เล่ห์รัก กับดักลวง

76.0K · จบแล้ว
เฮียกังฟู
36
บท
1.0K
ยอดวิว
7.0
การให้คะแนน

บทย่อ

ความรักที่จริงใจแต่กลับซ่อนไว้ซึ่งกับดักลวง หญิงสาวผู้มอบกายถวายใจโดยไม่รู้ว่ารักครั้งนี้จะนำพาเธอไปสู่ ห้วงเสน่หาที่อันตราย เมื่อเขาต้องเลือกระหว่างไฟรักที่เผาผลาญ...กับการแก้แค้นที่ฝังลึกในอดีต หญิงสาวผู้มอบกายใจ...เพื่อบูชาแด่ความรักครั้งแรกและครั้งเดียวของเธอ โดยไม่รู้ว่ามันคือกับดักลวง ที่กักขังเธอไว้ในห้วงเสน่หาของเขาไปตลอดกาล ซึ่งมันจะนำพาเธอไปสู่หรือรอยแผลลึกที่หัวใจมิอาจลืมเลือน เมญาดา ทายาทสาวสวยของลูเซียโน นักธุรกิจและมาเฟียผู้ทรงอิทธิพล เธอได้ถูกกระชากกระเป๋าระหว่างเดินทางไปเที่ยว และได้รู้จักกับชัชชนน์ หนุ่มหล่อมาดขรึมผู้เข้ามาช่วยเหลือเธอราวกับอัศวินขี่ม้าขาว ทว่าเบื้องหลังความรักที่หวานซึ้งและความปรารถนาที่ก่อตัวกลับซ่อนไว้ด้วยปมแค้นที่รอวันสะสาง ชัชชนน์ วิศวกรหนุ่มหล่อ เจ้าของใบหน้าคมคายและรอยยิ้มที่ดูอบอุ่น ทว่าภายใต้เสน่ห์นั้นกลับซ่อนไว้ซึ่งทักษะการต่อสู้ที่ร้ายกาจ และเพลิงแค้นอันดำมืดที่คุกรุ่นในใจ เขาแทรกซึมเข้าสู่โลกของเมญาดาสาวสวยลูกครึ่งไทยอิตาลีจากความเสน่หาที่เธอมีให้ เมื่อความจริงปรากฏว่าเธอคือบุตรสาวของศัตรูคู่อาฆาต เขาก็กลายเป็นเงาที่คืบคลานเข้าใกล้เหยื่ออย่างเงียบเชียบโดยที่เธอไม่รู้ตัว เมญาดาหลงใหลในตัวชัชชนน์จนยากจะถอนตัว เธอมอบกายและใจให้เขาอย่างหมดสิ้น เพื่อพิสูจน์รักแท้ที่เธอเชื่อมั่น โดยหารู้ไม่ว่าทุกการกระทำของเธอ...กำลังนำพาไปสู่กับดักแห่งความลวงที่แสนอันตราย ในเกมแห่งการแก้แค้นที่ถักทอด้วยความรักและแรงดึงดูดอันเร่าร้อนที่ค่อยๆ ก่อตัวขึ้น จนกลายเป็นอุปสรรคขวางกั้นแผนการอันแยบยลของชัชชนน์ ความปรารถนาที่เคยเย็นเยียบเริ่มสั่นคลอน แผ่ซ่านและฝังรากลึกในหัวใจของเขาอย่างไม่อาจควบคุม เมญาดาตัดสินใจเปิดเผยความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับชัชชนน์ ให้บิดาได้รับรู้อย่างไม่หวาดหวั่น สร้างความไม่พอใจอย่างรุนแรงให้กับ ชลธิชา และ ลูเซียโน ผู้เป็นบิดา จนหญิงสาวถูกสั่งห้ามความรักนั้นอย่างเด็ดขาด ทว่าด้วยหัวใจที่อ่อนแอมาตั้งแต่เยาว์วัย อาการป่วยของเมญาดาก็กำเริบอย่างฉับพลัน เมื่อถูกกีดกันจากบิดาในเรื่องความรักอันแสนหวาน ร่างกายอันบอบบางทรุดลงอย่างกะทันหัน จนในที่สุด...ความรักและความเป็นห่วงบุตรสาวก็เอาชนะคำสั่งห้ามของลูเซียโนที่ต้องยอมอ่อนข้อให้เมญาดา โดยการอนุญาตให้เธอคบหากับชายหนุ่มที่กุมหัวใจของเธอไว้ จนกระทั่งทั้งสองเกือบจะได้แต่งงานกัน ทว่า...ท่ามกลางความรักที่เริ่มผลิบานนั้นเอง นริลญา หญิงสาวลึกลับผู้มีสายเลือดของลูเซียโน ก็ปรากฏกายขึ้น ราวกับเงาที่หวนคืนจากความมืดมิด เธอเข้ามาพัวพันในวังวนแห่งความลับในอดีตที่กำลังจะถูกเปิดเผย...ความลับที่เธอเองกุมชะตาชีวิตของใครหลายคนไว้ในมือ แต่ในขณะเดียวกัน ชลธิชา น้าสาวของเมญาดา ผู้ซ่อนความทะเยอทะยานอันมืดมิดไว้ภายใต้รอยยิ้มใจดี ก็กำลังถักทอแผนร้ายอย่างลับๆ ที่จะครอบครองทรัพย์สมบัติทั้งหมดของลูเซียโน โดยเธอคิดกำจัดทุกคนที่ขัดขวางหนทางสู่เป้าหมายนั้น เธอสั่งให้สมุนมือสังหารไล่ล่าชัชชนน์ อย่างโหดเหี้ยม พร้อมๆ กับการตามล่านริลญาอย่างไม่ลดละ หญิงสาวผู้กุมความลับอันดำมืดของเธอไว้ทั้งหมด... ด้วยสถานการณ์อันตรายที่คืบคลานเข้ามา ทั้งชัชชนน์และนริลญาต่างตกอยู่ในวงล้อมของการตามล่า พวกเขาจำต้องหลบหนีเข้าไปในป่าลึกอันรกเรี้ยวด้วยกัน...ที่ซึ่งความลับ ความแค้น และอันตรายจะพันธนาการพวกเขาไว้แน่นยิ่งกว่าเดิม ท่ามกลางอำนาจมืด...ชัชชนน์จะเลือกใช้ความรักหรือความแค้นเป็นแสงสว่างนำทาง...เมื่อสุดท้ายความจริงต่างหากที่ทำให้เขาเจ็บปวด ปมสวาทพันธนาการหัวใจเอาไว้แน่นหนา ความรักความแค้นพร้อมเผาผลาญ จนนำพาเขาไปสู่จุดแตกหัก ซึ่งเขาเองกำลังจะถูกทดสอบด้วยชีวิตและหัวใจ...ฝากติดตามกันด้วยนะครับ...

