เสน่ห์ร้ายพ่อหม้ายจอมกวน

96.0K · จบแล้ว
Fishy สีชมพู
43
บท
15.0K
ยอดวิว
8.0
การให้คะแนน

บทย่อ

คำโปรย อยู่ ๆ ก็มีลูกแบบไม่ทันตั้งตัว แต่อย่าคิดนะว่าคนอย่างมาร์ตินจะยอมรับ ไม่รู้ไปท้องกับใครแล้วจะมาโยนให้เขารับ งานนี้เจ้าหล่อนจะได้เห็นดีจนต้องร้องขอชีวิตเลยเชียว แนะนำตัวละคร มาร์ติน อีแวนส์ เจ้าของบริษัทขนส่งรายใหญ่ อายุ 28 ปี "หึ..ลูกฉันหรือเปล่าก็ไม่รู้ พี่สาวเธอไปมั่วกับใครมาบ้าง เธอเองก็คงไม่ต่างจากพี่เธอหรอก " . " รู้แล้วครับ ว่ารักน้องมาร์ค แล้วไม่คิดจะรักแดดดี้น้องมาร์คบ้างเหรอครับ " หทัยภัทร ไชยยา น้ำหวาน อายุ 23 ปี "คุณมันใจร้าย ใจร้ายแม้กระทั้งกับเด็ก เด็กที่ขึ้นชื่อว่าลูกของคุณเอง" . "เราไม่ควรรักกันพี่ก็รู้ หวานเป็นน้องสาวของพี่ตาลนะคะ" ด.ช.มาร์คัส อีแวนส์ น้องมาร์ค อายุ 4 ปี "ฮื้อ ๆ แดะดี้ใจย้าย น้องมัคอยากจับบ้าน" " นี่รูปแกงป๊า นี่รูปจุนย่า นี่รูปแดะดี้ นี่รูปหวาง แล้วนี่ก็มัค หวางเป็นแม่ให้มัคได้ไหมจั๊บ มัคอยากมีแม่"

นิยายปัจจุบันประธานเลขาตลกเศรษฐีโรแมนติกพาลูกกหนี

ตอนที่ 1 (สองคนน้าหลาน)

ตอนที่ 1 (สองคนน้าหลาน)

"...น้ำหวาน คิดดูดี ๆ นะลูก ป้าน่ะหวังดีกับเราและเจ้ามาร์คนะ เรายังสาวยังสวยจะมาทนลำบากเลี้ยงหลานอยู่ทำไม พาเจ้ามาร์คมันไปหาพ่อมันเถอะ น้ำตาลมันบอกแล้วไม่ใช่เหรอว่าพ่อมันเป็นใคร"

"ค่ะป้า พี่ตาลเขียนจดหมายบอกไว้แล้วค่ะ"

"อืม..ถ้าอย่างนั้นเราก็พาเจ้ามาร์คไปหาพ่อมันเถอะนะ คิดซะว่าทำเพื่อหลานอยู่กับพ่อมันน่าจะสบายกว่าอยู่กับเราตอนนี้ อีกหน่อยถ้าเงินประกันชีวิตของแม่เราหมดลง เราจะทำอย่างไร งานการก็ไม่มีทำแล้ว เชื่อป้าเถอะน้ำหวาน ป้าหวังดีนะลูก..."

ฉันยืนมองหลานชายคนเดียวของฉัน และเป็นคนสุดท้ายในครอบครัวของฉันที่เหลืออยู่ ด.ช.มาร์คัส หรือน้องมาร์ค เป็นลูกของพี่สาวฉัน และเรามีกันสองคนพี่น้องพี่น้ำตาลทิ้งน้องมาร์คไว้ให้ฉันเป็นตัวแทนของเธอ และฉันก็รักหลานของฉันมาก น้องมาร์คกำลังนั่งเล่นชิงช้าที่ฉันผูกไว้ให้ที่ใต้ต้นไม้ใหญ่หน้าบ้าน ฉันไม่รู้ว่าฉันควรจะทำอย่างไรดี คำพูดของป้ามาลีลอยเข้ามาในหัวของฉัน ป้าข้างบ้านฉันน่ะ เธอมาพูดกับฉันเมื่อเช้า และฉันรู้ว่าเธอหวังดีกับฉันจริง ๆ แต่ฉันเหลือแค่น้องมาร์คเท่านั้น ฉันจะทำใจได้ไหมนะ ถ้าน้องมาร์คต้องแยกกับฉันจริง ๆ เพราะเราเหลือกันแค่สองคนแล้วจริง ๆ น้องมาร์คเป็นเหมือนตัวแทนของพี่สาวที่ฉันรัก และแม่ฉันเพิ่งเสียไปได้สามเดือนกว่า นี่ก็เพิ่งทำบุญร้อยวันแม่ไปเอง ฉันเองก็ต้องลาออกจากงานประจำเพื่อมาดูแลแม่ในตอนที่ท่านยังนอนป่วยอยู่ ตอนนี้ฉันก็เลยว่างงานไปอย่างไม่ต้องสงสัย เฮ้อ!! ฉันไม่ให้หรอก ฉันจะไม่ยอมให้น้องมาร์คไปอยู่กับใครเด็ดขาด ไม่ว่ายังไงฉันก็จะเลี้ยงหลานของฉันเอง ฉันว่าฉันทำได้ คอยดูสิ

