Chapter 2 เจ้าสาว
เจ้าสาวนั่งหงอยอยู่ในห้องแต่งตัวเพราะโดนแม่จับแต่งตัวเหมือนตุ๊กตา คุณนายพูนสินไม่ยอมให้ลูกสาวได้คิดเอง เพราะนางจัดแจงให้เสร็จสรรพ จนถึงตอนนี้วิเวียนเริ่มกลัวว่างานงานไม่ใหญ่แน่นะวิของเธอจะไม่เล็กเหมือนอย่างที่ตกลงกับคีรติ
คุณนายพูนสินขอตัวออกไปดูแลแขกที่เป็นเพื่อนร่วมธุรกิจ เมื่อเห็นว่าเพื่อนของลูกสาวมาถึงงานแล้ว
“แม่ฝากยัยวิด้วยนะอันดา อย่าให้ออกจากห้องแต่งตัวนี้ไปจนกว่าจะมีคนมาเชิญล่ะ”
“ค่ะแม่ วันนี้คุณแม่ดูสวยมากเป็นพิเศษนะคะ” อันดาเอ่ยชม โดยปกติวิเวียนจะชอบแซวเธออยู่แล้วว่าเข้ากับผู้ใหญ่ได้ดี เปลี่ยนสีได้เหมือนจิ้งจก สาบานว่านี่คือการอวยยศให้เพื่อนจริง ๆ
“ก็ต้องสวยอยู่แล้วสิจ๊ะ แม่น่ะมีลูกดี ๆ แบบวิเวียน วาสนาดีได้ลูกเขยหมื่นล้าน” คุณนายพูนสินได้ทีอวดอีก นับว่าช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมานางพูดประโยคเดิม ๆ ซ้ำ ๆ จนติดปาก ยกระดับตัวเองเป็นว่าที่แม่ยายลูกเขยหมื่นล้านไป
แต่จะว่าไป ก็ดีไปอย่าง พอวิเวียนอ้างว่าเปิดบ่อนการพนันจะทำให้เสียชื่อเสียง หากคนอื่นเขารู้ว่าแม่ยายของมหาเศรษฐีหมื่นล้านเปิดบ่อนการพนัน นั่นทำให้นางยอมปิดบ่อนและหยุดการทำธุรกิจมืดถาวร ถึงตอนนี้วิเวียนรู้แล้วว่า ถ้าจะบอกแม่เรื่องอะไรให้ยกชื่อของคีรติขึ้นมาอ้าง นางจะทำตามแบบร้อยเปอร์เซ็นต์โดยไม่มีเกี่ยงงอน
“ไงแก นั่งหงอยเป็นปลาซิวตากแห้งเลย” อันดาเอ่ยแซวเพื่อน
“ไม่หงอยได้ไงวะ แม่เล่นเจ้ากี้เจ้าการ ไม่รู้เปลี่ยนงานแต่งที่ฉันคิดไว้ไปหมดหรือเปล่าเนี่ย ตอนแรกจะให้ไปจัดในฮอลล์ของโรงแรมด้วยซ้ำ ฉันเลยยื่นคำขาดว่าถ้าไม่จัดที่ทะเลก็เตรียมส่งแขกกลับบ้านได้เลย”
“เออ! ฉันก็งงเหมือนกัน ตอนคุยกับแกบอกว่างานเล็ก ๆ ตอนขับรถมาไหงกลายเป็นเหมาโรงแรมเลี้ยงแขกซะงั้น”
อันดาเสริม เธอยังเสียดายไม่หายที่ไม่มีโอกาสได้เตรียมชุดใหม่มาอ่อยผู้ชายในงาน
“จริงเหรอแก” วิเวียนตาโต เพราะเธอเองเพิ่งจะรู้เหมือนกัน หลังจากที่เข้ามาในโรงแรมเมื่อวานตอนบ่ายคีรติก็ไม่อนุญาตให้เธอออกจากห้อง บอกเพียงแค่ว่าเขาอยากจะเซอร์ไพรส์เธอตั้งแต่ออกจากห้องแต่งตัวไปเลย โดยที่นี่ก็มีคุณนายพูนสินมาคุมไม่ห่าง
“ฉันกับอิงยังแซวอยู่เลยว่าสงสัยแกสนิทกับคนทั้งประเทศ ได้จัดงานอภิมหาอลังการขนาดนี้”
“ไม่นะแก เพื่อนของฉัน ฉันเชิญแค่ 2 คนเอง”
“แกโดนต้มแล้วล่ะ ไม่รู้จักแม่ของตัวเองหรือไง หน้าใหญ่ใจโตขนาดนั้น แถมคุณคีรติอีก เขาเป็นมหาเศรษฐีที่คนรู้จักมากมาย แต่งงานทั้งทีก็ต้องมีคนรู้จักสิ”
“ไม่…ฉันยังเชื่อว่าเขาจะทำตามคำขอร้องของฉัน” เจ้าสาวส่ายหน้า เธอยังเชื่อในคำสัญญาของคีรติ
“แล้วแกกินอะไรหรือยัง” อิงถามเจ้าสาว
“รองท้องไปแล้ว พวกแกล่ะ”
“รองท้องไม่พอหรอกแก กินให้เยอะ ๆ ไปเลย งานแต่งมันนานนะบอกให้ แถมยืนตลอดงานด้วย เดี๋ยวเป็นลมเป็นแล้งไปทำไง”
“ไม่ได้สิ กินเยอะชุดก็แน่นตาย”
