ตอนที่ 7 คนเจ้าชู้
ตอนที่ 7 คนเจ้าชู้
หลังจากกินอาหารมื้อเที่ยงอิ่มแล้ว คมสันกับน้ำขิงพากันขึ้นรถกลับบ้านสวน สวนของเขาเป็นสวนดอกไม้ แต่เขาเลือกที่จะไม่บอกเธอก่อน อยากให้เธอไปเห็นด้วยตาตัวเอง ซึ่งเขาคิดว่าเธอน่าจะชอบ ถึงแม้ว่าลำต้นของมันจะมีหนามแหลม แต่ดอกของมันกลับมีสีสันสวยงาม แต่ละสายพันธุ์สีสันของดอกจะแตกต่างกันออกไป แม้กระทั่งลำต้น หนามและใบ มองเผินๆอาจจะดูคล้ายกันแต่ถ้ารู้จักสังเกต จะรู้ว่าแต่ละสายพันธุ์มีข้อแตกต่าง
“ไม่ได้เอาปากมาจากบ้านหรือไง” คมสันเห็นเธอนั่งเงียบ ไม่ค่อยพูด ถามคำตอบคำ เวลาเขามองหน้าเธอ เธอก็หลบตาเขาทุกครั้ง ทำอย่างกับเขาเป็นตัวประหลาดอย่างไรอย่างนั้น
“ไม่รู้จะพูดอะไรนี่คะ” เขาคิดว่าในหัวของเธอคงมีคำถามเต็มไปหมด ในเมื่อสงสัยแต่ไม่ยอมถามก็ปล่อยให้สงสัยต่อไป
“แต่งงานกันแล้ว หวังว่าคงจะรู้หน้าที่ของตัวเองนะ”
".........." ประโยคนี้ของเขาทำให้เธอเม้มปากแน่น ในใจนึกกลัวอย่างบอกไม่ถูก เธอไม่รู้ว่าสิ่งที่เขาพูดคือเรื่องเดียวกันกับสิ่งที่เธอกำลังคิดอยู่หรือเปล่า
“ทำอะไรเป็นบ้าง”
“หมายถึงเรื่องอะไรคะ”
“ก็...” คนขี้แกล้งลากเสียงยาว จากนั้นก็พูดต่อว่า...
“ช่างเถอะ เดี๋ยวเย็นนี้จะพาไปเดินตลาดนัดแถวบ้านก็แล้วกัน” ประโยคนี้ของเขาทำให้เธอเข้าใจว่าเขาน่าจะหมายถึงเรื่องทำกับข้าว ซึ่งเธอไม่ถนัดเอาเสียเลย
"ขิงทำกับข้าวไม่เก่ง แต่ของแบบนี้มันฝึกกันได้" เธอยินดีเรียนรู้ ซึ่งประโยคนี้ของเธอทำให้คมสันนึกพอใจ
"ก็ดี"
ทั้งสองนั่งเงียบไม่มีใครพูดหรือถามอะไรอีก จนกระทั่งรถยนต์เจ็ดที่นั่งได้เลี้ยวเข้าไปในถนนแคบๆ สองฝั่งข้างทางเต็มไปด้วยหลังคาสแลนสีดำคลุมต้นไม้ตลอดแนว จากนั้นไม่นานรถก็แล่นมาจอดที่หน้าบ้านไม้สองชั้นหลังใหญ่ บริเวณบ้านมองไปทางไหนก็เห็นแต่ต้นไม้มีหนาม แต่ดอกของมันมีสีสันสวยมาก
"ลง...ถึงแล้ว ที่นี่แหละ" น้ำขิงไม่รอช้ารีบลงจากรถไปดูดอกไม้สีสดที่ปลูกอยู่ในกระถางหน้าบ้าน ทันทีที่เธอได้เห็นความสวยของมัน เธอรู้สึกชอบมันทันที
“เฮียแสน ต้นอะไรคะเนี่ย ดอกสวยจังเลย” เธอหันมาถามเขาด้วยรอยยิ้มอย่างลืมตัว
