3
“ผู้ใหญ่ใจร้ายและขี้โกหกทุกคน”
บิดาก็ใจร้าย พอมารดาเสียชีวิตก็บอกว่าจะไม่หาใครมาแทนที่ก็ยังมีมารดาเลี้ยงที่ใจร้าย ต่อหน้าบิดาก็ดีกับเธอ ลับหลังก็พูดตาไม่ดีแถมยังทุบตีทำร้าย
“ไม่ทุกคนหรอกนะ เชื่อฉันสิ อ๊า... แน่นเหลือเกิน”
เขาถอนกายออกห่างเล็กน้อย เห็นเลือดที่ติดกับแท่งทวนอวบใหญ่ เธอหน้าเสียเขาก็เลยบดจูบปากน้อยเอาไว้แล้วกดกายลงไปใหม่
“อื้อ... หนูเจ็บ”
“อีกนิดนะสาวน้อย อ๊า... ฉันก็เจ็บ เธอแน่นมากดันแทบไม่เข้าเลยนะ”
อาคเนย์ร้องบอกบดจูบและขยำนมเธอเพิ่มความเสียว เขาถอนสะโพกออกและกดเข้าไปใหม่ซ้ำๆ ลืมใช้เจลหล่อลื่นเพราะคิดว่าไม่น่าจะแน่นขนาดนี้
“อ๊า... เจ็บจัง”
เธอร้องครางใบหน้าเหยเกไปตลอดเมื่อเขาขยับ
“อีกนิดนะ อ๊า...”
เขาฝังกายเข้าไปเกินกว่าครึ่งแล้วแช่นิ่งกอดรัดร่างเธอแนบอก ได้ยินเสียงร้องไห้ของสาวน้อยไม่หยุดปาก
“เธอชื่ออะไร”
“อันดามันค่ะ”
“อันดามันของฉัน”
เขาร้องครางเริ่มขยับกายเมื่อเธอตอดรัดท่อนลำของเขาแน่นถนัด ใบหน้าของอาคเนย์กระตุก เขากอดรัดร่างน้อยแน่น อกอวบอิ่มของเธอบดเบียดกับอกแกร่งของเขา ก่อนที่สะโพกสอบจะเริ่มขยับเข้าหาอย่างเป็นจังหวะจะโคน
เขาไม่เร่งรีบเพราะความคับแน่นของกายสาวที่ตอดรัดรุนแรงอยู่กับท่อนกายชาย ทำให้การขยับไม่สามารถทำให้เร็วไปกว่านี้ได้อีกแล้ว
อาคเนย์นวดสะโพกกลมกลึงของเด็กสาว เขาครางทุกครั้งที่ฝังกายเข้าไปหา ใบหน้าเหยเกเพราะโดนตอดรัดในขณะที่เธอร้องประท้วงอยากให้เขาทำเสร็จไปเสียเร็วๆ
แต่ในความเจ็บแปลบที่เกิดขึ้นมันมีความวาบหวามที่สอดแทรกเข้ามาเช่นเดียวกัน เธอยอมรับว่าความวาบหวามนั้นทำให้ต้องเผลอร้องครางออกมาหน้าแดงก่ำ
“อื้อ...”
เสียงครางของเธอทำให้เขารู้สึกได้ถึงแรงกำหนัดที่เกิดขึ้นอย่างมากมายมหาศาล ชายหนุ่มพาเธอพุ่งทะยานไปสู่ห้วงความวาบหวามเมื่ออัดกายเข้าไปและปลดปล่อยหยาดหยดความร้อนในกายสาว
เขาพลิกกายออกจากร่างของเธอ อันดามันหอบหายใจสะท้านหวั่นไหว เธอร้องไห้เบาๆ เมื่อเห็นเลือดที่ไหลเยิ้มออกมาจากกายสาว
“ร้องไห้ทำไม”
เขาขมวดคิ้วชะโงกหน้ามามอง เธอชี้ไปยังจุดเกิดเหตุ เป็นครั้งแรกที่อาคเนย์รู้สึกไปไม่เป็น
“ครั้งแรกก็แบบนี้แหละ”
แงๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
เธอปล่อยโฮออกมา ก่อนจะทิ้งตัวลงนอนตะแคง ดึงผ้าห่มมาคลุมกาย สะอื้นฮักๆ จนร่างสูงต้องทำตาปริบๆ
“เป็นอะไร เจ็บมากเหรอ”
“คุณหลอกหนู”
เธอไม่ยอมให้เขาแตะต้องสัมผัส ผลักมือของเขาออกห่างอย่างงอนๆ
“บอกแล้วว่าครั้งแรกจะเจ็บ หลอกที่ไหนกัน”
“หนูจะกลับบ้านได้ตอนไหนคะ”
เพราะมารดาเลี้ยงขู่เอาไว้ว่าถ้าทำให้ลูกค้าไม่พอใจเธอจะต้องเจอดีแน่ๆ เธอกลัวจะเจอดี เลยต้องทำเสียงอ่อนลง
“จนกว่าฉันจะพอใจ”
“คุณจะทำให้หนูเจ็บอีกเหรอ”
คนเอ่ยถามเริ่มสะอื้นไหม เบะปากใบหน้าเหยเก
“รับปากว่าหลังจากนี้จะไม่เจ็บ”
“ผู้ใหญ่ชอบโกหก”
เธอเม้มปากจะไม่เชื่ออะไรเขาอีก
“หิวไหม”
“ไม่ต้องเอาของกินมาหลอกล่อหนูหรอก”
“ถ้าไม่หิวก็ไม่เป็นไร”
เขาขยับลุกไปสวมเสื้อคลุมก่อนจะกดโทรศัพท์หาลูกน้อง อันดามันแอบเหล่ตามองร่างสูงที่เดินไปมาในห้อง แต่พอเขาหันมาเธอก็รีบหลบสายตามานอนตะแคงเม้มปากเหมือนเดิม กลัวเขารู้ว่าแอบมอง
ไม่นานอาหารหอมกรุ่นก็ถูกเข็นเข้ามาในห้อง กลิ่นหอมของมันทำให้เธอต้องกลืนน้ำลายด้วยความหิว
แต่ปากดันพูดออกไปแล้วว่าไม่กิน เธอเม้มปากแอบมองการกระทำของคนในห้องโดยไม่ให้เขารู้
“หอมมากๆ เลยนะ”
อาคเนย์ยกจานอาหารขึ้นดมก่อนจะโบกไปมาเบาๆ กลิ่นหอมของสเต็กปลายิ่งหอมตลบอบอวลไปทั่วห้องกว้างมากกว่าเดิม คนบนเตียงที่นอนแข็งเหมือนท่อนไม้ลอบกลืนน้ำลายหนักขึ้นไปอีก
“ไม่หิวเหรอ”
เขาถือจานอาหารหอมกรุ่นเดินไปตรงหน้าเตียง เธอเม้มปากหลับตาหนีเหมือนเด็กดื้อ
“หอมจริงๆ นะ”
เขานั่งยองๆ ลงข้างเตียง ยื่นจานอาหารไปตรงหน้า เธอลืมตาก่อนจะพลิกกายกลับไปอีกด้าน
“ไม่หิวจริงเหรอ”
เขายั่วอีก เดินไปอีกด้านของเตียงมองสบตากับเธอ ก่อนจะตักอาหารแสนอร่อยเข้าปาก
อันดามันทำท่าจะพลิกไปอีกด้านแต่ท้องเธอร้องขึ้นมาเสียก่อน เธอกัดปากหน้าแดงด้วยความอาย จิกมือกับผ้าห่มที่คลุมจนถึงอกอวบแน่น
