แค้นสวาทคนเถื่อน

63.0K · จบแล้ว
เนื้อนวล/baiboau
31
บท
41.0K
ยอดวิว
8.0
การให้คะแนน

บทย่อ

เพราะความแค้น เขาจึงเสแสร้งทำเป็นรักใคร่ หลอกล่อให้เมื่อตกลงไปในบ่วงวิวาห์ แต่เพราะความรัก เธอจึงต้องยอมจำทนอยู่ในเหววิวาห์ร้าย โดยหวังว่าสักวันเขาจะเมตตาและเห็นใจ แต่ยิ่งนานวันเขายิ่งใจร้าย ลงทัณฑ์เถื่อนอย่างไม่ปรานี จนในที่สุดเธอก็สิ้นสุดความอดทน หอบลูกในท้องหนีจากไป!

นิยายรักโรแมนติกนิยายรักนิยายปัจจุบันประธานรักหวานๆดราม่าแก้แค้นมาเฟียเศรษฐีโรแมนติก

ตอนที่ 1

“ม่าย... อย่า... อย่าทำฉัน อย่า...!!!”

ศศิภากรีดร้องด้วยความหวาดกลัวบนเตียงคนไข้ของโรงพยาบาลโรคประสาทแห่งหนึ่ง ดวงตาเบิกกว้าง ความตื่นตระหนกตกใจฉายชัด

“คุณแม่ครับ... ไม่มีใครทำร้ายคุณแม่ได้อีกแล้วครับ”

สิงหราชกอดร่างที่สั่นเทาของมารดาเอาไว้แน่นบอก ลูบมือตามแผ่นหลังเพื่อให้บุพการีสงบลง

“แม่กลัว... พวกมัน... พวกมันข่มขืนแม่ แม่กลัว...”

“ผมอยู่ที่นี่แล้ว ถ้าใครหน้าไหนมันทำร้ายคุณแม่ ผมจะฆ่ามันด้วยมือของผมเอง!”

สิงหราช โรจนกุล ทายาทเพียงคนเดียวของ ศักดา และศศิภา โรจนกุล มหาเศรษฐีลำดับต้นๆ ของเมืองไทย พวกเขาดำเนินธุรกิจหลายอย่าง และแต่ละอย่างล้วนประสบความสำเร็จอย่างล้นหลาม

แต่ใครจะรู้เล่าว่าภายใต้ความร่ำรวยมหาศาลของตระกูลโรจนกุลเกิดอะไรขึ้นบ้าง

กรามแกร่งที่มีหนวดขึ้นประปรายของสิงหราชขบกันแน่นจนเป็นสัน ดวงตาคมกริบเต็มไปด้วยเพลิงแค้นที่รอวันสะสาง

สองปีก่อน ศักดา โรจนกุล หรือก็คือพ่อของเขานั่นเอง ได้รับอุปการะภรรยาและลูกสาวของเพื่อนรักที่ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตกะทันหัน

เยาวภา เลิศลักษณ์ หญิงวัยสี่สิบกว่าปีแต่ยังดูสวยสดไม่น้อย กับ สร้อยโสภา เลิศลักษณ์ เด็กสาววัยเพียงสิบห้าปีเดินเหยียบย่างเข้ามาภายในบ้านหลังใหญ่ของเขา

เขาในวัยยี่สิบห้าปีก็รักและเอ็นดูสร้อยโสภาไม่ต่างจากน้องสาวแท้ๆ เขากับหล่อนสนิทสนมกันมาก และสร้อยโสภาก็ติดเขามากด้วย จนกระทั่งเขาตัดสินใจไปเรียนต่อปริญญาเอกที่อังกฤษ เรื่องราวเลวร้ายจึงบังเกิดขึ้น

พ่อของเขากับเยาวภาลักลอบได้เสียกัน และเมื่อแม่ของเขารู้เรื่องเข้าก็รับไม่ได้ วิ่งหนีออกไปจากบ้านในกลางดึกของคืนวันฝนตก นั่นยังไม่ใช่สิ่งที่เลวร้ายที่สุดสำหรับแม่ของเขา เพราะหลังจากแม่วิ่งหนีออกมาด้วยความช้ำใจ แม่ก็ถูกคนโฉดหลายคนรุมข่มขืนจนสลบ และไม่อาจจะจดจำหน้าตาตัวของไอ้ผู้ชายใจทมิฬพวกนั้นได้