“ก็ว่างั้นแหละ ใครมันเป็นคนเริ่มว่าชุดเจ้าสาวต้องกรุยกรายขนาดนี้ก็ไม่รู้ ของผู้ชายนี่โคตรจะสบาย” อิงเสริม ถึงแม้ว่าวิเวียนจะดูสวยในชุดนี้ แต่มันดูยากลำบากเหลือเกินเวลาที่จะขยับทำอะไร
“งานแกก็ใส่ชุดผู้ชายสิ” อันดาแซว
“แกใส่เป็นเพื่อนฉันสิ”
“พอแล้ว ทั้งสองคนนั่นแหละ” วิเวียนเป็นคนห้ามทัพ
“พี่แสงระวีเลขาของคุณคีย์จ้างเมกอัปอาร์ตติสท์ชื่อดังมาทั้งทีม เอาไว้แต่งหน้าเพื่อนเจ้าสาวด้วย พวกแกอยากได้แบบไหนก็แจ้งไปได้เลยนะ”
“แกได้กลิ่นหรือยังว่างานแกไม่ได้เล็ก” อันดากระซิบถาม
“ทุกอย่างที่เกิดขึ้นฉันเพิ่งรู้เมื่อ 2 ชั่วโมงนี้เองแก” คนเป็นเจ้าสาวบอก
“อีกหลาย ๆ ชั่วโมงหลังจากนี้ก็น่าจะมีอะไรให้แกเซอร์ไพร์สอีกเรื่อย ๆ แหละ ยังไงก็ฮึบไว้ อย่างน้อยงานก็จัดริมทะเลอย่างที่แกต้องการ”
“อือ มาถึงขนาดนี้แล้วนี่”
“วันสำคัญเนอะ อย่าคิดอะไรไม่เป็นเรื่องดีกว่า”
สองสาวตบบ่าให้กำลังใจเพื่อน อีกเดี๋ยวพิธีการก็จะเริ่มแล้ว ทั้งอันดาและอิงต่างรีบไปเปลี่ยนชุดและแต่งหน้าทำผม พร้อมทำหน้าที่เพื่อนเจ้าสาว
หลังจากพิธีการของวิเวียนเสร็จสิ้นลงอย่างราบรื่น แขกเหรื่อทุกคนก็ย้ายกันมารวมตัวที่ห้องจัดเลี้ยงเพื่อรับประทานอาหาร คุณนายพูนสินอยากจัดโต๊ะจีน แต่วิเวียนต้องการให้เป็นงานค็อกเทลเหมือนกับพิธีที่ชายหาด เรื่องนี้เถียงกันแทบตายตั้งแต่เมื่อคืนจนในที่สุดลูกสาวก็เป็นฝ่ายชนะ
เวลานี้เจ้าบ่าวและเจ้าสาวยืนพูดคุยกับพิธีกรอยู่บนเวที งานช่วงบ่ายจัดแบบงานเลี้ยงแต่งงานทั่วไป มีพูดคุยถึงประวัติของทั้งสอง ฉายสไลด์ รวมถึงตัดเค้กตามธรรมเนียม
แต่อันดาไม่ได้สนใจพิธีเหล่านี้นัก หลังเสร็จหน้าที่เพื่อนเจ้าสาวบนเวทีแล้ว เธอก็ลงมาเดินเล่น โถงที่จัดงานใหญ่โตมีโต๊ะวางอาหารค็อกเทลอยู่ตามมุมต่าง ๆ ทว่าเป้าหมายของเธอนอกเหนือไปจากนี้ก็คือหา ‘คนที่ใช่ในวันเหงา ๆ’ สักคนตามประสาหญิงสาวรักสนุก
แต่เพราะว่าคีรติเชิญเพื่อนมาน้อยมากตามความต้องการของวิเวียนที่อยากให้เป็นงานเล็ก ๆ สบาย ๆ งานนี้จึงมีแต่แขกของคุณนายพูนสินเสียเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งก็เป็นรุ่นราวคราวเดียวกับคุณนายเองนั่นแหละ หลังพยายามกวาดตามองหาเหยื่อจนท้อ อันดารู้สึกปวดหัว นี่ฉันมางานแต่งหรือมางานแซยิดสมาคมผู้สูงอายุกันแน่
“เจอหล่อ ๆ ไหมแก” อิงที่เดินเข้ามาสมทบเอ่ยถาม
“เจอ หล่ออยู่ แต่รุ่นพ่อ”
อันดาตัดพ้อกับตัวเอง หยิบไส้กรอกหนึ่งชิ้นใส่ปาก ในขณะที่อิงกำลังส่งสายตาให้กับหนุ่มร่างเบิ้มซิกแพคแน่นที่เห็นเมื่อตอนบ่ายในโรงจอดรถ
“ฉันเจอแล้วแก…” อิงบอกเพ้อ ๆ แต่อันดาไม่ได้ยิน
“พยายามเข้า เราต้องเจอช้างเผือก ฉันเชื่อ” อันดาบอกเพื่อนไปอีกประโยค โดยไม่รู้ว่าคู่สนทนาที่เธอกำลังพูดด้วยเดินออกจากโต๊ะไปแล้ว
“อ้าว..”
พอหันมาอีกทีเธอก็เห็นอิงเดินตรงไปที่มุมโถง ตรงนั้นมีผู้ชายสูงใหญ่คนหนึ่ง แต่เธอยังไม่ทันได้เห็นหน้าเขาถนัดนัก เพื่อนนักธุรกิจของคีรติเดินเข้ามาขอชนแก้วกับอันดา หญิงสาวตกใจเล็กน้อย ตอนมองหากลับไม่เจอ พอยืนเฉย ๆ ดันได้ปลาใหญ่เสียนี่
