บท
ตั้งค่า

น้าสาวของผม [2]

ยามเย็น... ครรชิตเป็นฝ่ายอาสาขับรถพาทุกๆ คนในครอบครัวไปทานอาหารที่แพริมน้ำ บรรยากาศดี อาหารอร่อย ทำให้ความสัมพันธ์พี่ชายกับน้องสาวที่ห่างหายไปหลายปี กลับมาดีดังเดิม

เป็นเรื่องของคนมีอายุคุยเรื่องราวเก่าๆ ทำให้ครรชิตรู้สึกเบื่อ เมื่อทานอาหารอิ่มแล้ว เขาจึงขอตัวลุกออกจากโต๊ะอาหาร ออกไปเดินที่พักผ่อนหย่อนใจ ภายในสถานที่ส่วนเฉพาะกิจของร้านอาหาร พลางหยิบมือถือขึ้นมาดูตารางวันนี้

“วันแดงเดือดบุกจริงๆ !!!” ครรชิตบ่นพลางส่ายหัว คิดหนัก เพราะตลาดหุ้นวันนี้ผลออกมาแย่มากๆ มีแต่คนเทขาย และใครที่ไหนจะหอบเงินมาซื้อให้บอร์ดเขียววะ

 

“ไหนพี่คเชนท์บอกจะไม่แต่งงาน อยู่เลี้ยงแม่ยังไง... แค่ฉันไปต่างประเทศเกือบจะยี่สิบปี พี่ก็มีลูกชายแล้ว”

ผลิขวัญถามไถ่เรื่องเก่าๆ ก็นึกอยากจะถามเรื่องที่ตัวเองเคยฝากเหมือนกัน ไม่เห็นคเชนท์พูดถึงเลย ตั้งแต่เธอไปต่างประเทศหลายปีก่อน

“อ่อ... เด็กรับมาเลี้ยงตั้งแต่เล็กมากๆ น่ะ มันยังไม่รู้เรื่องอะไรหรอก พี่ไม่แต่งงานกับพวกผู้หญิงขี้เกียจทำงานหรอกนะ ไม่ช่วยหาเงินแล้วมาช่วยผลาญเงินน่ะ”

คเชนท์บอกไปตามตรง ถ้าคิดจะมีลูกรับมาเลี้ยงให้เป็นเรื่องเป็นราว ให้โอกาสครรชิตมีชีวิตที่ดี และไม่ต้องมากังวลเรื่องแม่เลยแม้แต่น้อย

“ครรชิตรู้หรือเปล่าล่ะ? ว่าเป็นลูกบุญธรรมพี่?” ผลิขวัญรู้สึกว่า เธอมีหลานไม่แท้ ตอนที่เจอกันครั้งแรก นึกว่าจะเป็นหลานชายแท้ๆ ก็นึกแปลกใจว่าทำไมพี่ชายไม่มีเมีย

“มันไม่รู้หรอก ปล่อยให้มันคิดแบบนั้นแหละดีแล้ว มันจะไม่รู้ว่ามีปมด้อย โดนเพื่อนล้อเลียน พี่ว่าคิดถูกนะ ที่ทำให้ครรชิตรู้สึกว่าเป็นลูกชายแท้ๆ มันเป็นผลดีต่อตัวเขา”

แววตาของคเชนท์มองผลิขวัญค่อนข้างนิ่งธรรมดา จ้องมองน้องสาวที่สาวใส ยิ้มแย้มระหว่างนั่งทานอาหาร โดยมีฐีรวัฒน์นั่งอยู่เคียงข้าง

******

“พี่... ขวัญอยากถามเรื่องลูกชายที่ขวัญฝากเลี้ยง ตอนพาไปต่างประเทศด้วยไม่ได้... แก...หายไปไหน เป็นยังไงบ้าง?” ใจน้องสาวค่อนข้างลุกลี้ลุกลน

เธอมาถึงบ้านคเชนท์ตั้งใจว่าจะได้เจอหน้าลูกชาย กลายเป็นว่าเจอหน้าหลานชายเสียแบบนั้น แต่ก็อย่างว่า ใบหน้าเหมือนคเชนท์มากๆ จนทำให้คิดว่าเป็นลูกชายแท้ๆ เสียอีก

“จะว่ายังไงดีล่ะ? คุณย่าไม่อยากเลี้ยงลูกชายเธอไง ถึงได้ไปฝากบ้านญาติห่างๆ ไปรับเลี้ยง ได้ข่าวอีกที จมน้ำตายไฟฟ้าช็อตหมดบ้าน... พี่เสียใจด้วยนะ ทีเกิดเรื่องแบบนี้...” คเชนท์เล่าเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้น ทำให้ผลิขวัญก้มหน้านิ่ง

