4 ตอนที่ 3 จุดเริ่มต้น
ย้อนกลับไปเมื่อ 10 ปีที่แล้ว
เมย์ หรือ พฤษา วรพงษ์ไพรวรรณ นักศึกษาชั้นปีสุดท้าย คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ สาขาการออกแบบภายใน มหาวิทยาลัย KK แถวย่านสะพานควาย หลังสอบโปรเจคเสร็จ เพื่อนๆ ในกลุ่มต่างนัดเลี้ยงฉลองการเรียนจบ
พร้อมกับที่เพื่อนๆ ของเธอนัดเลี้ยงวันคล้ายวันเกิดครบรอบ 21 ปี ของเธอ ซึ่งตรงกับวันที่ 1 พฤษภาคม
“พ่อค่ะ วันนี้หนูขอไปงานเลี้ยงเรียนจบกับเพื่อนๆ นะคะ” เมย์ เดินเข้ามาภายในห้องนั่งเล่นของบ้าน โดยในห้องนี้ไม่ได้มีเพียงพ่อของเธอที่นั่งอยู่เท่านั้น
“ได้สิ แต่อย่ากลับดึกนักล่ะ” พ่อของเธออนุญาตแต่ก็อดที่จะเป็นห่วงเธอไม่ได้
“คุณจะตามใจยัยเมย์ทำไมกันค่ะ เรียนจบแล้วก็ควรออกไปหางานทำ จะมาอยู่เป็นภาระครอบครัวทำไม” กันยนา แม่เลี้ยงของเธอที่นั่งอยู่ข้างสามี พูดประชดลูกเลี้ยงทันนี้ พร้อมกับมือที่บีบไปที่ต้นแขนของสามีตัวเอง
จากนั้น กันยนา ก็ชายตามองมายัง เมย์ ลูกเลี้ยงของเธอ
“ออกไปงานเลี้ยงก็ต้องใช้เงิน เธอจะมาขอเงินพ่อเธอเหมือนเมื่อก่อนไม่ได้แล้วนะ พ่อเธอต้องมีภาระดูแลน้องๆ อีกตั้ง 2 คน” เมย์ มองไปที่ กันยนา แม่เลี้ยง ที่เธอก็ดูออกว่า กันยนาไม่ได้รักเธอแล้ว เพราะเธอมีลูกๆ 2 คนที่ต้องรักมากกว่าลูกเลี้ยงอย่างเธอ
“คุณนา ... ให้ลูกมันไปเถอะ นานๆ ที ยัยเมย์จะได้ออกจากบ้าน และนี่ลูกก็เพิ่งจะเรียนจบเองนะ ส่วนเรื่องทำงานผมคิดว่ายัยเมย์สามารถหางานได้ไม่ยากอยู่แล้ว วันนี้ก็เป็นวันเกิดลูกด้วย ให้ลูกไปฉลองกับเพื่อนๆ บ้างเถอะ” ปราบยุทธ พ่อของเมย์หันไปกล่าวกับ กันยนา ภรรยาของตนเอง
จากนั้นเขาก็หันมาทางลูกสาว
“ไปเถอะลูก ดูแลตัวเองด้วยล่ะ และอย่างกลับดึกมากนัก” พ่อของเธออนุญาต และบอกให้เธอไปเลี้ยงฉลองได้
“มีเงินพอใช้หรือเปล่าล่ะเราน่ะ” พ่อของเธอถามขึ้น
“เรื่องเงิน เมย์พอมีอยู่ค่ะพ่อ ขอบคุณนะคะพ่อ แล้วเดี๋ยวหนูจะรีบกลับนะคะ ถ้างั้นหนูขอตัวเลยนะคะ” เมย์ ปฏิเสธที่จะรับเงินพ่อของเธอ พร้อมกับไหว้ขอบคุณที่พ่อของเธออนุญาตให้เธอได้ไปร่วมฉลองกับเพื่อนๆ ของเธอ
“ไปเถอะลูก” พ่อเธอโบกมือเพื่อบอกให้เธอไป
“หนูไปก่อนนะคะ”
แต่ก็ไม่วายที่กันยนาแม่เลี้ยงของเธอจะอดค่อนขอดเธอไม่ได้
“คุณน่ะก็ตามใจกันอย่างนี้ เดี๋ยวลูกก็เสียคนหรอกค่ะ ดูอย่างน้องๆ สิ กลับถึงบ้านก็เรียนพิเศษกัน ไม่เห็นต้องออกไปไหนเลย”
