แพ้รักคนใจร้าย

55.0K · จบแล้ว
วารินทร์ทิพย์
34
บท
10.0K
ยอดวิว
9.0
การให้คะแนน

บทย่อ

เรายังจะต้องคุยอะไรกันอีก แค่บอกว่าเจ็บ นายยังไม่ฟังเลย

นิยายรักโรแมนติกมาเฟียเลือดร้อนพระเอกเก่งโรงแรม/มหาลัยโรแมนติก21+18+25+ดราม่า

บทนำ

ณ มหา’ลัยเอกชนชื่อดัง เสียงฮือฮาของเหล่าบรรดานักเรียนทั้งชายและหญิง ดังกึกก้องไปทั่วสนามฟุตบอลที่รุ่นพี่กำลังแข่งกีฬาอยู่ ทันทีที่อาจารย์ผู้สอนเดินออกจากสนาม เหล่าบรรดารุ่นน้องหญิงชายก็วิ่งตรงเข้ามาหาคนที่ตัวเองปลื้มพร้อมกับดอกไม้และตุ๊กตาหมีที่เป็นสิ่งแทนใจ

ในวันวาเลนไทน์ แน่นอนว่า คนที่ได้สิ่งของแทนความรักมากที่สุดก็คือ....

เฌอเบลล์ หญิงสาวตัวเล็กสเปกชายที่ฮอตตั้งแต่มอต้นยันมอปลาย นอกจากความสวยสดใสและรอยยิ้มบาดใจแล้ว เฌอเบลล์ยังเป็นคนเฟรนด์ลี่พูดคุยเก่งเข้าได้กับทุกคนอีกด้วย และยิ่งกว่านั้นเฌอเบลล์ยังเรียนเก่งและให้คำปรึกษารุ่นน้องในเรื่องการเรียนได้ดีกว่ารุ่นพี่คนอื่น ๆ เรียกได้ว่าเพอร์เฟกต์ไปหมดทุกอย่างจริง ๆ

“เบลล์แม่งฮอตฉิบหาย”

ไวน์ หนุ่มหล่อพ่อรวยเพื่อนสนิทในกลุ่มของเฌอเบลล์พูดขึ้นมาขณะที่มองดูกลุ่มรุ่นน้องกำลังรุมล้อมเพื่อนของตน ถึงจะเป็นภาพที่ทุกคนเห็นบ่อยแล้ว แต่ก็รู้สึกอึดอึดแทนเพื่อนทุกครั้งที่เห็นอะไรแบบนี้

“ไม่ฮอตได้ไง เบลล์มันน่ารักขนาดนั้น ถ้าไม่ติดว่าเป็นเพื่อนกัน ใครบางคนแม่งจีบไปนานแล้ว จริงไหมวะ!”

ประโยคหลังเจเลอร์ตั้งใจหันไปถาม มาร์ติน

เพื่อนชายอีกคนที่นั่งมองเฌอเบลล์ไม่วางตา โดยที่ข้าง ๆ มี มิริน กำลังยื่นขวดน้ำให้เหมือนทุกครั้งที่เรียนพละเสร็จ

“แสนรู้นะมึง”

มาร์ตินตอบทีเล่นทีจริงพร้อมกับรับขวดน้ำจากมิรินมาดื่มด้วยท่าทางปกติไม่แม้แต่จะมองดูและไม่ปฏิเสธในสิ่งที่เพื่อนพูด

“กูไม่ได้แสนรู้ แต่กูเป็นคนที่รู้ใจมึงที่สุด แนะนำในฐานะเพื่อนนะเว้ย ชอบก็บอกว่าชอบดิวะ มัวแต่ชักช้าเดี๋ยวหมาก็คาบไปแดกก่อนหรอก”

เจเลอร์ บอกเพื่อนรักและตบไหล่เบา ๆ ตามประสาคนรู้ใจ ตามมาด้วยเสียงเชียร์ของเพื่อน ๆ ในกลุ่มที่อยากให้มาร์ตินสารภาพรักกับเฌอเบลล์ เพราะทุกคนเข้าใจว่าทั้งสองคนมีใจให้กัน เว้นก็แต่มิรินที่ไม่ยอมรับความจริง

“มีอะไร?”