นิยายรักโรแมนติกนิยายรักประธานรักหวานๆเศรษฐีโรแมนติกการแต่งงานเจ้าเล่ห์

1 แรงใจจากแม่

กลิ่นหอมอ่อนๆ ของดอกมะลิในสวนหลังบ้านยามเช้าตรู่ มักเป็นสิ่งที่ชัชชนน์ ในวัยเยาว์จดจำได้ดีที่สุด ควบคู่ไปกับเสียงหัวเราะทุ้มนุ่มของบิดา ผู้เป็นทั้งเพื่อนเล่นและครูคนแรกในชีวิต แสงแดดยามเช้าสาดส่องลอดใบไม้ใหญ่ลงมากระทบผืนหญ้าสีเขียวสดใส ราวกับภาพวาดที่แสนสุข

แต่ความสุขนั้นช่างแสนสั้น ราวกับความฝันที่จางหายเมื่อแสงตะวันแรงกล้าขึ้น เสียงหัวเราะของพ่อค่อยๆ เลือนหายไป กลายเป็นความเงียบงันที่น่าหวาดหวั่น กลิ่นมะลิยังคงหอมหวน แต่กลับเคล้าคลอไปด้วยกลิ่นธูปจางๆ ที่ลอยมาจากมุมหนึ่งของบ้าน

ชัชชนน์ในวัยสิบขวบเขาจำได้เพียงลางๆ ถึงใบหน้าเศร้าสร้อยของแม่ ดวงตาแดงก่ำที่เต็มไปด้วยหยาดน้ำตา และเสียงกระซิบกระซาบของผู้ใหญ่ที่เขาจับใจความไม่ได้ รู้เพียงว่านับตั้งแต่วันนั้น โลกของเขาก็ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป รอยยิ้มของพ่อกลายเป็นเพียงภาพถ่ายที่ประดับอยู่กลางห้อง ความอบอุ่นที่เคยโอบล้อมกายมลายหายไปพร้อมกับร่างที่ไร้ลมหายใจ

คำว่า ‘อุบัติเหตุ’ ที่ผู้ใหญ่พร่ำบอก ราวกับบทเพลงกล่อมเด็กที่ฟังดูขัดหูสำหรับเด็กชายที่เริ่มเติบโตขึ้นทุกวัน ชัชชนน์สัมผัสได้ถึงความไม่ชอบมาพากล ความเงียบงันที่ปกคลุมบ้าน ความเศร้าลึกๆ ในดวงตาของแม่ มันบ่งบอกว่าเบื้องหลังการจากไปของพ่อ อาจมีบางสิ่งบางอย่างที่ถูกซ่อนไว้

