1
อาคเนย์มองสาวน้อยที่ยืนบิดไปบิดมาอยู่ตรงหน้าด้วยดวงตาเป็นประกายร้อนแรง สาวน้อยวัยสิบแปดนุ่งน้อยห่มน้อยท่าทางขัดเขิน ดึงเสื้อผ้าน้อยช้อนไปมาแต่มันก็ปิดอะไรไม่มิด เขาโบกไม้โบกมือให้คนของเขาออกไปก่อน ตวัดสายตามามองสาวน้อยด้วยความหิวกระหาย
“อายุสิบแปดเหรอ”
น้ำเสียงเข้มข้นเอ่ยถาม พร้อมกวักมือเรียกเธอเข้าไปหา อันดามันพยักหน้ากล้าๆ กลัวๆ ไม่กล้าเดินเข้าไปหาผู้ชายตัวโตที่นั่งไขว้ห้างอยู่บนโซฟาเนื้อนุ่ม
“มานี่สิ”
เขาตบมือบนหน้าตักของตัวเอง เธอขาสั่นๆ เดินเข้าไปหาอย่างอิดออดไม่ค่อยกล้านัก ใบหน้าสวยใสน่ารักก้มงุดเขินอายอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน
“ว้าย!”
สาวน้อยร้องเสียงหลงเมื่อโดนดึงให้ไปนั่งตัก ใบหน้าของเธอเหลอหลาหวาดกลัว ตัวสั่นเพราะไม่เคยต้องมือชายมาก่อน
“คุณจะทำร้ายหนูไหมคะ”
เธอเคยเห็นสามีใหม่ของมารดาเลี้ยงตบตีมารดาเลี้ยงด้วยความโหดร้าย บิดาของเธอก็ไม่ใช่คนดีนัก แต่ก็ยังรักเธอ พอท่านเสียชีวิตเท่านั้นแหละ เธอก็ไม่ได้เรียนหนังสือต่อ มารดาเลี้ยงใช้งานเธอหนักๆ และคิดจะขายเธอ บอกว่าที่บ้านกำลังจะอดตายเพราะบิดาสร้างหนี้เอาไว้ เธอเลยต้องมาทำงานชดใช้หนี้ในครั้งนี้ ไม่อย่างนั้นก็จะโดนทำร้ายจนตาย
“ทำไมคิดแบบนั้นล่ะสาวน้อย”
อาคเนย์เชยคางสาวให้แหงนขึ้นสบตา ดวงตาของเธออ่อนหวานหวาดกลัวเหมือนนางกวางน้อย เขาลูบไล้เรือนร่างหอมกรุ่นไปมาด้วยความเสน่หา
สาวน้อยในอ้อมแขนของเขาตัวหอม ตัวเล็กแต่นมใหญ่ เอวคอดสะโพกผาย ผิวเนียนละเอียดราวหยวกกล้วย เขาชักอยากรู้แล้วสิว่าหัวนมเธอจะมีสีอะไร น่าดูดกลืนกินขนาดไหน
คนที่ขาดสาวเคียงข้างมาหลายวันเพราะงานยุ่งแข็งคึกขึ้นมาในทันที เขาบดร่างเธอให้เสียดสีกับท่อนลำของเขาอย่างจงใจแต่คนไร้เดียงสาก็ยังไม่รู้ตัว มองเขาตาปริบๆ
“ผู้ชายใจร้ายทุกคนค่ะ”
“ไม่หรอก”
เขากระซิบบอก หอมแก้มนวลฟอดใหญ่ ท่าทีของเธอน่าเอ็นดูกว่าผู้หญิงทุกคนที่เขาเคยใกล้ชิด
“คุณไม่ได้ใจร้ายเหรอคะ”
เธอช้อนสายตาขึ้นมองอย่างหวาดๆ ไม่ค่อยจะเชื่อเขานักเพราะเขาคือคนแปลกหน้า เธอนั่งตัวแข็งไม่กล้าลุกจากตักเพราะกลัวเขาโกรธ
