ตอนที่7 กลั่นแกล้ง
“ก็อย่ามายืนมองสิ...มีขาก็เดินออกไปสิจะมายืนมองอยู่ทำไม”
ธารธารีไล่ชายหนุ่มด้วยน้ำเสียงสั่นเครือหากเขาไม่ชอบเขาก็เดินหนีไปก็เท่านั้นแล้วการร้องให้ของเธอนี้ไม่ใช่เพราะเขาหรือที่ทำ
“มาอยู่ที่นี่ได้ไม่กี่ชั่วโมงกล้าต่อปากต่อคำขนาดนี้เลยเหรอฮะ”
ปึก
นิโคไลกระชากแขนเล็กของหญิงสาวอีกรอบจนศีรษะของเธอไปกระแทกกับหัวเตียงเขา
“เจ็บนะ”
ธารธารีกุมหัวของเธอเบาๆ
“นายครับมีอะไรหรือเปล่าครับ”
เจเดนรีบวิ่งกลับมาที่ห้องของหญิงสาวเมื่อได้ยินเสียงโวยวายดังไปถึงชั้นล่างภาพที่เขาเห็นตรงหน้าก็คือนิโคไลกำลังหระชากธารธารีจนหัวเธอกระแทกกับหัวเตียงเขาจึงต้องรีบส่งเสียงถามว่ามีอะไรเกิดขึ้น
“หึ้ยย..”
นิโคไลกระฟัดกระเฟียดเดินออกไปจากห้องหญิงสาวโดยที่ไม่ได้พูดอะไรกับเจเดน
“เป็นอะไรบ้างหรือเปล่าครับคุณน้ำ”
หลังจากที่นิโคไลออกไปแล้วเจเดนก็รีบมาดูตามเนื้อตัวหญิงสาวว่ามีรอยฟกช้ำตรงไหนหรือไม่
“เค้าเป็นบ้าอะไรของเค้าจู่ๆก็มาอาละวาด”
ธารธารีส่ายหัวเบาๆเธอไม่ได้เป็นอะไรมากแค่อยากจะรู้จริงๆว่าชายหนุ่มทำไมต้องมาหาเรื่องเธอด้วย
“นายก็เป็นแบบนี้แหละครับอย่าไปถือสาเลย”
เจเดนพูดปลอบให้หญิงสาวนั้นไม่คิดอะไรมาก
“เค้าควรจะหาหมอมาดูแลสุขภาพจิตนะคะ”
ธารธารีบ่นอู้อี้ยกมือเรียวปาดน้ำตาพร้อมบุ้ยปากเล็กน้อย
“เอ่อ..หื้ม”
เสียงบ่นของหญิงสาวทำเอาเจเดนแอบอมยิ้มกับคำพูดของเธออยู่เหมือนกันไม่เคยมีใครพูดถึงเจ้านายของเขาแบบนี้มีหญิงสาวนี่แหละคนแรกไม่อยากจะคิดหากเจ้านายเขายังอยู่ตรงนี้จะทำหน้าเช่นไร
“พรุ่งนี้ฉันต้องบินไปที่ญี่ปุ่นนายไปกับฉันก็แล้วกันวิลเลียม”
นิโคไลยืนมองไปนอกกระจกห้องทำงานของเขาชายหนุ่มเรียกวิลเลียมมาคุยที่ห้องทำงานเพราะเขาต้องไปประชุมใหญ่กับพ่อของเขาที่ญี่ปุ่นและครั้งนี้เขาเลือกวิลเลียมให้เป็นคนติดตาม
“ครับนาย”
วิลเลียมพอจะทราบแล้วว่าเจ้านายเขาต้องบินไปญี่ปุ่นแต่ทุกครั้งจะต้องให้เฮนรี่ไปไม่รู้ว่าครั้งนี้ทำไมเลือกเขา
“นายได้ถามเฮนรี่บ้างหรือเปล่าว่าช่วงนี้เป็นอะไร”
นิโคไลหันมามองหน้าวิลเลียมด้วยสีหน้ากังวลเขาเดาเฮนรี่ไม่ออกเลยว่าช่วงนี้เฮนรี่นั้นเป็นอะไรจึงต้องถามหาความจากวิลเลียมเพราะคิดว่าสองคนนี้ต้องคุยกันถึงปัญหาส่วนตัวบ้าง
“ผมลองคุยหลายรอบแล้วครับนายดูเหมือนว่าเฮนรี่ยังมีอะไรในใจแต่ก็ไม่ยอมพูดออกมา”
วิลเลียมเองก็หนักใจกับเรื่องนี้อยู่เหมือนกัน
“อืม...ฉันว่าจะให้เฮนรี่พักงานไปก่อนเผื่ออะไรๆมันจะดีขึ้นนายว่ายังไง”