เมื่อย้อนกลับไปในตอนที่พ่อของเธอแต่งงานใหม่กับกันยนา แม่เลี้ยงของเธอ ตอนนั้นเธออายุได้ 5 ขวบ ส่วนแม่ของเธอเสียชีวิตไปแล้วประมาณ 2 ปีได้
หลังจากแต่งงานในช่วงแรกๆ แม่เลี้ยงของเธอก็ดูรักและเอ็นดูเธอเป็นอย่างมาก จนกระทั่งท่านมีลูกเป็นของตัวเอง ความรักความห่วงใยเริ่มลดลง และเมื่อลูกคนที่สองตามมา ความรักที่ลดลงนั้นก็เลือนหายไปจนหมด เหลือเพียงความว่างเปล่า
แต่ยังดีที่กันยนาแม่เลี้ยงของเธอไม่ได้ทำร้าย หรือตบตีเธอเหมือนในละครน้ำเน่า แต่ก็ไม่ได้ดูแลเธอเหมือนลูกแท้ๆ มีเพียงแค่ให้เธอได้อาศัยอยู่ในบ้านหลังนี้ ส่วนการส่งเสียเพื่อให้ได้ร่ำเรียนก็เป็นไปตามปกติที่พ่อของเธอพึงต้องทำ ดังนั้นเมย์จึงได้เรียนเฉพาะโรงเรียนของรัฐเท่านั้น ดีที่เธอเป็นเด็กฉลาด และเรียนรู้เร็ว
พูดง่ายๆ คือเธอเป็นเด็กเก่งคนหนึ่ง นั้นจึงทำให้เธอสามารถสอบเอ็นทรานซ์ติดมหาวิทยาลัยที่เป็น 1 ใน 10 มหาวิทยาลัยชั้นนำของประเทศได้ และเธอก็เรียนจบปริญญาตรีด้วยเกียรตินิยมอันดับหนึ่ง พร้อมกับได้รับทุนการศึกษาเพื่อศึกษาต่อปริญญาโทควบเอกที่ต่างประเทศด้วย แต่ตอนนี้เธอยังไม่ได้บอกพ่อของเธอ เพราะเธอก็กลัวว่าแม่เลี้ยงของเธอจะไม่ให้พ่อของเธอส่งเสียเธอเรียนต่อ
สำหรับน้องๆ ต่างแม่ของเธอที่เกิดจากแม่เลี้ยง มีน้องสาวที่เป็นลูกคนแรกของแม่เลี้ยง ในตอนนั้นเธออายุ 21 ปี น้องสาวของเธอ ห่างจากเธอ 6 ปี อายุ 15 ปี อยู่ ม. 4 ส่วนน้องชาย อายุ 12 ปี อยู่ ม.1 และทั้งคู่ก็ไม่ค่อยจะถูกกันกับเธอสักเท่าไหร่ เพราะกันยนามักจะสอนลูกๆ ของเธอว่าเธอไม่ใช่พี่สาวแท้ๆ ของพวกเขา ถึงแม้ทั้งสามคนจะมีพ่อคนเดียวกันก็ตาม
ในส่วนของธุรกิจที่บ้าน คุณพ่อของเธอทำการเปิดร้านขายอุปกรณ์ตกแต่งภายในบ้านขนาดกลางพอที่จะมีรายได้ในระดับกลาง ซึ่งมันเป็นน้ำพักน้ำแรงของพ่อและแม่ของเธอ ที่ร่วมกันสร้างมันขึ้นมา และสามารถที่จะเลี้ยงครอบครัวของเธอให้สุขสบายได้โดยไม่ขัดสน
แต่ตอนนี้ หลังจากที่พ่อของเธอแต่งงานกับกันยนาแม่เลี้ยง ได้ไม่นาน ประมาณ 5 ปีเห็นจะได้ เศรษฐกิจของประเทศที่กำลังประสบกับปัญหา ทำให้ยอดขายไม่ค่อยสู้ดี เสี่ยงขาดทุนในเกือบทุกเดือน เป็นผลทำให้แม่เลี้ยงของเธอเริ่มใช้อารมณ์กับเธอมากขึ้น แต่ยังไม่ถึงขั้นทำร้ายร่างกายของเธอ รวมทั้งจำกัดการใช้จ่ายของเธอด้วย