เวลาล่วงเลยดั่งสายน้ำที่ไม่เคยไหลย้อนกลับ ชัชชนน์เติบโตเป็นหนุ่มหล่อคมคาย ดวงตาคู่คมนั้นฉายแววเด็ดเดี่ยวและเก็บซ่อนความเศร้าลึกๆ ไว้ภายใต้มาดนิ่งขรึม ความทรงจำเกี่ยวกับพ่อยังคงชัดเจน ราวกับเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวาน ความรักและความเคารพที่มีต่อผู้เป็นบิดา แปรเปลี่ยนเป็นความปรารถนาอันแรงกล้าที่จะสืบหาความจริง และทวงคืนความยุติธรรม

ในคืนหนึ่งที่แสงจันทร์ส่องสว่างเต็มดวง ชัชชนน์ยืนอยู่หน้าภาพถ่ายของพ่อ รอยยิ้มที่แสนอบอุ่นนั้นกลับกลายเป็นเครื่องย้ำเตือนถึงสิ่งที่เขาเสียไป นิ้วแกร่งค่อยๆ สัมผัสกรอบรูป ดวงตาฉายแววมุ่งมั่น

“พ่อครับ...ผมจะไปตามหาความจริงให้พ่อเองครับ ไม่ว่ามันจะยากเย็นแค่ไหนก็ตาม” เสียงทุ้มต่ำเอ่ยแผ่วเบา ราวกับคำมั่นสัญญาที่ให้ไว้กับเงาในอดีต

“แม่ครับ...ผมตัดสินใจแล้ว” ชัชชนน์ เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงหนักแน่น ขณะนั่งอยู่ตรงข้ามมารดาที่กำลังยืนรดน้ำต้นไม้ในกระถางเล็กๆ ริมหน้าต่าง แสงแดดยามเช้าสาดส่องใบหน้าซีดเซียวของท่าน

มารดาเงยหน้าขึ้น มองบุตรชายด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความรักและความกังวล

“ตัดสินใจอะไรลูก?”

“ผมจะไปทำงานที่อิตาลีครับแม่” ชัชชนน์ตอบอย่างแน่วแน่ มือที่กำลังรดน้ำชะงักไปเล็กน้อย มารดาวางบัวรดน้ำลงช้าๆ และจ้องมองใบหน้าของบุตรชายอย่างพิจารณา

“แต่มันไกลมากนะลูก แล้วเงินเดือนที่ได้ มันจะพอค่าใช้จ่ายเหรอ ลองมองงานอื่นแถวนี้ดีมั้ย?”

“ผมคิดมาดีแล้วครับแม่” ชัชชนน์พยายามตอบด้วยน้ำเสียงที่ราบเรียบที่สุด เพื่อปกปิดความรู้สึกที่แท้จริง มารดาลุกขึ้น เดินมานั่งข้างๆ บุตรชาย จับมือเขาไว้ด้วยมือที่เหี่ยวย่นตามวัย

“แม่รู้ว่าลูกคิดมาดีแล้ว...แต่แม่ก็อดห่วงไม่ได้” ชัชชนน์บีบมือมารดาเบาๆ

“ผมจะดูแลตัวเองอย่างดีครับแม่ ไปอยู่ที่นั่นเขามีบ้านพักให้ครับ ส่วนใหญ่ก็เป็นคนไทยเกือบทั้งหมด ผมจะตั้งใจทำงานเก็บเงิน แล้วก็รีบกลับมาหาแม่นะครับ”

“ชัช!!!..แกสัญญากับแม่แล้วนะ” มารดาเน้นเสียง ดวงตาเริ่มมีน้ำคลอ

“ครับแม่ ผมสัญญา” ชัชชนน์ตอบอย่างหนักแน่น

“อีกอย่าง...ที่นั่นอาจจะเป็นโอกาสให้ผมได้พบสืบหาความจริงเรื่องของคุณพ่อด้วย” เขาพูดเสียงเบาลงในประโยคหลัง มารดามองบุตรชายด้วยความสงสัย แววตาของท่านฉายความเศร้าออกมาเล็กน้อย