เขารีบบินกลับมาจากอังกฤษทั้งๆ ที่ยังเรียนไม่จบ เพื่อมาดูแลมารดาที่เป็นบ้า ใช่... แม่ของเขาเป็นบ้า เพราะถูกคนที่ไว้ใจทำร้ายจิตใจ

เขากักเก็บความคลั่งแค้นมานานเป็นปี เพื่อรอวันชำระแค้นกับสองคนแม่ลูกนั่น ผู้หญิงแพศยาที่ยั่วยวนให้ท่าพ่อของเขา จนกระทั่งเรื่องราวเลวร้ายมันเกิดขึ้น เขาจะทำให้สองคนนั้นอยู่ในนรก ขุมที่ลึกว่าที่แม่ของเขากำลังทุกข์ทรมานอยู่

“ผมจะแก้แค้นให้คุณแม่... พวกนั้นจะต้องชดใช้ให้กับคุณแม่!”

ดวงตาคมกริบลุกโชนไปด้วยไฟแค้น “ผมจะขยี้ผู้หญิงแพศยาพวกนั้นให้แหลกคามือ”

สิงหราชค่อยๆ ดันร่างของแม่ออกจากตัว ก่อนจะพบว่าท่านหลับไปเสียแล้ว เขาประคองท่านลงนอน และดึงผ้าขึ้นมาห่มให้อย่างอ่อนโยน

“อาทิตย์หน้าผมจะมารับท่านกลับไปอยู่ที่บ้านนะครับ รบกวนเตรียมเอกสารเอาไว้ให้ผมด้วย” เขาหันไปพูดกับนางพยาบาลที่ยืนรออยู่

“เดี๋ยวดิฉันจะทำเรื่องเตรียมเอาไว้ให้เรียบร้อยค่ะ คุณสิงหราชไม่ต้องกังวลนะคะ”

ชายหนุ่มลุกขึ้นยืน หันไปมองมารดาอีกครั้งด้วยความเป็นห่วง

“ผมฝากดูแลท่านด้วยนะครับ”

“ไม่ต้องเป็นห่วงนะคะ ดิฉันจะดูแลท่านอย่างดีค่ะ”

ชายหนุ่มยิ้มให้กับนางพยาบาลที่เขาจ้างพิเศษเอาไว้ให้ดูแลมารดาโดยเฉพาะ ก่อนจะตัดสินใจเดินออกไปจากห้องพักฟื้นของมารดาในที่สุด

งานมงคลสมรสสุดยิ่งใหญ่แห่งปีถูกจัดขึ้นภายในโรงแรมหรูระดับเจ็ดดาวแห่งเดียวของเมืองไทย แขกเหรื่อระดับเศรษฐี และนักธุรกิจชื่อดังเดินทางมาร่วมงานกันอย่างมากมาย

“เจ้าบ่าวยังไม่มาอีกเหรอคะ คุณศัก”

เยาวภาที่ยืนกุมมือของสร้อยโสภาผู้เป็นลูกสาวอยู่เอ่ยถามด้วยความไม่สบายใจนัก ความจริงหล่อนคัดค้านมาตลอดเรื่องการแต่งงาน เพราะคิดว่าสิงหราชไม่ได้รักใคร่ไยดีอะไรในตัวของสร้อยโสภาอย่างที่พูดออกมา เนื่องจากสายตาของสิงหราชที่มองมายังหล่อนนั่น เต็มไปด้วยความคลั่งแค้น แต่สร้อยโสภารักสิงหราชมาก ทำให้หล่อนไม่อาจจะขัดใจบุตรสาวได้

“เดี๋ยวก็คงมาครับ เห็นว่าจะขับรถไปเยี่ยมคุณศิที่โรงพยาบาลก่อน”

