมดสัญญาเช่าในเทอมนี้ด้วย ผมก็เลยต้องยอมตื๊อมันอย่างไม่มีทางเลือก
“คืนน่ะคืนแน่ แต่มีข้อแม้อยู่อย่างนึง” ต่อรองออกมา
คชาทำหน้าเครียดทันควัน “อะไร”
“มาอยู่ห้องเดียวกับเราสิ”
ทำหน้าแหยงใส่ผมไปอีกที ก่อนจะครางออกมาเบาๆ
“มึงนี่มันโรคจิตจริงๆ ด้วยว่ะ”
“ไม่ได้โรคจิตเลย แค่อยากอยู่ด้วยกันเฉยๆ “
ผมว่าไปตามตรงด้วยความบริสุทธิ์ใจ แต่ยิ่งพูด สีหน้าของคชาก็ดูขยะแขยงผมมากกว่าเดิมทุกขณะจิต สุดท้ายแล้วมันก็พุดออกมาว่า...
“งั้นกูไม่เอาละ กูยกให้มึง ส่วนมึงจะไปไหนก็ไปเลย บาย”
เดินหนีไปหน้าตาเฉยเลย แต่ก็อย่างที่บอกว่าผมไม่ยอมแพ้ง่ายๆ หรอก เดินตามมันไปอีก ตามไปจนเกือบจะถึงโรงอาหาร ยิ่งเดินมาเจอคนเยอะขึ้นเรื่อยๆ ผมก็ยิ่งตามติดคชามากขึ้น
ไม่ใช่ตามติดสิ เดินติดจนแทบจะชิดแผ่นหลังเลยมากกว่า มือนี่คว้าปลายเข็มขัดที่หลังกางเกงมันจนกลายเป็นว่ามันจูงผมเดินแล้วด้วย
ก็แบบว่าคนมันเยอะน่ะ กลัวว่าจะไปสบตาใครเข้าแล้วเห็นชีเปลือยนี่หว่าเลยต้องเดินก้มหน้า แต่พอก้มหน้าก็กลัวว่าคชาจะหายเลยต้องจับเอาไว้
ส่วนคชาก็เหมือนจะหมดความอดทนอีกครั้ง หยุดเดินกะทันหัน เบรกเอี๊ยดเสียจนหน้าผมกระแทกเข้ากับแผ่นหลังของมันเต็มแรง ก่อนมันจะหันหน้ามามองผมด้วยสีหน้าที่ดูก็รู้ว่ากำลังข่มความโกรธสุดฤทธิ์
“ถามตรงๆ เลยนะ ตกลงมึงตามตื๊อกูให้ไปอยู่ด้วยทำไม กูว่าไม่ใช่แค่เรื่องอยากให้กูไปอยู่ด้วยละ มึงต้องมีเรื่องอื่นแน่”
ถูกเผงเลย มันมีเรื่องมากกว่านั้น แต่ผมก็ทำได้เพียงนิ่งงัน ไม่รู้ว่าจะตอบยังไงดี ขืนบอกความจริงไปว่ามันเป็นคนเดียวและเป็นคนแรกที่ผมสบตาด้วยแล้วไม่เห็นกระเปี๊ยวในตลอดสิบปีที่ผ่านมา เดี๋ยวมันก็จะหาว่าผมโกหกอีก ผมเลยต้องคิดหาทางโกหกไปเรื่องอื่นเพื่อกลบเกลื่อนเรื่องจริงที่จะทำให้มันคิดว่าเป็นเรื่องโกหก
โกหกอินเซ็ปชัน ซับซ้อนซ่อนเงื่อนไปอี๊ก!
“ว่าไง ตกลงทำไมถึงอยากอยู่กับกู อย่าบอกนะว่าคิดอะไรแปลกๆ อยู่ โรคจิตป่ะเนี่ยมึงอะ อยากอยู่กับคนป็อปๆ อย่างกูเพื่อให้มีสาวมาสนล่ะซี่”
คิดอยู่พักนึง ยังไม่ทันจะคิดออก มันก็โพล่งออกมาละ มองหน้าผม เอียงคอถามด้วยท่าทางกวนโอ๊ยสุดๆ ผมพ่นลมหายใจออกมาเต็มแรง ข่มความหงุดหงิดที่พรั่งพรูเข้ามา บอกปฏิเสธด้วยน้ำเสียงเรียบ
“ไม่ใช่”
“เอ้า แล้วจะอยากมาอยู่กับกูทำไม หรือว่า...” จู่ๆ คชาก็ทำท่าคิด พลันยื่นหน้าเข้ามาใกล้ผม “มึงจะแอบชอบกู?”
กูจะเอาผู้ชายด้วยกันมาทำมะเขืออะไร!
ผมถึงกับเบิกตาโตทันควันกับความมั่นอกมั่นใจของมัน พลันผลักหน้าหล่อๆ ที่อยู่ใกล้เพียงคืบออกห่าง โพล่งออกไปเสียงดังอย่างลืมตัว
“ไม่ใช่เว้ย!”
“ไม่ใช่ก็ไม่ใช่สิวะ จะโวยวายทำไม ทำเสียงดังงี้ แม่งโคตรมีพิรุธ”
จริงของมัน ผมเลยรีบเก็บอาการ ทำปากมุบมิบด่ามันในใจไปที ขณะที่มันก็มองผมอย่างระอา ก่อนว่าขึ้นมาอีก
“คุยกับมึงแล้วเสียเวลาชีวิตว่ะ เอาแบบซีเรียสเลยนะ ตกลงมึงอยากจะอยู่กับกูทำไม กูจะได้รู้สักทีว่ามึงตามตื๊อกูทำบ้าอะไร”
ผมจ้องหน้าคนตัวสูงกว่านิ่ง เผลอเม้มปากแน่นอย่างครุ่นคิดว่าควรจะบอกความจริงไปไหม สุดท้ายก็...
“เออ บอกก็บอกวะ”
“อะ รอฟัง”
คชายืดตัว ยกแขนขึ้นกอดอก ทำท่าตั้งใจฟังสุดๆ เห็นแล้วผมก็หมั่นไส้
ไอ้หน้าหล่อนี่ ตัวจริงมันโคตรกวนจนฝ่าเท้าผมงี้กระตุกยิกๆ เลยพับผ่า ดีแต่หน้าตาจริงๆ แต่ก็พยายามมองข้ามเรื่องนั้นไป หันซ้าย แลขวา ลากมันเข้าซอกตึกบริเวณนั้นแบบไม่ทันให้มันตั้งตัว พอเห็นว่าลับสายตาคน ผมก็ยื่นมือไปดึงเสื้อนักศึกษาอีกฝ่ายเพื่อให้เถิบเข้ามาใกล้
คชาสะดุ้งเล็กน้อย ทว่าก็ยอมยื่นหน้าเข้ามาหาแต่โดยดี
“เป็นความลับนะ”
“เออ”
“รักษาสัญญาว่าจะไม่ไปบอกคนอื่นด้วย”
“เออน่า” คชาทำหน้ารำคาญ
ผมมองหน้ามันแล้วก็ไม่ค่อยเชื่อเท่าไหร่ว่ามันจะรักษาความลับอย่างที่พูด แต่ด้วยความที่อยากได้มันมาอยู่ด้วย ยังไงผมก็ต้องยอมล่ะวะ
ผมสูดลมหายใจเข้าเต็มปอด บอกมันออกไปในอีกไม่กี่วินาทีให้หลัง
“คืองี้...นายเป็นผู้ชายคนแรกที่เราสบตาด้วยแล้วไม่เห็นเจี๊ยวว่ะ”
พูดจบ ผมก็ปล่อยมือออกจากเสื้อมัน คชาเบิกตาโตคล้ายกับว่าตกใจ ค่อยๆ ถอยห่างจากผมทีละน้อย ปากก็ว่าไปด้วย
“มึงนี่... อยากอยู่กับกูเพราะอยากเห็นเจี๊ยวกูว่างั้น โรคจิตว่ะ”
ว่างั้นป้ามึงเถอะ! ก็บอกว่าเป็นผู้ชายคนแรกที่สบตาด้วยแล้วมึงไม่แปลงร่างเป็นชีเปลือยไง เข้าใจอะไรยากเย็นจังวะ!
ผมตั้งท่าจะอธิบาย แต่ไอ้คชาไม่รอฟังแล้ว เบ้ปากใส่ผม พลางว่าพึมพำ
“อยากทำความรู้จักกับเดอะ ลิตเติล คชาถึงขนาดตะล่อมให้ไปอยู่ด้วยแบบนี้ แผนสูงนี่หว่า ร้ายกาจ”
จะอยากทำความรู้จักไปทำเตี่ยมึงเหรอ ถึงมันจะผงกหัวขึ้นมาเช็คแฮนด์ กูก็ไม่บ้าจี้ไปเซย์ไฮหรอกเว้ย!