“เอาปากมาจากบ้านแล้วเหรอ” นี่คงเป็นคำถามแรกของเธอจากที่ได้พบหน้ากันมาครึ่งวัน
“............” จบประโยคคำถามของเขาเธอก็เงียบลงไปอีก จากที่ทำตัวไม่ค่อยจะถูกอยู่แล้ว ตอนนี้ทำตัวไม่ถูกหนักขึ้นกว่าเดิมอีก
“ต้นโป๊ยเซียน ที่นี่คือสวนโป๊ยเซียน” สวนที่เขาพูดถึงคือสวนดอกโป๊ยเซียน ก่อนหน้านี้เธอเข้าใจว่าเป็นสวนพืชผัก ไม่คิดว่าที่นี่ จะน่าอยู่น่ามองขนาดนี้ ต่างจากสิ่งที่เธอคิดเอาไว้ก่อนมาลิบลับเลย
“เฮียทำสวนโป๊ยเซียนเหรอคะ”
“อือ เคยเห็นดอกโป๊ยเซียนมั้ย”
"เคยค่ะ แต่ไม่รู้ว่ามันชื่ออะไร"
"แต่ละสายพันธุ์ก็มีชื่อเฉพาะของมันอีกต่างหาก" ในขณะที่กำลังยืนคุยเรื่องต้นไม้ ลูกน้องในสวนก็เดินเข้ามาทักทายคนเป็นลูกพี่อย่างเคยชิน
“เฮียแสน กลับมาแล้วเหรอครับ ว่าแต่พาใครกลับมาด้วยครับเนี่ย” นากับอ๋อยเดินยิ้มกริ่มเข้ามา พร้อมกับเอ่ยแซวคนเป็นลูกพี่ด้วยรอยยิ้ม
“เมีย...”
“น้ำขิง ไอ้สองคนนี้เป็นลูกน้องในสวนของเฮียเอง ไอ้นี่ชื่อไอ้นา ส่วนไอ้นั่นชื่อไอ้อ๋อย” ทั้งสองคนอายุมากกว่าน้ำขิงหลายปี แต่น้อยกว่าคมสัน
“สวัสดีครับเจ้”
“สวัสดีค่ะ เรียกหนูว่าน้ำขิงเหมือนที่เฮียแสนเรียกก็ได้ค่ะ”
“น้ำ...” ลูกน้องกำลังจะอ้าปากเรียก แต่ดูเหมือนว่าเจ้าของจะไม่ยอม
“ไม่ได้ กูไม่อนุญาต เรียกเธอว่าเจ้นั่นแหละถูกต้องแล้ว”
“..........” น้ำขิงเม้มปากเข้าหากันแน่นอีกครั้ง มองดูก็รู้ว่าเธออายุน้อยกว่าพี่ๆสองคนตรงหน้าอย่างชัดเจน
“เรียกตามศักดิ์ถูกต้องแล้วครับ ถ้าหากเจ้มีอะไรก็สามารถเรียกใช้พวกผมได้ตลอดเลยนะครับ พวกผมยินดี”
“ขอบคุณนะคะ”
“ว่าแต่...เมียจริงๆเหรอครับเฮียแสน สวยกว่าคนที่แล้วตั้งเยอะแน่ะ”
“พูดแบบนี้มึงอยากโดนไล่ออกหรือไง!” ประโยคนี้พูดกับลูกน้องเสียงหนัก แต่สายตาหันมองหน้าหญิงสาวเพียงคนเดียวที่ยืนฟังอยู่ด้วยทันที ซึ่งเธอก็ปั้นหน้านิ่งทำเหมือนไม่ได้ยิน
“พูดมากนัก ขนกระเป๋าเจ้านายคนใหม่ของพวกมึงลงจากรถให้ด้วย”
“ครับผม!” นากับอ๋อยรับคำด้วยน้ำเสียงหนักแน่น จากนั้นจึงช่วยกัน จัดการยกกระเป๋าของน้ำขิงลงจากรถ
“ให้พวกผมเอาขึ้นไปไว้ด้านบนให้เลยมั้ยครับ” ทั้งสองคนนอกจากจะทำงานในสวนแล้ว บางครั้งก็ต้องย้ายมาทำความสะอาดบ้านให้ลูกพี่ด้วย
“ชั้นบนมีสองห้องนอน อยากอยู่ส่วนตัวก่อนมั้ย” ลึกๆแล้วเป็นเขาที่อยากได้ความเป็นส่วนตัว แต่กลัวย่ารู้แล้วจะบ่นเอา
“อยากค่ะ”
“อยากอยู่กับเฮียหรือว่าอยากอยู่เป็นส่วนตัว”
“อยากอยู่เป็นส่วนตัวค่ะ”
“มึงสองคนเอากระเป๋าพวกนี้ไปไว้อีกห้อง แล้วก็จัดการทำความสะอาดบ้านให้ด้วย”
“รับทราบครับผม” ลูกน้องรับคำเสร็จ เขาก็หันมามองหน้าเธออีกครั้ง แต่ไม่ได้พูดอะไรอีก จากนั้นก็หยิบหมวกวางลงบนศีรษะก่อนที่จะเดินเข้าไปในสวน ทิ้งให้น้ำขิงยืนงงอยู่ท่ามกลางลูกน้องทั้งสองคนที่กำลังช่วยกันขนของขึ้นชั้นบน
“พี่ๆคะ เฮียแสนพาผู้หญิงมาที่นี่บ่อยเหรอคะ” ถึงแม้ว่าเรื่องนี้จะไม่เกี่ยวกับเธอ แต่เธออาจจะเป็นเหมือนผู้หญิงพวกนั้นก็ได้
“ไม่บ่อยหรอกครับ ส่วนมากไปค้างกันที่อื่น แต่ก็ไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนได้ขนข้าวขนของเข้ามาอยู่แบบเจ้หรอกครับ ส่วนมากมาพักๆเสร็จธุระแล้วก็รีบกลับ ขืนอยู่นานย่าบัวมาเจอเข้าบ้านแตกแน่ๆ” นากับอ๋อยคิดว่าน้ำขิงก็คงเหมือนผู้หญิงทั่วๆไปที่ลูกพี่เคยพามา จึงไม่ได้ระวังคำพูด
“แล้วลูกชายเขาล่ะคะ” เรื่องนี้ก็เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่เธออยากรู้
“น้องแสบน่ะเหรอครับ แกเพิ่งจะได้ห้าขวบเอง น่ารักพูดเก่ง แต่ไม่ค่อยได้มาที่นี่หรอกครับ อยู่กับปู่กับย่าในเมืองโน่น”
“แล้ว...แม่ของแกล่ะคะ”
“เห็นว่ามีสามีใหม่ไปแล้วนะ มีอะไรหรือเปล่าครับ”
“อ๋อ...เปล่าค่ะ ถ้างั้นขิงขอเดินดูรอบๆบ้านหน่อยนะคะ”
“เชิญครับ งั้นพวกผมขอตัวไปทำความสะอาดบ้านให้เฮียแสนก่อนนะครับ” ทันทีที่นากับอ๋อยหันหลังให้ สีหน้าของน้ำขิงก็เปลี่ยนไปทันที
“คนเจ้าชู้!” มิน่าถึงไม่มีใครเอา หน้าตาก็ดี ฐานะก็ดี เธอเริ่มไม่แปลกใจแล้วว่าเพราะอะไรเธอถึงได้มายืนอยู่ตรงนี้ แต่ถ้าเขายังเจ้าชู้แบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ อีกไม่นานเธอน่าจะได้เป็นอิสระ
❤️❤️❤️❤️❤️