นิโคไลคิดเรื่องนี้มาตั้งแต่เมื่อคืนแล้วเขาก็ไม่ใช่เจ้านายที่สักแต่จะใช้งานลูกน้องอย่างเดียวหากการพักยาวนั้นทำให้คนของเขากลับมาเป็นปกติได้เขาเองก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร
“ก็ดีเหมือนกันนะครับ”
วิลเลียมพยักหน้าเห็นด้วยกับความคิดของเจ้านายของเขาตัวเขาเองก็อยากจะบอกกับเฮนรี่อยู่เหมือนกันว่าให้ขอพักงานไปก่อน
“นั่นอาหารเย็นเธอใช่ไหม”
นิโคไลเห็นเจเดนเดินถือถาดอาหารกำลังเดินขึ้นไปชั้นบนเขาจึงเรียกลูกน้องของเขาเอาไว้ก่อนเพราะมีอะไรบางอย่างอยากจะทำ
“ครับนาย”
เจเดนชะงักฝีเท้าและหันกลับมามองนิโคไลด้วยสีหน้าสงสัย
“นายจะไปไหนก็ไปฉันจัดการเอง”
นิโคไลดึงถาดอาหารมาถือเอาไว้และสั่งให้เจเดนนั้นไปทำอย่างอื่นเพราะเขาจะเป็นคนเอาหาหารไปให้ธารธารีเอง
“เอ่อ”
เจเดนหน้าเจื่อนเล็กน้อยเพราะกลัวว่าจะเกิดเหตุการณ์ไม่ดีขึ้นอีก
“ฉันไม่ทำอะไรเธอหรอกน่านายอย่ากังวลเกินเหตุไปเลย”
นิโคไลเอียงหน้าทั้งมองเจเดนด้วยสายตาแข็งกร้าวเล็กน้อยเขารู้ว่าตอนนี้เจเดนนั้นคิดอะไรอยู่ไม่เข้าใจว่าหญิงสาวดูน่าสงสารอะไรนักหนาทุกคนที่นี่จึงดูสงสารเธอไปกันหมด
แกร๊ก
“....”
นิโคไลเดินเข้ามาในห้องหญิงสาวในช่วงเย็นเขาเห็นเธอเอาแต่นั่งเหม่ออยู่ปลายเตียงแต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกไปเพียงแค่วางถาดอาหารที่โต๊ะให้เธอได้ยินเสียงเท่านั้น
“อาหารเย็นเหรอคะคุณเจ”
ธารธารีค่อยๆขยับตัวมานั่งที่หัวเตียงและเอื้อมมือไปจนสุดแขนแต่กลับไม่เจอถาดอาหารเธอจึงขมวดคิ้วสงสัยเล็กน้อยและพยายามที่จะค่อยๆวาดมือเบาๆควานหาถาดอาหารบนโต๊ะเพราะกลัวจะทำอะไรหล่นอีกแต่ก็ไม่พบอยู่ดี
“....”
นิโคไลยืนยิ้มมุมปากอย่างพอใจที่แกล้งหญิงสาวได้หากเธอไม่ยอมปริปากเรื่องพี่ชายเธอออกมาเขาก็ต้องหาอะไรทำเครียดบ้างคือการแกล้งหญิงสาวเล่นนั่นเอง
“อืม”
ธารธารีขยับจมูกของเธอเล็กน้อยและพยายามนึกถึงกลิ่นน้ำหอมแบบนี้ว่าเป็นของใครแล้วเธอก็นึกออกมันเป็นของคนใจร้ายที่เธอไม่ชอบเขานั่นเองนี่คงจะหาเรื่องแกล้งเธออีกเป็นแน่หากเธอได้กลิ่นน้ำหอมชัดขนาดนี้แสดงว่าเขาคงอยู่ไม่ไกลตัวเธอเท่าไรจึงค่อยๆเดินควานหาตัวคนอย่างช้าๆ
กึก กึก
นิโคไลค่อยๆถอยหนีหญิงสาวอย่างระวัง
“.คุณเจเล่นอะไรเหรอคะ...”
ธารธารียกยิ้มมุมปากเล็กๆและก้มหน้าเธอรับรู้ได้ว่าเสียงลงส้นเท้ามาจากทางไหนเธอจึงคว้าตัวของเขาเอาไว้ได้ทั้งยิ้มหวานส่งเสียงทักให้อีกฝ่ายได้คิดว่าเธอเข้าใจว่าเขาเป็นเจเดน
“โอ้ย..ๆ..นี่เธอ”
นิโคไลมีสีหน้าเหยเกเมื่อมีมือของหญิงสาวบิดเนื้อที่หน้าท้องแกร่งของเขา