มาร์ตินขมวดคิ้วถามมิรินที่เอาแต่ยืนมองหน้าเขาด้วยท่าทางแปลก ๆ

“ปะ..เปล่า ไม่มีอะไร”

มิรินตอบพร้อมรอยยิ้มและเก็บสิ่งของที่เตรียมมาใส่กระเป๋า แน่นอนว่าคนสนิทกันดูออกจึงได้ถามต่อ

“มีอะไรก็พูดมา”

สายตาคมมองจ้องที่ดวงตาของอีกฝ่ายจนเธอทำตัวไม่ถูก เธอรู้สึกประหม่าจนคิดอะไรไม่ออก

ได้แต่มองใบหน้าหล่อของเพื่อนสนิทอยู่อย่างนั้น จนกระทั่งหัวใจมันทนต่อความอยากรู้ไม่ไหวจนต้องออกคำสั่งให้เธอถามเขาออกไป

“นายชอบเบลล์เหรอ”

คำถามของคนตรงหน้าทำให้มาร์ตินหยุดชะงักไปชั่วขณะ เขาจ้องมองดวงตาคู่สวยด้วยแววตาเกินจะคาดเดาเช่นเดียวกับคำถามที่ถูกส่งมาหา

“อยากให้ชอบไหมล่ะ?”

“มะ...ไ....”

ยังไม่ทันที่มิรินจะได้ตอบสิ่งที่อยู่ในใจ หมับ! เจเลอร์ก็พุ่งเข้ามากอดคอมาร์ติน

“ไปช่วยเบลล์ถือหน่อย กูกลัวแขนมันจะหัก”

“อืม ค่อยคุยกัน”

มาร์ตินบอกมิรินก่อนจะเดินไป ทำให้เธอต้องคิดไปเองว่า.....

“ฉันไม่สำคัญกับนายเลยสินะ”

มิรินได้แต่บอกตัวเองในใจพร้อมกับความรู้สึกที่จมดิ่ง และอึดอัดใจที่ต้องทนเก็บบางอย่างไว้ในใจต่อไป ...ความรู้สึกนั้นยังต่อเนื่องมาจนถึงเวลาเลิกเรียน มิรินก็ยังจัดการกับความรู้สึกตัวเองไม่ได้สักที มันช่างเป็นอะไรที่อยากจะอธิบายเสียจริง จะบอกความรู้สึกของตัวเองออกไปตรง ๆ ก็ไม่ได้ เพราะก็กลัวจะเสียเพื่อนที่ดีที่สุดไป

“เฮ้อ....”

“เป็นไรมากปะ ฉันเห็นแกนั่งถอนหายใจแบบนี้นานแล้วนะ”

นานะ เพื่อนสนิทอีกคนในกลุ่มหันไปถามด้วยความสงสัย ทำให้ทุกคนจับจ้องมาที่มิรินเป็นตาเดียว

“ไม่มีอะไรหรอก"

มิรินแสร้งยิ้มและหยิบมือถือขึ้นมาเล่นกลบเกลื่อนความว้าวุ่นใจ ขณะที่รอหนุ่ม ๆ หอบหนังสือไปส่งอาจารย์ แต่อยู่ ๆ เฌอเบลล์ก็พูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงจริงจัง

“พวกแก ฉันมีเรื่องสำคัญจะปรึกษา”

น้ำเสียงจริงจังของเฌอเบลล์ทำให้สาว ๆ หันไปมองหน้าเธอเป็นตาเดียวรวมถึงคนที่กำลังคิดไม่ตกกับเรื่องตัวเองด้วย และสิ่งที่เฌอเบลล์นั้นเอ่ยออกมาก็ยิ่งทำให้ความว้าวุ่นในใจของมิรินพุ่งทยานขึ้นไปอีกหลายเท่า

“ฉันชอบติน พวกเธอช่วยฉันคิดหน่อยได้ไหม ว่าฉันจะสารภาพรักยังไงไม่ให้เสียเพื่อน”

เฌอเบลล์พูดด้วยน้ำเสียงจริงจังขณะที่สายตาจับจ้องใบหน้าของมิรินตลอดเวลา ราวกับกำลังจับผิดว่าเพื่อนรักของเธอจะรู้สึกยังไง

“ฉันชอบติน ฉันชอบติน ฉันชอบติน”