การสนทนาเงียบหายไป ระหว่างที่ผลิขวัญกำลังนั่งโศกเศร้าเสียใจ หลั่งไหลน้ำตาอาบสองแก้ม ฐีรวัฒน์จึงถามเรื่องลูกชายเสียหน่อยว่า มีอะไรเกิดขึ้นบ้าง มีเรื่องทะเลาะกันหรือเปล่า? แล้วมีใครรับผิดชอบเรื่องราวพวกนั้นบ้าง

 

“ลูกชายน้องฐีฯ เป็นเด็กดีมากนะ ร่าเริงมากๆ ด้วยทำให้ญาติฝ่ายแม่ รักและเอ็นดูขอไปรับเลี้ยง ตอนที่น้ำท่วม พวกเขาตั้งใจจะมาอยู่บ้านที่นี่เหมือนกัน แต่โชคร้ายที่วันนั้นขาดการติดต่อไปนาน พอมารู้อีกที ก็มีพวกอาสากู้ภัย มาติดต่อว่า ให้มารับศพทั้งครอบครัว ... พวกเขาถูกไฟฟ้าช็อตตายในบ้าน...”

คเชนท์กล่าวรายละเอียดเพิ่มขึ้น ยิ่งทำให้ผลขวัญเสียใจจนร้องไห้น้ำตาไม่ขาดสาย สองมือแทบหงิกงอเกาะกุมหน้าอกอย่างเจ็บปวด เธอสูญเสียลูกชายไปตลอดกาล เพราะแค่นำพาไปต่างประเทศด้วยไม่ได้ เขายังเล็กมากนัก...

 

“หลานไปดีแล้ว เลิกเสียใจเถอะผลิขวัญ... พี่ก็ทำใจมานานหลายปีแล้วเหมือนกันนะ เรื่องหลานชายน่ะ” น้ำเสียงของคเชนท์ยังคงนิ่งราบเรียบ เขาไม่ค่อยรู้สึกกับเหตุการณ์ที่เล่า พลางถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่ายไม่อยากพูดถึงอีก

“ขอบคุณพี่มากนะ ที่รับภาระของขวัญ พยายามช่วยขวัญมาตลอด ขวัญจะรีบตั้งตัวแล้วออกจากบ้านพี่นะ ขวัญไม่อยากรบกวนมาก...” หญิงสาวรู้สึกแย่และเสียใจเมื่อได้ยินข่าวลูกชายตนแบบนั้น เธอไม่ได้เห็นหน้าลูกชายหลายปี เพราะแบบนี้นี่เอง ผลิขวัญนึกว่าแม่ และคเชนท์ยังโกรธอยู่ เลยไม่ส่งรูปลูกชายมาให้เธอ หรือติดต่อกับเธอหลายปี...

“คงต้องบอกครรชิตแล้วล่ะ ว่าพวกเราต้องเช็คบิลอาหารแล้วกลับบ้าน พักผ่อนกันเสียที...” คเชนท์กล่าวตัดบทน้ำเสียงปกติ ฐีรวัฒน์ พยายามปลอบประโลมภรรยาสาว สวมกอดเธอเอาไว้ข้างกาย พลางเดินกลับมาที่รถทั้งหมด...

******

เมื่อครรชิตพาผู้ใหญ่ทั้งสามคนกลับมาถึงบ้าน คเชนท์พาตัวเองกลับเข้าห้องนอนของตัวเอง เก็บตัวเงียบเหมือนเคย ปิดไฟ พลางจุดเทียน แล้วสวมมนต์นั่งสมาธิ อย่างที่ครรชิตรู้จักพ่อมาตลอดชีวิตเขานั้นแหละ... สิ่งที่คเชนท์จะทำก่อนนอน

น้าสาวของเขาเข้าห้องกับฐีรวัฒน์ พลางวุ่นวายกับการจัดของ พวกเขาพยายามทำเสียงให้เงียบที่สุด และเริ่มมีเสียงสายน้ำดังแว่วมาตามกำแพงบ้าน บางทีอาจจะจัดของเสร็จแล้วก็ได้ คงจะอาบน้ำ เตรียมตัวนอนพักผ่อน...

ส่วนตัวครรชิต เขายังคงติดตามคอยดูบอร์ดกระดานผ่านมือถือ พยายามตามข่าวและทำงานเงียบๆ คนเดียวมาตลอดเวลา...