รำคาญมันขึ้นมาทันทีเลยที่มันพูดไม่รู้เรื่อง คชาเองก็ดูรำคาญผมเช่นกันและดูเหมือนกับว่ามันมีลิมิตในการอดทนน้อยกว่าผมเสียด้วย เห็นผมเม้มปากแน่นจนเป็นเส้นตรง ไม่รู้ว่าจะอธิบายเรื่องพวกนี้ยังไง มันก็แสยะยิ้มออกมา วางมือไว้บนหัวผมด้วยท่าทางกวนประสาทสุดๆ
“ต้องขอโทษด้วยว่ะที่กูไม่มีรสนิยมชอบผู้ชายด้วยกัน อ่อยกูขนาดนี้แต่ต้องขอโทษด้วยที่กูต้องปฏิเสธ อกหักไปนะมึง”
อกหักบ้าบอคอแตกอะไร แล้วก็ไม่ได้อ่อยเลยสักนิด!
ไม่ได้เปิดโอกาสให้ผมแก้ตัวแต่อย่างใด พูดจบ คชาก็หมุนตัวเดินหนีไปอีกทางแล้ว ผมได้สติก็รีบพุ่งเข้าไปคว้ามันไว้อีกครั้ง
“เฮ้ยเดี๋ยวก่อน แล้วกระเป๋าตังค์ไม่เอาแล้วหรือไง”
ทำเป็นอ้างกระเป๋าเงินที่เป็นตัวประกันอยู่กับผมไปอย่างนั้น ความจริงไม่ได้ตั้งใจจะเอาคืนมันในเวลานี้เลย
คชาหันมามองผมด้วยสายตาหยามเหยียดสุดๆ ในวินาทีนั้น
“ให้มึงเอาไปนอนกอดเลย จะเอาไปทำอะไรก็ตามใจ เดี๋ยวพวกบัตร กูไปทำใหม่เอง”
ว่าอย่างไม่แยแส สะบัดผมที่เกาะอยู่เสียเต็มแรงจนมือหลุดออกจากแขนมัน ผมใจหายวาบทันทีที่เห็นเหยื่อจะหลุดลอยไป
ความคิดนั้นเหมือนจะเข้าข่ายว่าเป็นพวกโรคจิต แต่จะให้ทำไงล่ะ ผมอยากอยู่กับคนที่ทำให้ผมรู้สึกเหมือนเป็นมนุษย์ปุถุยนคนปกติเหมือนกันนี่หว่า!
เท่านั้นผมก็พุ่งเข้าไปหามันอีกรอบ คชารู้ตัวก่อนเลยกระโดดหนีได้ทัน ผมเลยคว้าอากาศแทน พอจะเปลี่ยนไปคว้าเข็มขัด คชาก็เอี้ยวตัวหลบอีก ผมเลยคว้าอะไรไว้ในมือไม่ได้เลย
นอกจาก...แฟ้มใส่เอกสารการเรียนที่มันเหน็บอยู่ใต้รักแร้
คว้าได้ปุ๊บก็กระชากเสียเต็มแรง แฟ้มเอกสารหนังสีน้ำตาลเข้มก็ร่วงหล่นสู่พื้น แถมมันดันไม่ได้รูดซิปแฟ้มปิดอีก ข้าวของข้างในเลยหล่นกระจัดกระจายเกลื่อนกลาดเต็มพื้นไปหมด
คชารู้สึกตัว พอหันมาเห็นก็อุทานด่าผมเสียงดังลั่น
“แม่งเอ๊ย ทำบ้าอะไรของมึงวะ!”
แล้วผมสนไหมล่ะ... ไม่ รีบกุลีกุจอก้มหน้าก้มตาเก็บข้าวของให้มันอย่างร้อนรน ตอนนี้ผมตกเป็นเป้าสายตาของคนรอบข้างแล้วด้วย เป็นอย่างนี้แล้วยิ่งไม่ควรเงยหน้าขึ้นมาใหญ่เลย ได้แต่ก้มหน้ามองพื้น ก่อนที่มือจะไปคว้าเอาซองกระดาษสีน้ำตาลที่ใส่ของบางอย่างไว้อยู่
ผมหยิบซองนั้นมาไว้ในมือ มองผ่านๆ ก็รู้ว่าเป็นซองพัสดุด้วยหน้าซองมีการระบุชื่อและที่อยู่เอาไว้ แต่อะไรก็ไม่ทำให้ผมสะดุดใจได้เท่ากับรอยตราประทับของร้านชื่อแปลกๆ ร้านหนึ่ง
‘Adult xxx’
ชื่อแบบนี้จริงๆ xxx นี่แม่งคืออะไรก็ไม่รู้ แต่ผมคิดเป็นเรื่องสิบแปดบวกไปแล้ว
อีแบบนี้ต้องเป็นของเล่นผู้ใหญ่ ไม่ก็อะไรที่เกี่ยวกับเรื่องใต้สะดือแหง
ผมก็ไม่ได้ตั้งใจจะละลาบละล้วงดูของข้างในมันหรอก ทว่าในจังหวะที่ผมหยิบซองนั้นขึ้นมา ผมดันไม่ทันได้สังเกตว่าซองนั้นถูกฉีกเปิดแล้ว การถือขึ้นมาโดยไม่ทันระวังทำให้ของข้างในไหลออกมาจากซองมาตกแหมะอยู่ที่พื้น ตอนนี้เองที่ผมได้รู้ว่าของข้างในมันคือกล่องดีวีดี
ดีวีดีหนังโป๊...ขะ...ของผู้ชาย
แผ่นหนัง GV นี่หว่า!
