ตอนที่ 4
วัชระไม่ต้องคิดหาทางอื่นเลยเพราะคุณนวลดักไว้หมดแล้ว สรุปก็คือตอนนี้ปลื้มเด็กที่ชื่อเกษราและต้องการให้แต่งงานด้วยให้ได้
"ฟังแม่นะวัช ความสวย รวยหรือความเก่งไม่สำคัญเท่าความดี หนูเกดเป็นคนดีเหมาะจะเป็นคู่ชีวิตของลูก เชื่อแม่แล้ววัชจะไม่ผิดหวัง"
"คนดี คิดดี ทำดี ครอบครัววัชจะมีแต่สิ่งดีๆ เข้ามา ถ้ามีลูก หนูเกดก็จะเป็นแม่ที่ดีของลูกวัช เป็นเมียที่ดีของวัชตลอดไป เชื่อแม่"
วัชระนิ่งพูดอะไรไม่ออกไปต่อไม่เป็นแล้วในตอนนี้ ส่วนคมกริชก็ได้มองหน้าพี่ชายและเอาใจช่วยอยู่ห่างๆ ขอบคุณการเรียนปริญญาโทที่จะต้องเดินทางในอีกไม่กี่วันข้างหน้านี้ ที่ทำให้ไม่ต้องถูกคุณนวลจัดการเรื่องหาเมียให้อีกคน
“ทำไมต้องเป็นผมเป็นนายกริชไม่ได้เหรอ” ชายหนุ่มโยนลูกไปให้น้องชายที่นั่งฟังอยู่ด้วย ทำเอาคมกริชถึงกับสะดุ้ง
“ไม่ได้ ยังไม่ถึงคิวนายกริช ตอนนี้แม่ต้องจัดการเรื่องหาเมียให้วัชก่อน เมื่อวัชเรียบร้อยแล้วต่อไปก็ต้องเป็นนายกริช ชีวิตนี้ไม่ขออะไรมากแค่เห็นลูกทั้งสองมีเมียดีมีครอบครัวอบอุ่นแค่นี้แม่ก็นอนตายตาหลับแล้ว”
“อีกอย่างนะลูก” คุณนวลดึงมือบุตรชายมานั่งข้างๆ
“ตากริชต้องไปเรียนต่ออีกหลายปี ถึงตอนนั้นวัชก็จะมีหลานให้แม่อุ้มและแม่จะได้มีเวลาเลือกผู้หญิงที่เหมาะกับน้อง”
“ผมยังไม่อยากแต่งงานตอนนี้ครับ” วัชระตัดสินใจพูดตามตรง
เขายังสนุกกับงาน
ไม่ซิ !! ไม่ใช่แค่งาน !!
ยังสนุกกับชีวิตโสดที่มีอิสระไร้ข้อผูกมัดใดๆ ทั้งสิ้น การได้รู้จักคนมากเป็นกำไรของชีวิต
ขืนแต่งงานตามคำสั่งก็เท่ากับว่าอิสระภาพที่หวงแหนหมดไปโดยสิ้นเชิง ผู้หญิงสำหรับนายวัชระคนนี้คือดอกไม้งามที่เลือกเชยชมได้อย่างไม่มีวันหมด
ข้อตกลงพิเศษที่มีกับสาวๆ ที่เข้ามาในชีวิตนั่นก็คือความโสดคือสิ่งที่หวงแหน เซ็กซ์คือความพึงพอใจของคนสองคน ใครก็ตามคิดจะเข้าหานายวัชระคนนี้
ถ้ารับได้เราสนุกกันแต่ถ้าไม่เชิญไปข้างหน้าเลย และคนอย่างเขาก็ไม่เคยต้องง้อใครเสียด้วย
“ผมว่าเรื่องนี้ยังไม่สำคัญเท่าไร รอนายกริชเรียนให้จบกลับมาช่วยงานจนเข้าที่เข้าทางค่อยคิดเรื่องแต่งงานก็ยังไม่สาย”
ว่าไปโน่น ...
ขืนรอให้วัชระแต่งงานตอนคมกริชเรียนจบและทำงานเข้าที่ตามที่พูด คุณนวลคงได้อุ้มหลานตอนถือไม้เท้าแน่
ไม่ได้การแล้ว ...
อย่างไรเสียนางต้องจัดการให้ทุกอย่างเสร็จสิ้นในคืนนี้ ให้จงได้...
“งั้นแม่ก็คงไม่มีโอกาสได้อุ้มหลานแล้ว” น้ำเสียงคุณนวลเศร้าลงทันที
“แม่ ทำไมพูดแบบนั้นล่ะครับ”
วัชระตกใจเมื่อเห็นมารดาตาแดงขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด คมกริชเองก็เช่นกันเขาไม่เคยเห็นคุณนวลมีท่าทางเหมือนเสียอกเสียใจอะไรขนาดนี้เลย
“คุณแม่ใจเย็นๆ ครับค่อยพูดกันดีกว่า” บุตรชายคนเล็กโอบกอดมารดาไว้
“อายุแม่มากขึ้นทุกวัน โรคประจำตัวก็มีอยู่หลายโรควันหนึ่งกินยาเป็นสิบเม็ด สิ่งเดียวที่แม่หวังตอนนี้คือ อยากเห็นลูกมีครอบครัวมีหลานให้อุ่นใจว่าตระกูลเรามีทายาท แต่ลูกกลับบอกว่ายังไม่อยากแต่งงาน หนำซ้ำยังบอกให้รอไปอีกกี่ปีก็ไม่รู้ แบบนี้แม่คงตายก่อนได้อุ้มหลานแน่” คุณนวลสะอื้นเบาๆ
“แม่” สองหนุ่มโผเข้ากอดมารดาพร้อมๆ กันด้วยความรู้สึกผิดที่ทำให้คุณนวลต้องสะเทือนใจ
“แม่รู้ว่าวัชไม่อยากแต่งงาน แต่เข้าใจแม่หน่อยซิลูก หัวอกคนเป็นแม่จะนอนตายตาหลับได้ไงถ้าลูกยังไม่เป็นฝั่งเป็นฝาให้สบายใจ กว่าตากริชจะเรียนจบกลับมาแม่จะมีชีวิตอยู่ต่ถึงวันนั้นหรือเปล่าก็ยังไม่รู้เลย”
“แม่”
ความรักและความกตัญญูกับคำว่าแม่ทำให้วัชระต้องคิดหนัก ใจหนึ่งอยากจะปฎิเสธให้สิ้นเรื่องสิ้นราวเพราะเขาไม่ใช่คนที่ทำอะไรแล้วฝืนใจตนเอง
แต่อีกใจหนึ่งก็คิดเป็นห่วงความรู้สึกของมารดา โรคที่คุณนวลเป็นอยู่แพทย์ประจำตัวเคยสั่งว่าห้ามมีเรื่องเครียด
และถ้าเกิดอะไรขึ้นเพราะการขัดคำสั่งในครั้งนี้ชายหนุ่มคงรับผิดชอบไม่ไหวแน่