“ฉันเป็นคนเอ็นดูเด็ก”
อาคเนย์กระซิบบอกเสียงนุ่มด้วยน้ำเสียงรัญจวนใจ เขากำลังมีอารมณ์และเขาต้องได้เธอเดี๋ยวนี้ด้วย
“แต่น้ากรองใจร้ายค่ะ ผู้ใหญ่ใจร้ายทุกคน”
“น้ากรองคือใคร”
เขาเอ่ยถาม เป็นครั้งแรกที่อาคเนย์อยากรู้เรื่องของคนที่จะหลับนอนด้วย เด็กสาวคนนี้คนของเขาจัดหาให้ เขาก็ไม่ได้มีส่วนรับรู้เรื่องราวอะไรของเธอเลยแม้แต่น้อย
“เป็นแม่เลี้ยงค่ะ”
“แม่เลี้ยงใจยักษ์เหมือนในนิทานน่ะเหรอ”
เขาไม่รู้ตัวสักนิดว่าคุยกับเธอไปอย่างเอ็นดูแค่ไหน
“ใช่ค่ะ แล้วคุณใจยักษ์ไหมคะ”
“ฉันใจดีแม่หนูน้อย”
“จริงเหรอคะ”
“จริงสิ”
“งั้นคุณก็ต้องช่วยหนูจากแม่เลี้ยงใจยักษ์”
“ใช่ ปีนี้อายุสิบแปดแล้วเหรอ”
“ค่ะ”
เธอตอบเสียงสั่นๆ เมื่อเขาไล้มือไปกับสีข้างของเธอ กายสาวสะท้านวาบหวามอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน
ปากน้อยจิ้มลิ้มเผยอยั่วจนเขาต้องบดจูบลงมาหาอย่างหนักหน่วง มือน้อยจิกกับคอเสื้อของเขาด้วยความวาบหวิว
“คุณจูบหนูเป็นคนแรก”
สาวน้อยพูดเสียงหอบๆ หน้าแดงก่ำ ดวงตาของเธอทำให้เขาลุ่มหลง อาคเนย์อุ้มร่างน้อยบอบบางขึ้นสู่อ้อมแขนพาไปยังเตียงนอนกว้างซึ่งอยู่มุมหนึ่งของห้อง
“เธอจะเล่าเรื่องส่วนตัวให้ฟังก็ได้นะ ฉันยินดีจะฟังระหว่างที่เรากำลังร่วมรักกันอยู่”
เขาพูดอย่างตรงไปตรงมา น้ำเสียงเซ็กซี่สั่นพร่า เริ่มปลดกระดุมเสื้ออย่างไม่รีบร้อน
“หนูต้องยอมคุณใช่ไหมคะ”
คนพูดน้ำเสียงสั่นรัวพอจะรู้ว่าอะไรเป็นอะไร แต่ก็ยังไร้เดียงสามากนัก
“เหมือนไม่เต็มใจ”
“หนูไม่ได้เต็มใจ แต่ถ้าไม่ยอมจะโดนตี”
“ใจร้ายจัง”
เขาเปรยเสียงแหบพร่า สนใจในเรื่องที่เธอกำลังสนทนากับเขา แต่ไม่ได้ใส่ใจจะปล่อยให้เธอรอดพ้นกรงเล็บพิศวาสของเขาไปได้
“คุณจะไม่ใจร้ายใช่ไหมคะ”
“ไม่หรอก ฉันใจดีกับเด็ก เมตตาและรักเด็กด้วย”
เขาขยับเข้าไปหา สัมผัสได้ว่าเธอกำลังตัวสั่น มือหนาลูบไล้เรือนร่างหอมกรุ่น ก่อนจะดึงสายเสื้อของเธอออกจากตัว เสื้อผ้าน้อยชิ้นหลุดลอยออกไปอยู่ข้างเตียงอย่างรวดเร็วในเวลาเพียงไม่นาน
