ไม่รักไม่ต้องมาแคร์
ร้านเหล้าในวันธรรมดาไม่ค่อยมีคนพลุงพล่านนัก บรรยากาศค่อนข้างเงียบเหงา หนุ่มหล่อนั่งโดดเดี่ยวตรงเคาน์เตอร์บาร์เหล้า มีสาวๆ หลายคนกำลังจ้องเขาตาเป็นมัน และกำลังสงสัยว่าเขามาคนเดียวหรือนัดใครเอาไว้หรือเปล่า
“ว่าไงหัวหน้าแก๊ง เมารึยังวะ” ชลธีเดินเข้ามาตบไหล่เพื่อนรัก แล้วทรุดตัวลงนั่งเก้าอี้ตัวข้างๆ
“เลิกเรียกฉันแบบนั้นซะที ฉันออกจากวงการมาตั้งนานแล้วนะเว้ย”
“มันวางมือกันไม่ได้ง่ายๆ หรอก ตราบใดที่ธุรกิจของนายมันยังเป็นสีเทาๆ อยู่”
“แต่ฉันตั้งใจไว้แล้ว ว่าจะไม่กลับเข้าไปวงจรอุบาตนั่นอีก”
“โอเครๆ ก็แล้วแต่นาย ว่าแต่ชวนฉันมาดื่มนี่มีเรื่องอะไรรึเปล่า” ชลธียกแก้วเหล้าที่บาร์เทนเดอร์ เพิ่งวางลงบนโต๊ะรวดเดียวหมดแก้ว
“น้องๆ เอาแบบนี้อีกแก้ว บาดคอสระใจดีว่ะ”
“ไม่มีอะไร นานๆ ทีฉันก็แค่อยากชวนเพื่อน ออกมากินเหล้า มันแปลกเหรอว่ะ” ตะวันพูดแล้วกระดกแก้วเหล้าขึ้นดื่มไปอึกหนึ่ง
ความจริงแล้ววันนี้เขายังไม่อยากกลับบ้าน เพราะไม่อยากกลับไปเจอสาวน้อยนักยั่ว กลัวจะห้ามใจตัวเองไม่อยู่ เผลอไปมีความสัมพันธ์เกินเลยเข้า มันจะยุ่งและบานปลายกลายเป็นเรื่องใหญ่
“แล้วนายล่ะ เป็นยังไงบ้าง ช่วงนี้ไม่ได้เจอกันเลย กิจการยังดีอยู่มั้ย”
ชลธีเป็นเพื่อนซี้กับเขาตั้งแต่สมัยมัธยมต้น เคยเป็นเด็กโต๊ะบอลส่งโพยหวยโพยแทงบอล หรือแม้แต่เป็นเด็กส่งยา ทั้งสองคนก็เคยทำมาหมด
จนปัจจุบันเขาเป็นเจ้าของบ่อนการพนัน และโต๊ะบอลเจ้ามือหวยใต้ดินและออนไลน์ มีเงินหมุนในบัญชีต่อวันเป็นหลายสิบล้าน
“มันก็ดีเรื่อยๆ เหมือนเดิมแหละ แต่ก็เซ็งว่ะ ช่วงนี้ตำรวจกวนบ่อย ต้องจ่ายหนักกว่าเมื่อก่อนเยอะเลย”
“เออยังไงก็ระวังๆ ด้วยล่ะ”
“กลัวอะไรวะ นายอย่าลืมว่าฉันมีแบ็คดี เออนี่วันนี้เราไปลงอ่างกันซะหน่อยดีมั้ย เด็กใหม่เจ๊แพมโคตรเด็ดเลย วันก่อนเจ๊แกส่งรูปมาให้ดู แมร่งโคตรเอ็กซ์เลย” ชลธีเปิดรูปในโทรศัพท์มือถือส่งให้เพื่อนรักดู
ตะวันเลื่อนรูปดูไปสองสามรูป แล้วก็ส่งคืนให้เจ้าของเครื่อง