 

ชายหนุ่มแอบบิดลูกปิดประตูเบาๆ เปิดออกมาสังเกตยามดึกของคืนนี้ มีใครหลับไปบ้างแล้วรึยัง? ไฟห้องของคเชนท์ดับไปแล้ว พร้อมเสียงกรนแว่วออกมา และมีอีกเสียงหนึ่งที่สั่นสะเทือนเรือนลั่น แว่วออกมาจากห้องคุณย่าของครรชิต

เสียงที่ดังสม่ำเสมอดังราวกับของตบกระทบหนักๆ ป๊าดๆ พวกเขาทะเลาะกันรึ? ตบหน้ากันหรือเปล่า? ครรชิตแอบคิดในใจไปต่างๆ นาๆ ได้ยินเสียงหญิงสาวกรีดร้องแว่วออกมาแผ่วๆ พลางคิดว่า น้าอาจจะทะเลาะกับอาฐีรวัฒน์ก็ได้

แต่เสียงที่ดังตลอดเวลานั้น มันสม่ำเสมอจนทำให้ใจของครรชิต อยากแอบไปฟังใกล้ๆ อยากแน่ใจว่า พวกเขาทะเลาะกันหรือทำอะไรอย่างอื่น...

******

“อ๊า!!! อื้อ!!! ...ซี๊ด...” เสียงหญิงสาวคร่ำครวญกรีดร้องอย่างกระสันเสียว สลับกับเสียงเนื้อตบกระทบกันรัวๆ เร็วๆ ราวกับมีก้อนเนื้อกำลังอัดกันแรงๆ ถี่ๆ อยู่ ครรชิตกลืนน้ำลาย พลางแนบหูชิดประตูหน้าห้องคุณย่าเก่า

รู้สึกว่าน้าสาวคงจะมีเซ็กซ์กับอาฐีรวัฒน์ และถึงจะอายุมากกว่าเขาไม่มาก พวกเขาคงจะแข็งแรงตอนอยู่ต่างประเทศ และยังมีกิจกรรมดีๆ แบบนี้ได้อีก

“ท่าทางน้าจะเซ็กซ์จัด ฟังเสียงแล้วชวนเห็นภาพเลย” ครรชิตกระซิบบอกตัวเองระหว่างฟังเสียงเหล่านั้นดังแว่วเล็ดลอดออกมา นึกอยากจะเปิดประตูไปดูข้างใน แต่ไม่เอาดีกว่า กลัวว่าจะถูกต่อว่าไปรบกวนเวลาส่วนตัวพวกเขา

“อย่าไปยุ่งกับพวกนั้นเลย ไม่นานเดี๋ยวน้าก็ไปแล้ว...” คำพูดของคเชนท์แว่วดังออกมาในใจครรชิต ทำให้เขาตัดสินใจที่จะเดินละจากประตูห้องคุณย่า พาตัวเองกลับมานอนชักว่าวบนเตียงตนดีกว่า...

 

ครรชิตนอนหลับตาเลื่อนมือตัวเองต่ำลงไป พลางกำความเป็นชายเอาไว้ในมือ รูดองคชาตช้าๆ จากส่วนปลาย เน้นลึกลงมาที่โคนลำท่อนอวบอิ่ม จากที่นุ่มนิ่มตัวสั้นหดเล็ก เริ่มแปรเปลี่ยนอวบอูมอิ่มพองบวมขยายยาวใหญ่

ขนาดของมันยาวกว่ามือเขา จนต้องรูดชักออกมาเร็วๆ รัวๆ ยามเมื่อนึกถึงหน้าของน้าสาวแสนสวย ใจของครรชิตเริ่มตื่นเต้น และอยากจะสำเร็จความใคร่ด้วยมือยามนี้

ชายหนุ่มเก็บกลั้นอารมณ์ พลางชักว่าวรัวๆ เร็วๆ จนอารมณ์พุ่งทะยานสู่จุดสุดยอด รู้สึกได้ถึงความร้อนภายในกาย ปั่นป่วนหลั่งไหล และมีแรงความดันสูง อัดฉีดของเหลวไหลออกมาอย่างรวดเร็วจากอัณฑะสู่องคชาต

สายน้ำขุ่นพวยพุ่งหลั่งไหลแตกทะลัก เมื่อครรชิตสำเร็จความใคร่ ยามเมื่อนึกถึงหน้าของผลิขวัญ... น้าสาวของเขา

******

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel