บทที่ 3
“จัดให้” บัวฟ้ายิ้มกริ่มเพราะเธอชอบผสมเครื่องดื่มอยู่แล้วจากนั้นก็ส่งแก้วเหล้าสีสวยคืนให้ฟ้าโปรด แก้วแรกผ่านไปแก้วสองสามค่อยๆ ผ่านไป ฟ้าโปรดก็ยังไม่มีท่าทีเมาแต่อย่างใด แดนนี่จึงต้องถามขึ้น
“เมาได้ที่ยัง”
“ยังไม่เท่าไหร่เลย” ปากบอกยังไม่เท่าไหร่แต่ ฟ้าโปรดรู้ตัวเองดีว่าเธอกำลังเมาได้ที่แล้ว
“เมาเถอะ ฉันสองคนดื่มรอแกจนจะเมาแทนแล้วเนี่ย” บัวฟ้าส่ายหน้าไปมาเพื่อดึงสติ
“ขออีกแก้ว” เอ่ยจบฟ้าโปรดก็ยื่นแก้วเหล้าให้บัวฟ้า ซึ่งเธอก็รับไปชงเหล้าให้แล้วส่งแก้วนั้นคืนกลับมาฟ้าโปรดดื่มรวดเดียวจนหมดราวกับต้องการรวบรวมความกล้า พอวางแก้วลงบนโต๊ะจึงเริ่มพูด
“พวกแกสองคนจำได้ไหมที่ฉันเคยบอกว่าพี่ชายฉันมีชู้แล้วถูกพี่สะใภ้ฉันจับได้ ทั้งคู่ทะเลาะกันอย่างรุนแรง พี่สะใภ้ฉันตอนนั้นไม่รู้ว่าตัวเองท้องก็เครียดหนักถึงขั้นแท้งลูก หลังจากนั้นครอบครัวพี่ชายฉันก็พัง หย่าร้าง พี่สะใภ้ฉันที่ตอนนี้เป็นแค่อดีตก็ย้ายไปอยู่ต่างประเทศ ถาวร ส่วนพี่ชายฉันก็บวชจนป่านนี้ก็ยังไม่สึก” ฟ้าโปรดเล่าเรื่องราวครอบครัวพี่ชายแบบกระชับแต่ก็ชัดเจนทุกถ้อยคำ
“จำได้ แกเองก็เครียดไปตั้งหลายอาทิตย์” แดนนี่เอ่ยรับในตอนนั้นตนกับบัวฟ้ารับรู้ความเครียดของ ฟ้าโปรดเป็นอย่างดี เพราะรักพี่ชายและพี่สะใภ้มาก
แตที่ยังไม่รู้จนถึงตอนนี้ก็คือคนก่อเรื่องเป็นใคร จะถามก็ไม่กล้าเพราะกลัวละลาบละล้วงเกินเหตุ
“ใช่ ตอนนั้นแกก็โทรมยังกับอะไร” บัวฟ้าเอ่ยขึ้นอีกคน เพราะเธอนี่แหละคือคนที่ลากฟ้าโปรดไปคลินิกเพื่อฟื้นฟูความสวย
“ผู้หญิงคนนั้นกลับมาแล้ว คนที่ทำลายครอบครัวพี่ชายฉันจนย่อยยับ ผู้หญิงไร้ยางอายที่ไม่มีจิตสำนึกคนนั้นนาง กลับ มา แล้ว” สีหน้าของฟ้าโปรดเวลานี้เครียดจนหัวคิ้วขมวด
เธอเคยปล่อยวางเรื่องกวินตาไปแล้ว โดยหวังให้กรรมคืนสนองพร้อมดอกเบี้ยแต่ดูเหมือนที่ผ่านมากรรมจะไม่ทำงานเพราะกวินตายังคงใช้ชีวิตอย่างดีมีความสุข ต่างจากพี่ชายและอดีตพี่สะใภ้ของเธอลิบลับ
“แถมหล่อนยังกลับมาในรูปแบบของแฟนใหม่ของแฟนเก่าอีกด้วย”
“ใคร คนไหน งง” แดนนี่คิ้วขมวดอย่างสงสัยในคำพูดของฟ้าโปรด เธอจึงเฉลยให้
“แฟนใหม่ที่ว่าคือแฟนคุณปวินท์ ขวัญใจแก”
“ที่พึ่งเปิดตัวไปนั่นนะเหรอ” คนฟังอย่างแดนนี่กะพริบตาปริบๆ เซ้นต์บางอย่างของเขาบอกว่ามันต้องมีอะไรมากกว่านี้แน่นอน
“แฟนใหม่ของแฟนเก่าหรือว่าแกกับคุณปวินท์เคยคบกัน” บัวฟ้าที่จับต้นต้นปลายได้บางแล้วตาโตเอ่ยถามขึ้น เธอประติดประต่อจากคำพูดของฟ้าโปรดจนสามารถฟันธงออกมาในที่สุด
“อย่ามองแบบนั้นสิ” ฟ้าโปรดพยายามเฉไฉแต่มีหรือจะรอดจากการไต่สวนของบัวฟ้า แม้จะไม่ได้มีอาชีพเป็นตำรวจหรือทนายตาสกิลการซักถามให้ได้คำตอบของเธอนั้นก็ไม่แพ้ใครแน่นอน
“ตอบ”
“ตอบก็ได้ คือว่าฉันกับคุณปวินท์เคยคบกันจจริงๆ แต่ก็แค่ช่วงสั้นๆ เท่านั้นเอง” เมื่อถูกต้อน ในที่สุดฟ้าโปรดก็ยอมรับ เวลานี้ใบหน้าสวยแดงซ่านไม่รู้ว่าเพราะอายหรือเพราะฤทธิ์เหล้ากันแน่
“ไปคบกันตั้งแต่ตอนไหน เมื่อไหร่ ยังไง คบนานไหม ทำไมเลิก” แดนนี่ยิงคำถามใส่ฟ้าโปรดรัวๆ
“ทีละคำถามได้ไหม สมองประมวลคำตอบไม่ทัน”
“ทีละคำถามไม่ได้ ตอบมาทั้งหมดนั่นแหละ เร็วๆ” เอ่ยจบแดนนี่ก็เขย่าแขนของฟ้าโปรดไปมา แต่ออกแรงมากไปหน่อยร่างบอบบางของฟ้าโปรดจึงโอนเอนราวกับยืนบนพื้นที่กำลังเกิดแผ่นดินไหว
ฟ้าโปรดตีหมับเข้าที่มือของแดนนี่เพื่อให้หยุดเขย่าตัวเธอ ก่อนจะหยิบเหล้ามาดื่มราวกับต้องการย้อมใจตัวเอง จากนั้นจึงพูดออกไป
“ฉันรู้จักคุณปวินท์ตอนไปเรียนต่อที่ต่างประเทศ ไม่เชิงคบหรอกแค่ทำความรู้จักกันช่วงสั้นๆ น่าจะราวๆ ห้าหกเดือน ช่วงเวลานั้นมันทำให้ฉันมีความสุขมากจริงๆ นะ เขาเข้ามาเติมเต็มในส่วนที่ฉันขาด แต่เพราะงานเรายุ่งกันทั้งคู่โดยเฉพาะฉันที่ต้องโฟกัสทั้งเรื่องเรียนไหนจะเรื่องงานตอนนั้นเองก็วุ่นวือมาก เพราะแบบนั้นฉันก็เลยเป็นคนขอลดสถานะจากคนรักมาเป็นแค่…เพื่อน”
“ว้าว! เซอร์ไพรส์นะเนี่ยที่รู้ว่าแกกับคุณปวินท์เคยคบกันมาก่อน” แดนนี่เซอร์ไพรส์กับเรื่องนี้มากจริงๆ ถ้าจำไม่ผิดฟ้าโปรดไปเรียนต่อที่ต่างประเทศเมื่อสองปีก่อน ทั้งๆ ที่งานยุ่งแสนยุ่งแต่เพื่อความเติบโตในธุรกิจเพื่อนเธอก็ตัดสินใจที่จะไป แต่ผลของความอดทนนั้นก็คุ้มค่าเพราะตอนนี้ธุรกิจของฟ้าโปรดก็เติบโตไปในทิศทางที่ดีมาก