แง๊ แง๊ แง๊

เสียงร้องของน้องมาร์คดังขึ้น ทำให้ฉันที่กำลังตกอยู่ในภวังค์ความคิดของตัวเองได้สติขึ้นมา ฉันรีบวิ่งไปหาหลานด้วยความตกใจ น้องมาร์คตกชิงช้าที่ฉันทำไว้ให้น่ะ ใจฉันสั่นไหวอย่างรุนแรงฉันกลัวจริง ๆ นะ

"น้องมาร์คลูก เจ็บไหมครับ ไหนให้หวานดูหน่อย " ฉันรีบจับหลานพลิกซ้ายพลิกขวาดูให้แน่ใจว่ามีตรงไหนบาดเจ็บหรือเปล่า

"ฮื้อ ๆ เจ็บจั๊บ มัคตกจิงจ้า ฮื้อ..." น้องมาร์คร้องไห้ สะอึกสะอื้นอย่างน่าสงสาร บอกกับฉันอย่างน่าสงสาร

"โอ๋ ๆ คนดีของหวานไม่เจ็บนะครับ หัวเข่าถลอกนิดเดียวเอง เดี๋ยวหวานทำแผลให้นะครับ ไปเข้าบ้านกันดีกว่า" ฉันพลิกตัวหลานดูจนแน่ใจแล้วว่า ผลพวงของการล้มเมื่อกี้มีแค่ลอยถลอกที่หัวเข่าเท่านั้น เฮ้อ!! ค่อยเบาใจหน่อย ถ้าหลานฉันเจ็บฉันต้องบ้าตายแน่ ๆ เลย

"จั๊บ..หวางมัคอิ๋วข้าวจั๊บ" อะไรกันเจ้าฝรั่งน้อยนี่ เมื่อกี้ยังร้องไห้อยู่เลย นี่มาบอกหิวข้างซะอย่างนั้น ฉันส่ายหน้าด้วยความเอ็นดู ก่อนจะอุ้มหลาน และเดินคุยกันเข้าไปในบ้าน

"ถ้าอย่างนั้น อาบน้ำทำแผลเสร็จแล้วมากินข้าวกันดีไหม หวานทำไข่ตุ๋นของโปรดใครน๊าา"

"ของโปรดมัคจั๊บ"

"ของโปรดน้องมาร์คจริง ๆ ด้วยถ้าอย่างนั้นน้องมาร์คต้องกินข้าวเยอะ ๆ นะครับรู้ไหม"

น้องมาร์คพยักหน้าตอบฉันแรง ๆ เด็กคนนี้ถ้าล่อด้วยของกินละก็หยุดร้องทันทีเลยล่ะ หลานฉันกินเก่งมาก แก้มนี้ยุ้ยเชียวล่ะ ฉันอยากจะขุนให้หลานเป็นหมูเลย แต่ทำยังไงได้ เด็กคนนี้มันหุ่นนายแบบ หล่อตั้งแต่เด็กเลยล่ะ พี่ตาลบอกว่าน้องมาร์คเหมือนพ่อของเขา ซึ่งฉันก็เห็นด้วยนะ หน้าตาน้องมาร์คออกไปทางฝรั่งเลยล่ะ ไม่เหมือนพี่ฉันเลยสักนิด

ฉันพาหลานเข้ามาอาบน้ำและทานข้าวเย็นเสร็จ ก็ถึงได้เวลาที่เด็ก ๆ จะต้องนอนแล้วล่ะ พรุ่งนี้น้องมาร์คต้องไปศูนย์เด็กเล็ก แถว ๆ บ้านนี่แหละ น้องมาร์ค 3 ขวบแล้วน่ะ อีกไม่เดือนก็จะขึ้นอนุบาลหนึ่ง โตขึ้นไปทุกวันเลยนะ

"หวาง..มัคไม่หยับเยย เล่านิทานให้ฟังโหน่ยน๊า"

"เรื่องเดียวนะ สัญญาก่อนว่าถ้าน้าเล่าจบน้องมาร์คต้องนอน พรุ่งนี้ต้องตื่นไปโรงเรียนแต่เช้าโอเคไหม"

"โอเชจั๊บ มัคจะนอนเยย"

เมื่อทำสัญญากันเป็นที่เรียบร้อย ฉันก็หยิบหนังสือนิทาน เรื่องลูกหมูสามตัวให้หลานฟัง นี่มันเรื่องโปรดของเขาเลยล่ะ เล่าไม่ถึงครึ่งเรื่องเจ้าคนที่ไม่ยอมจะนอนในตอนแรก ก็หลับสนิทซะแล้ว ฉันจึงเก็บหนังสือแล้วเดินออกไปตรวจดูหน้าต่างประตูให้เรียบร้อยอีกทีก่อนจะกลับเข้ามานอนกอดน้องมาร์คและหลับไปด้วยกัน