ท้ายประโยคของศักดานั้นเศร้าสร้อยไม่น้อย เพราะรู้สึกผิด แต่กระนั้นเขาก็ไม่อาจจะสลัดเยาวภาออกจากชีวิตได้ เขาหลงรักเยาวภามาตั้งแต่เห็นหน้าครั้งแรก พอเพื่อนรักตายลงเขาจึงฉวยโอกาสเข้าหาหล่อน ซึ่งหล่อนเองที่กำลังเปลี่ยวเหงาก็ไม่ได้ขัดขืน เขาสองคนจึงระเริงรักกันท่ามกลางหนามงิ้วแหลมคมอย่างไร้ความเกรงกลัว จนกระทั่งศศิภามาพบเห็นเข้า จึงเกิดโศกนาฏกรรมขึ้น

“ความจริงคุณศักก็น่าจะไปเยี่ยมคุณศิเธอบ้างนะคะ ไม่ใช่ทำเฉยเมยแบบนี้”

แม้จะเล่นชู้อยู่กับศักดา แต่เยาวภาก็ยังพอมีความรู้สึกผิดชอบชั่วดีอยู่บ้าง

“ผมไปมาตั้งหลายครั้งแล้วคุณก็เห็นนี่ แต่ทุกครั้งที่ไปก็ถูกตบตีกลับมาทุกที แล้วแบบนี้คุณยังจะให้ผมไปอีกหรือ คุณเยา”

ศักดาถอนใจแรงๆ อย่างเบื่อหน่าย

“ผมว่าเราเลิกพูดเรื่องนี้กันดีกว่า วันนี้วันมงคลของลูกของเรานะ”

“ก็ได้ค่ะ”

เยาวภาหันมาหาลูกสาวที่ยืนหน้าเศร้าอยู่ข้างๆ

“อย่าทำหน้าเศร้าแบบนี้สิ สร้อย วันนี้วันมงคลของสร้อยนะ”

“คุณแม่คะ คือสร้อย...”

หล่อนพอจะรู้เรื่องความสัมพันธ์ของมารดาและศักดาบ้าง แต่เพราะเป็นลูกจึงไม่อาจจะยื่นมือเข้าไปห้ามปรามอะไรได้ ทำได้แค่เพียงละอายใจแทนเท่านั้น

“ถ้าเป็นไปได้ สร้อยก็อยากไปเยี่ยมคุณป้าศิ”

“อย่านะสร้อย ลูกจะถูกตบตีจากคนประสาทไม่ดี”

“แต่ว่า...”

“เชื่อแม่เถอะ ทำใจให้สบาย เรื่องที่เกิดขึ้นกับคุณศิมันคือเวรกรรมตั้งแต่ชาติปางก่อน พวกเราไม่ได้ทำอะไรสักหน่อยจริงไหม”

หล่อนก็อยากคิดเหมือนมารดา แต่สิ่งที่คาใจก็คือทำไมศศิภาถึงได้ออกจากบ้านไปกลางดึก แล้วเพราะอะไรถึงได้โชคร้ายแบบนั้น

หล่อนพยายามถามทั้งมารดา ถามศักดา หรือแม้แต่คนใช้ของที่นี่ แต่ก็ไม่มีใครบอกอะไรหล่อนเลย แม้กระทั่งสิงหาราชเองก็ตาม พอหล่อนพูดเรื่องนี้ เขาก็จะเปลี่ยนเรื่องไปในที่สุด

สร้อยโสภานึกย้อนไปถึงวันที่สิงหราชขอหล่อนแต่งงาน

เขาขอหล่อนแต่งงานกะทันหันมาก โดยให้เหตุผลว่าแอบรักหล่อนมานานแล้ว แต่ไม่กล้าบอก หล่อนซึ่งหลงรักเขาอยู่เต็มหัวใจจึงตอบตกลงไปทั้งน้ำตา น้ำตาที่เต็มไปด้วยความตื่นเต้นดีใจ

สามเดือนก่อนจะถึงงานมงคลสมรส สิงหราชเอาใจใส่ดูแลหล่อนอย่างดี จนหล่อนรู้สึกว่าตัวเองโชคดีมากที่ได้สมรักกับผู้ชายคนนี้ แต่กระนั้นก็มีบางเวลาที่หล่อนรู้สึกหวาดหวั่นกับสายตาคมกริบที่จ้องมองมา เหมือนเขามีอะไรบางอย่างซ่อนเร้นเอาไว้ แต่พอหล่อนจะถาม แววตามืดดำก็เปลี่ยนเป็นกระจ่างใสและอัดแน่นไปด้วยความรักเสียก่อนทุกที