“นี่ลูกยังคิดถึงเรื่องนั้นอยู่อีกเหรอ” ชัชชนน์สบตากับมารดาอย่างจริงจัง

“ผมไม่อยากให้พ่อตายฟรีนะครับแม่” มารดาถอนหายใจออกมาอย่างหนักหน่วง

“แม่เข้าใจลูก...แต่ลูกต้องระมัดระวังตัวด้วยนะ อย่าให้ความแค้นมันบดบังทุกสิ่งทุกอย่างล่ะ”

“ผมจะจำคำแม่ไว้เสมอครับ” ชัชชนน์ตอบด้วยความเคารพ

รุ่งเช้าชัชชนน์ก็หอบหิ้วกระเป๋าเดินทางเพื่อมาลาคุณมารดาไปสนามบิน

“ผมไปนะครับแม่” ชัชชนน์ เอ่ยเสียงหนักแน่นอีกครั้ง พลางยกกระเป๋าเดินทางขึ้นถือมั่น ดวงตาของเขามุ่งมั่นแต่ก็ยังคงแฝงไว้ด้วยความอาลัย อรัญญาพยักหน้าช้าๆ น้ำตาคลอหน่วยแต่ก็พยายามที่จะฝืนยิ้ม ก่อนที่เสียงสั่นเครือของเธอจะเอ่ยขึ้น

“เดินทางปลอดภัยนะลูก...ทุกย่างก้าวของลูก แม่ขอให้มีแต่สิ่งดีๆ” เธอเดินเข้ามาใกล้ กุมมือลูกชายไว้แน่นอีกครั้ง

“อย่าลืมที่แม่บอกนะ ดูแลตัวเองให้ดีที่สุด” ชัชชนน์บีบมือมารดาเบาๆ

“ครับแม่ ผมจำได้ทุกคำ” เขาสูดลมหายใจลึก

“ผมจะตั้งใจทำงาน จะไม่ทำให้แม่ผิดหวัง และเมื่อไหร่ที่ผมมีเงินมีงานมั่นคง ผมจะรีบกลับมาเยี่ยมแม่บ่อยๆ นะครับ” เขาให้สัญญาด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง อรัญญาใช้มือลูบแก้มสากของลูกชายอย่างทะนุถนอม

“แม่ไม่เคยสงสัยในตัวลูกเลยชัชชนน์ แม่รู้ว่าลูกเป็นคนดีและมีความรับผิดชอบ แม่แค่...คิดถึงลูกตั้งแต่ยังไม่ทันได้จากไปด้วยซ้ำ” ชัชชนน์โอบกอดมารดาอีกครั้ง อ้อมกอดนี้อบอุ่นและคุ้นเคย เป็นพลังใจสำคัญที่เขาจะเก็บไว้ในใจตลอดการเดินทาง

“ผมก็คิดถึงแม่ครับ...” เขาผละออกจากอ้อมกอด มองใบหน้าของผู้หญิงที่เขารักและผูกพันมากที่สุดเป็นครั้งสุดท้าย

“แม่ไม่ต้องห่วงผมนะครับ ผมจะเข้มแข็ง และจะดูแลตัวเองให้ดีที่สุด” ชัชชนน์ย้ำอีกครั้งด้วยรอยยิ้มที่พยายามให้คลายความกังวลของมารดา อรัญญายิ้มตอบอย่างอ่อนโยน แม้ดวงตาจะยังคงแดงก่ำ

“แม่จะรอวันนั้นนะลูก...วันที่ลูกกลับมา”

ชัชชนน์พยักหน้ารับคำ มองมารดาด้วยความเคารพรัก เขาก้มลงกราบลามารดาอย่างนอบน้อม ก่อนจะลุกขึ้นหันหลังเดินลากกระเป๋าเดินทางออกจากบ้านหลังเล็กไปสู่โลกกว้างใหญ่ สนามบินอยู่ไม่ไกล ความหวังและความมุ่งมั่นที่จะค้นหาความจริงเกี่ยวกับอดีตของบิดาในกรุงมิลานเป็นแรงผลักดันให้เขาก้าวเดินต่อไป แม้ในใจจะยังคงมีความอาลัยต่อผู้เป็นแม่ก็ตาม

บนเครื่องบินที่กำลังทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้า ชัชชนน์มองออกไปนอกหน้าต่าง แสงไฟระยิบระยับของเมืองไทยค่อยๆ เล็กลงจนกลายเป็นเพียงจุดเล็กๆ ในความมืดมิด ความรู้สึกหลากหลายถาโถมเข้ามา ทั้งความหวัง ความกังวล และความมุ่งมั่นอันแรงกล้าที่จะเผชิญหน้ากับอดีตที่ตามหลอน และค้นหาความจริงที่ถูกซ่อนไว้ภายใต้เมืองหลวงแห่งศีลธรรม