คำพูดของเฌอเบลล์ยังคงดังกึกก้องอยู่ในโสตประสาทของมิรินจนไม่ทันได้ฟังว่าเพื่อนพูดอะไรกันต่อ ในหัวของเธอตอนนี้มันว่างเปล่าไปหมด ต่างจากหัวใจที่บีบรัดแน่นจนจุกอก ถึงแม้ว่าที่ผ่านมาเธอจะทำใจกับเรื่องนี้มาบ้างแล้ว แต่พอเกิดขึ้นจริง ๆ เธอกลับทำใจไม่ได้

“เธอช่วยฉันคิดหน่อยสิริน ว่าฉันควรจะทำยังไงดี ฉันชอบตินมาก ๆ เลยนะ”

“เอ่อ...”

มิรินได้แต่อ้ำอึ้งเหมือนคนน้ำท่วมปาก ขณะที่เฌอเบลล์ก็จ้องมองเธอราวกับกำลังจับผิด อีกทั้งสายตาของเพื่อนรอบข้างก็มองกดดันเธอราวกับว่าเธอเป็นส่วนเกินที่ไปแทรกกลางความรักของคนสองคน เพราะใคร ๆ ก็คิดว่าเขาสองคนนั้นมีใจให้กัน

“มีอะไรหรือเปล่า หรือว่าเธอเองก็ชอบติน”

ใช่ ฉันชอบติน ชอบมานานแล้วด้วย ชอบก่อนที่เธอจะชอบตินสะอีก มิรินได้แต่สารภาพรักอยู่ภายในใจพร้อมหัวใจที่เจ็บปวด ถ้าให้เลือกระหว่างเธอกับเฌอเบลล์ ไม่ว่าใครก็คงจะเลือกเฌอเบลล์อยู่แล้ว

เฮ้อ...นี่ฉันแพ้ตั้งแต่ยังไม่ลงแข่งเลยเหรอ มิรินถอนหายใจออกมาอย่างสุดปลง เมื่อรู้ชะตาตัวเอง เธอควรจะทำใจแล้วสินะ ก่อนที่จะเสียเพื่อนทั้งสองคนไป

“เธอชอบตินใช่ไหม”

เฌอเบลล์ถามย้ำอีกครั้ง เมื่อมิรินเอาแต่เงียบ

“เปล่า ไม่ได้ชอบ ถ้าเธอชอบหมอนั่น ก็สารภาพรักไปตรง ๆ เลย”

มิรินพยายามบอกออกไปด้วยน้ำเสียงปกติ เพื่อไม่ได้เสียเพื่อนทั้งสองคนไป เธอยอมรับว่าเธอรักมาร์ติน แต่เธอก็รักเฌอเบลล์เหมือนกัน ถ้าพวกเขาจะรักกันจริง ๆ เธอก็ควรจะยินดีไม่ใช่เหรอ

“เธอพูดจริงเหรอ”

“จริงสิ เพื่อนกัน จะไปชอบกันได้ไงล่ะ ไม่มีทางหรอก”

มิรินพูดด้วยน้ำเสียงจริงจังเพื่อให้สมบทบาท โดยไม่รู้ว่าคำพูดของเธอทำให้คนที่พึ่งจะเดินเข้ามาเข้าใจทุกอย่างชัดเจน

“ติน!”

มิรินเอ่ยชื่อชายหนุ่มที่รักด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา ทว่าหัวใจกลับเต้นแรงไม่เป็นจังหวะสมองก็คิดหาคำอธิบายกับสิ่งที่เธอพลั้งพูดออกไปว่ามันไม่ใช่ความจริง

หมับ! คนตัวสูงไม่แม้แต่จะมองหน้าเธอ เขาเดินตรงไปหาเพื่อนของเธอที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ก่อนที่จะจูงมือเธอออกไป ท่ามกลางสายตาและเสียงเชียร์ของคนอื่น ๆ

มิริน เม้มริมฝีปากเข้าหากันทันทีที่เผลอพลั้งปากออกไป แต่จะให้ทำยังไง ในเมื่อทางเลือกของเธอมันมีไม่มาก ตอนนี้เธอทำได้เพียงมองทั้งสองคนค่อย ๆ เดินออกไปพร้อมกับหัวใจที่ปวดหนึบ แต่จะโทษใครก็ไม่ได้ ในเมื่อเธอเป็นคนเลือกที่จะพูดแบบนั้นออกไปเอง