“ทำไมว่ะ อ๋อใช่ซี้นายมีคุณนาตาลี เลขาคนสวยคอยรับใช้อยู่แล้วนี่เนอะ คงไม่ต้องการสาวๆ พวกนี้อีกแล้ว แต่ถ้าวันไหนนายเบื่อคุณเลขาแล้ว ก็โยนมาให้ฉันลองบ้างนะ”
“คุณนาตาลีเป็นแค่เลขาฉันโว้ย ไม่ได้เป็นอะไรมากกว่านั้น ถ้านายชอบก็ลองดูดิ”
“เฮ้ยจริงป่ะเนีย หัวหน้าแก๊ง เอ๊ยตะวันเพื่อนรัก งั้นฉันลุยเลยนะ”
“เออ แต่นายก็ควรจะเคลียร์กับคนปัจจุบันก่อนนะโว้ย เดี๋ยวได้ตีกันมั่วไปหมด”
“เฮ้ยไม่มี ฉันมีใครเป็นตัวเป็นตนซะที่ไหนเล่า ส่วนมากก็ซื้อกิน เหมือนนายนั่นแหละ”
ขณะที่กำลังพูดคุยอยู่นั้น ชลธีก็เห็นว่าโทรศัพท์มือถือของตะวัน ที่วางอยู่บนโต๊ะมีสายเรียกเข้า แต่เขากลับไม่ยอมรับสาย
“ไม่รับสายเหรอ”
“ไม่ ขี้เกียจคุย” ตะวันส่ายหน้า แล้วกระดกเหล้าไปอีกอึกหนึ่ง
“ใครหน้าไหนวะ ที่ทำให้นายไม่อยากคุยด้วย”
“เอออย่าไปสนใจเลย ก็แค่เด็ก…”
ตะวันเผลอหลุดปากพูดออกไปโดยไม่ตั้งใจ แล้วชลธีก็รีบหันกลับมาจ้องหน้าเพื่อน ด้วยความสนใจใคร่รู้ทันที
“เด็กที่ไหนวะ เฮ้ยเดี๋ยวนี้นายมีความลับกับฉันเหรอว่ะ” ชลธียิ้มแล้วเอียงคอมองเพื่อนอย่างรู้ทัน
“ฉันรู้ล่ะว่าวันนี้นายเป็นอะไร ไหนเล่ามาสิ ว่าเด็กคนนี้เป็นใครวะ แล้วได้รึยัง”
“ไม่มีเด็กที่ไหนทั้งนั้นแหละ นายฟังผิดเอง”
“ฉันได้ยินชัดเจนเต็มสองรูหู ไอ้ตะวันเล่ามาเดี๋ยวนี้” ชลธีเริ่มเซ้าซี้
“ไม่มีอะไรจะเล่าโว้ย กลับก่อนแล้ว ไว้เจอกันใหม่” จู่ๆ ตะวันก็ลุกพลวดพลาดจากเก้าอี้ไปดื้อๆ
“เฮ้ยอะไรวะ หนีไปอย่างนี้เลยเหรอ อ้าวแล้วเบอร์คุณนาตาลีล่ะ เอาเบอร์คุณนาตาลีมาก่อนสิวะ” ชลธีตะโกนไล่หลังเขามา แต่ตะวันไม่ได้หันกลับไปมอง เขาเพียงยกมือขึ้นโบกให้เพื่อนซี้ แล้วตะโกนกลับไป
“เออ เดี๋ยวส่งให้”
เมื่อกลับมาถึงบ้านก็เกือบเที่ยงคืนแล้ว ชายหนุ่มเงยหน้าขึ้นไปมองห้องนอนที่อยู่ข้างๆ ห้องเขา ไฟปิดมืดสนิท หวังว่าหลานสาวคนสวยจะนอนหลับไปแล้ว เขาถอนหายใจแล้วจึงเปิดประตูและลงจากรถ
ตะวันรีบเดินขึ้นชั้นสองและตรงไปที่ห้องนอนของตัวเอง แต่ทันทีที่เดินไปถึงหน้าห้อง ประตูห้องข้างๆ ก็ถูกเปิดออก