ผู้ชายวัยรุ่นญี่ปุ่นหน้าตาจิ้มลิ้มใส่กางเกงลิงตัวเดียว นั่งอ้าขาโชว์ห่อหมกอล่างฉ่างทำเอาผมตาแทบพร่า
หนังโป๊เกย์อย่างแน่นอน!
นี่กูอุตส่าห์ระวังสายตาว่าจะไปเห็นกระเปี๊ยวคนอื่นแล้วนะ มึงก็ยังจะเอามาให้กูเห็นอีก แม้ว่าจะเป็นรูปบนกล่องดีวีดีก็เถอะ แต่กูไม่อยากเห็นเว้ย!
อะไรไม่ว่า เรื่องน่าช็อกมากกว่านั้นก็คือผมตระหนักได้ในอีกไม่กี่วินาทีให้หลังว่ากล่องดีวีดีนี้มันเป็นของคชา เท่านั้นผมก็อ้าปากค้าง ก่อนจะได้สติเมื่อคิดขึ้นมาได้ว่าต้องรีบเก็บของนั้นให้เร็วที่สุดก่อนที่คนอื่นจะเห็น ส่วนคชาที่มัวเก็บอย่างอื่นอยู่หันมาเห็นผมคว้ากล่องดีวีดีไว้ในมือก็อ้าปากค้างไปเช่นกัน ใบหน้าหล่อซีดขาวประหนึ่งผีหลอก ก่อนที่จะแหกปากลั่น
“ฮะ...ฮิคารุซามะ! เอาท่านฮิคารุของกูคืนมานะเว้ย!”
พูดจบก็ถลาเข้ามาหาผม ผมไหวตัวทัน สัญชาตญาณบอกให้รู้ในวินาทีนั้นเลยว่าเป็นของสำคัญของมันแน่ ผมก็เลยรีบเอี้ยวตัวหลบ จัดการยัดฮิคารุอะไรนี่ยัดลงขอบกางเกงด้านหน้า เอาเสื้อนักศึกษาคลุมไว้ไม่ให้มันชิงคืนไปได้ง่ายๆ
คชาเห็นผมทำอย่างนั้นก็ทำหน้าเหมือนโลกจะแตก ร้องลั่นออกมา มือทึ้งผมตัวเองรัวๆ
“ท่านฮิคารุของกูแปดเปื้อนแล้ว! นั่นลิมิเต็ดอิดิชันมีเบื้องหลังการถ่ายทำนะเว้ย ทำอะไรของมึงเนี่ยไอ้เอ๋อ!”
นั่นไง ของสำคัญจริงๆ ด้วย
ผมยิ้มเผล่ สองมือกอดกล่องดีวีดีไว้แน่น พลางว่าด้วยน้ำเสียงเจ้าเล่ห์
“ถ้าอยากได้คืน เรามาลองนั่งคุยกันดีๆ หน่อยเป็นไง น่าจะต่อรองกันได้นะ”
คชาทำท่าฮึดฮัด แลดูโกรธผมจนแทบเก็บอารมณ์ไว้ไม่อยู่จนผมต้องพูดเพื่อไล่ต้อนมันขึ้นมาอีก
“ถ้าไม่ยอมตกลง เราหักทิ้งจริงๆ นะ”
ถึงจะเป็นเรื่องที่ไม่ถูกที่ผมจะไปทำแบบนั้นกับของของคนอื่น แต่จนแล้วจนรอดก็ทำให้คชายอมรับข้อเสนอของผมได้
“ไปคุยกันที่อื่น ตามมา”
แล้วก็เดินนำไปอย่างรวดเร็ว ปล่อยให้ผมหัวเราะไล่หลังเล็กน้อย
ไหนบอกว่าไม่ชายตาแลผู้ชายไง แล้วฮิคารุซามะคืออะไร
มึงนี่โรคจิตกว่ากูอีก!