และอีกคนที่เซอร์ไพรส์ไม่แพ้กันนั่นคือบัวฟ้า
“จริง ฉันก็เซอร์ไพรส์”
“ไม่ต้องหึงฉันนะแดนนี่ ตอนนี้ฉันกับคุณปวินท์ไม่ได้เป็นอะไรกันแล้ว” ฟ้าโปรดยื่นมือมาตบบ่าของแดนนี่เบาๆ
“ไม่หึงแต่อิจ อย่างน้อยแกก็ได้ชื่อว่าแฟนเก่านะ ส่วนฉันก็แค่คนในมโน” แดนนี่รีบบอก ใครจะไปคิดว่า ฟ้าโปรดเคยคบหากับปวินท์ แม้จะแค่ช่วงสั้นๆ ก็ตามที
“มโนฝ่ายเดียวด้วยเพราะคุณปวินท์ไม่รู้” บัวฟ้ายังไม่วายแซว เนื่องจากรู้มาสักระยะแล้วว่าตอนนี้แดนนี่กำลังปลื้มปวินท์ นักธุรกิจหนุ่มหล่อ รวย ขวัญใจทุกเพศทุกวัย
“ไม่ต้องย้ำได้ไหม”
“ไม่ได้” เอ่ยจบบัวฟ้าก็ฉีกยิ้มกว้างใส่แดนนี่ ซึ่งอีกฝ่ายก็เบ้ปากใส่แล้วนั่งดื่มเหล้าต่อ กระทั่งบัวฟ้าเอ่ยถามฟ้าโปรดขึ้นอีกครั้ง “แล้วทำไมก่อนหน้านี้แกถึงไม่บอกเรื่องคุณปวินท์ให้ฉันกับแดนนี่รู้” แม้จะเริ่มเมาแต่บัวฟ้าก็ยังคงยิงคำถามสำคัญๆ ได้ดี
“มันแค่ช่วงสั้นๆ เอง เลยไม่คิดว่าจะสำคัญอะไร อีกอย่างตอนนั้นแกสองคนก็ยุ่งมาก ฉันไม่อยากเอาเรื่องไม่เป็นเรื่องไปกวนใจ” นั่นคือเหตุผลในจังหวะเวลานั้นของฟ้าโปรด หากเกิดขึ้นในตอนนี้เธออาจจะเล่าให้ทั้งคู่ฟังก็เป็นได้
“ไอ้ที่พูดเกริ่นก่อนหน้านี้คือเรื่องของแกล้วนๆ ว่างั้น” แดนนี่ถามขึ้นบ้าง ซึ่งฟ้าโปรดก็พยักหน้ารับว่าใช่แล้วคว้าแก้วเหล้าที่เริ่มจืดแล้วขึ้นมาจิบ
“อือ”
“ที่บอกยังรู้สึกดีกับคุณปวินท์นี่ของจริงใช่ไหม” คำถามยังมาจากบัวฟ้า
“จริง การรู้สึกดีกับใครสักคนโดยที่ไม่ได้หวังให้เขามารู้สึกแบบนั้นตอบ ไม่ผิดนี่” นั่นเพราะฟ้าโปรดไม่ได้ต้องการให้ปวินท์มารู้สึกดีๆ อะไรตอบแทนเธอ
“ใช่ไม่ผิดและแกก็เก่งมากที่กล้ายอมรับความจริง” แดนนี่ยกนิ้วโป้งให้เพื่อนสนิท ก่อนที่บัวฟ้าจะกระซิบบอกข้างหู
“ฉันว่านางเมามากกว่า ถ้าสติปกติไม่ยอมรับแน่นอน”
“เห็นด้วย”
“ทางที่ดีหยิบโทรศัพท์มาถ่ายคลิปนางไว้ก่อน สร่างเมาแล้วจะได้ดิ้นไม่หลุด”
“เป็นความคิดที่ดีมาก” แดนนี่เห็นด้วยกับบัวฟ้า ก่อนที่ทั้งคู่จะจัดแจงอัดคลิปของฟ้าโปรดตอนนี้ไว้ รู้ว่าตอนนี้เพื่อนพูดจริงทุกอย่างทว่าหลังจากสร่างเมาอาจเป็นอีกเรื่องได้