สิงหราชเหมือนมีอีกตัวตนหนึ่งที่หลบซ่อนเอาไว้ แต่เพราะรัก หล่อนถึงยอม... ยอมแต่งงานกับเขา

“นั่นไง เจ้าสิงมาแล้ว”

คำพูดของศักดาทำให้สร้อยโสภาต้องรีบซ่อนเร้นความแคลงใจเอาไว้แต่เพียงในอก และหันไปมองยังร่างสูงใหญ่ของเจ้าบ่าวที่เดินตรงดิ่งเข้ามา

ใบหน้าหล่อนเหลาปานเทพบุตรแบบนี้ไงที่ทำให้หล่อนหลงรักหัวปักหัวปำ สิงหราชองอาจดุจราชสีห์เจ้าป่า รูปร่างสูงใหญ่กำยำ ใบหน้าหล่อเหลาเกินมนุษย์ เส้นผมสีดำขลับวันนี้ถูกปัดเสยขึ้นไปด้านบนจนเห็นหน้าผากกว้าง หล่อนหัวใจสั่นสะท้านเมื่อเขาเดินมาหยุดใกล้ๆ

“พี่มาสายไปไหมครับน้องสร้อย”

สายตาคมกล้าที่มองมาด้วยความพึงพอใจ ทำให้เจ้าสาวคนสวยหน้าเห่อร้อน แก้มนวลแดงระเรื่อด้วยความขัดเขิน

“เอ่อ... ไม่... ไม่สายหรอกค่ะพี่สิง”

ผู้ชายตรงหน้ายังคงจ้องมองหล่อนไม่วางตา ก่อนจะพูดในสิ่งที่ทำให้หล่อนยิ่งเอียงอาย

“วันนี้น้องสร้อยสวยเหลือเกินครับ”

“ขอบ... ขอบคุณค่ะพี่สิง”

ชายหนุ่มหัวเราะเบาๆ พร้อมกับดึงมือเล็กไปกุมเอาไว้ จากนั้นก็เอ่ยขอตัวกับบิดาและเยาวภา

“ผมขอตัวพาเจ้าสาวไปรับแขกตรงนู้นก่อนนะครับ”

“ตามสบายเถอะ”

ศักดาเอ่ย ก่อนจะหันมาพูดกับเยาวภาอย่างสนิทสนม

“งั้นเราไปนั่งพักกันตรงนู้นเถอะ ผมชักเมื่อยขาแล้ว”

“ได้ค่ะ งั้นเดี๋ยวคืนนี้เยานวดให้นะคะ”

เยาวภาพูดออกไปอย่างลืมตัว และเมื่อเห็นสายตาของสิงหราชมองมาจึงรีบแก้ไขคำพูด

“เอ่อ เยาหมายถึงจะเอาน้ำมันไปให้นวดน่ะค่ะ”

สิงหราชแทบซ่อนความคลั่งแค้นเอาไว้ไม่อยู่ นิ้วมือที่โอบรอบไหล่เปลือยของสร้อยโสภาไว้จึงกดแรงขึ้น จนหญิงสาวอุทานด้วยความเจ็บ

“เจ็บ... เจ็บค่ะ พี่สิง”

“โอ้... พี่ขอโทษครับ”

ชายหนุ่มได้สติรีบลดแรงจากนิ้วมือทันที

“น้องสร้อยเจ็บมากไหมครับ”

“ไม่มากหรอกค่ะ ว่าแต่พี่สิงคิดเรื่องอะไรอยู่เหรอคะ”

“ไม่มีอะไรหรอกครับ เราไปรับแขกทางนู้นกันเถอะ”

สิงหราชปล่อยมือจากร่างของหล่อนและเดินจากไปทันที

สร้อยโสภามองตามไปด้วยความรู้สึกหวาดหวั่น ทั้งๆ ที่รักเขา แต่ทำไมถึงได้รู้สึกหวาดกลัวแบบนี้นะ