“คุณอาไปไหนมาคะ” แพรวาพูดและเดินตรงเข้ามาหาเจ้าของบ้าน หญิงสาวได้กลิ่นเหล้าจากตัวเขาฟุ้งกระจาย
“ไปดื่มมาเหรอคะ แล้วทำไมถึงไม่รับสาย รู้มั้ยคะว่าหนูเป็นห่วง”
เธอนอนไม่หลับเพราะโทรไปคุณอาตะวันก็ไม่เคยรับสาย หลายวันมานี้เขารีบออกไปแต่เช้า และบางวันก็ไม่ยอมกลับมานอนบ้าน คอยหลบหน้าหลบตาตลอด จนเธอชักเริ่มน้อยใจว่าเขารังเกียจอะไรเธอนักหนา
“อาขอโทษ แต่วันนี้ดึกแล้ว ไว้พรุ่งนี้ค่อยคุยกันใหม่ ไปนอนเถอะนะ”
“คุณอารังเกียจอะไรหนูเหรอคะ หนูไม่สวยหรือไม่ดีตรงไหน คุณอาช่วยบอกหน่อยได้มั้ยคะ” สาวน้อยพูดด้วยเสียงสั่นเครือ ขอบตาร้อนผ่าวเมื่อน้ำตาเริ่มมาคลอๆ
“มันไม่ใช่อย่างนั้น คือ...” ตะวันพูดอึกอัก เขาพยายามหาคำอธิบาย อยากให้สาวน้อยได้เข้าใจความรู้สึกของเขา
“แล้วมันคืออะไรคะ”
ในที่สุดน้ำตาก็ไหลอาบแก้ม เธอรู้สึกเสียใจที่นอกจากเขาจะไม่ยอมเปิดใจให้แล้ว ยังพยายามสร้างกำแพงขึ้นมากั้นเธอไว้จากเขาตลอดเวลา
“หนูชอบคุณอามากนะคะ อยากให้คุณอาลองเปิดใจให้หนูบ้าง แต่ทำไมคุณอาถึงเอาแต่ใจร้ายกับหนูคะ”
แพรวาพูดออกไปตรงๆ เธออยากสารภาพกับเขาตั้งนานแล้ว แต่เพราะคิดว่ายังไม่ถึงเวลา หญิงสาวอยากให้เขามีความรู้สึกดีๆ กลับมาก่อน แล้วเธอจึงจะบอกคำนี้ออกไป
แต่คิดว่าบอกตอนไหนมันก็คงไม่ต่างกัน เพราะยังไงเขาก็คงไม่สนใจเธออยู่ดี สาวน้อยร้องไห้ปล่อยโหออกมาด้วยความเสียใจ ผิดหวังกับความรักครั้งแรก
แพรวาเดินร้องไห้เข้าไปในห้องนอน ปิดประตูและวิ่งไปล้มลงบนเตียง ซุกหน้าลงไปกับหมอน แล้วร้องไห้ปล่อยโหชุดใหญ่ อยากจะย้ายกลับไปคอนโดเสียคืนนี้เลย
แต่แล้วประตูห้องก็ถูกเปิดออกและปิดลงอย่างเบามือ กลิ่นเหล้าจากตัวคุณอาตะวันโชยเข้ามาเตะจมูก แพรวาไม่อยากหันไปมองหน้าเขาเพราะยังรู้สึกโกรธ แต่ก็ต้องตกใจเมื่อถูกดึงตัวเข้าไปกอด
อ้อมแขนแข็งแรงรัดร่างบางไว้แน่นด้วยความรู้สึกผิด ตะวันไม่อยากเห็นหลานสาวคนสวยร้องไห้อีก เขารู้สึกแย่ที่ทำให้เธอต้องมาร้องไห้และเสียใจเพราะเขา
“อาขอโทษนะครับ คนดี” เขากระซิบเสียงแผ่วเบาที่หูของเธอ แล้วกดจมูกและปากลงที่ขมับของสาวน้อย
