ตอนที่2 ไม่ใช่หัวขโมย
คลับหรู
“แกลืมมือถือใช่ไหม”
พริกแกงเห็นต้นหลิวเดินมาที่จุดนัดพบก็รีบดึงมือเพื่อนเธอเข้ามาที่มุมมืดของร้านทันที พริกแกงเข้านอกออกในที่นี่บ่อยเธอจึงรู้แทบทุกซอกทุกมุม
“แกรู้ได้ไง”
ต้นหลิวแปลกใจเล็กน้อยที่เพื่อนเธอรู้ว่าเธอลืมมือถือ ตัวเธอเองยังรู้ตัวเมื่อถึงที่นี่แล้วเลย
“ก็ฉันโทรหาแกแล้วยัยต้นรักรับน่ะสิ แถมบอกจะรีบเอามือถือมาให้แกอีก”
“อ้าวอย่างนั้นก็ซวยน่ะสิ ยัยต้นรักก็ต้องสงสัยแน่เลย”
ต้นหลิวเริ่มมีสีหน้าตระหนก หากต้นรักรู้ว่าเธอไม่ได้มาทำงานที่นี่อย่างที่บอก เรื่องนี้เธอจะต้องทะเลาะกับต้นรักใหญ่โตแน่
“งั้นแกก็ต้องรีบเลยก่อนที่ยัยต้นรักจะมา ฉันมองไว้ให้แกแล้วว่าเหยื่ออยู่ตรงไหน น่าจะมีเงินเพราะดื่มแต่ของแพงๆ”
พริกแกงเห็นทีจะต้องให้ต้นหลิวนั้นรีบลงมืออย่างรวดเร็วก่อนที่ต้นรักนั้นจะมาที่นี่ เธอลอบมองเหยื่อไว้หลายคนเห็นจะเป็นพ่อฝรั่งตาน้ำข้าวคนนั้นที่นั่งอยู่คนเดียวน่าจะเข้าถึงง่ายที่สุด
“ฝรั่งคนนั้นอะนะ”
ต้นหลิวมองไปตามที่เพื่อนของเธอชี้เธอเห็นว่าเขานั้นนั่งดื่มอยู่คนเดียว แต่งตัวก็ธรรมดาคงจะเป็นการง่ายต่อการที่เธอจะปลดทรัพย์
“ใช่แก ฉันเห็นนั่งเซ่ออยู่คนเดียวตั้งนานแล้ว ดื่มหนักด้วยคงจะไม่ค่อยระวังตัว”
พริกแกงคิดไปเองว่าฝรั่งคนนี้น่าจะไม่ค่อยระวังตัวเท่าไรเพราะดื่มหนักแล้วจากที่เธอคอยสังเกต
“ขอให้เซ่อจริงอย่างที่แกว่าก็แล้วกัน ฉันไปล่ะนะ”
ต้นหลิวอมยิ้มกรุ้มกริ่ม มองเหยื่อด้วยสายตาเจ้าเล่ห์ หวังว่างานนี้มันจะผ่านไปด้วยดี เธอจะได้มีเงินไปจ่ายค่ารักษาแม่ของเธอ
“เดี๋ยวฉันจะรออยู่ทางนี้ ถ้ามีอะไรแกก็วิ่งมาทางฉันก็แล้วกันข้างหลังเป็นลานจอดรถ”
“โอเค”
ทั้งสองนัดแนะทางหนีทีไล่กันอย่างดิบอย่างดีก่อนที่ต้นหลิวจะเดินเข้าไปจัดการตามแผน
เบนจามินนั่งดื่มในร้านของเพื่อนเขาอย่างสบายอารมณ์ ถึงจะดื่มไปมากแต่คนคอแข็งอย่างเขาก็ไม่ได้รู้สึกว่าจะเมาเลยสักนิด ยังมีสติอยู่เสมอ
พลันสายตาชายหนุ่มมองไปเห็นหญิงสาวที่ทำท่าจะเดินมาทางเขา แถมยังส่งยิ้มมาให้เขาอย่างหยาดเยิ้ม เขาเลยยิ้มตอบอัตโนมัติโดยที่ไม่รู้ตัว
“เฮ้อ...สู้”
ต้นหลิวกล้าๆกลัวๆเพราะนี่เป็นงานแรกของเธอที่จะต้องทำอะไรแบบนี้ เมื่อเห็นเหยื่อตกหลุมพรางแล้วเธอก็ทำทีเดินไปใกล้ๆดึงมือให้เขามาเต้นด้วย
เบนจามินเองก็ไม่ได้ขัดเมื่อแม่สาวคนสวยจะชวนเขาไปสนุกด้วย ถึงเธอจะไม่ได้สูงยาวเขาดีแบบพริตตี้ในร้าน แต่ร่างเล็กๆของเธอก็ยั่วยวนใจของเขาได้เป็นอย่างดี อีกทั้งใบหน้าสวยหวานที่ยิ้มให้ตลอดนั่นอีก ทำให้เบนจามินเริ่มหลงไหลคล้อยตามความต้องการของหญิงสาวไปได้ง่าย
ต้นหลิวกระหยิ่มอยู่ในใจที่ชายหนุ่มไม่ได้มีทีท่าปฏิเสธ เธอค่อยๆพาเขาเดินมายังกลุ่มคนที่ค่อนข้างเยอะและแออัด พร้อมเข้าประชิดตัวชายหนุ่มให้มากที่สุด พลันสายตาสังเกตเห็นแล้วว่ากระเป๋าเงินของเขาอยู่ตรงไหน จากนั้นก็ใช้ความมือไวหยิบอกมาอย่างง่ายดาย พร้อมหายเข้ากลีบเมฆปล่อยให้ชายหนุ่มยืนงงอยู่คนเดียว เธออาศัยความตัวเล็กของเธอฝ่ามุมมืดเข้ามายังจุดที่นัดกับเพื่อนเธอเอาไว้ทันที
“เป็นไงบ้างแก”
พริกแกงที่ยืนรอรับหญิงสาวที่ลานจอดรถเห็นเพื่อนเธอวิ่งหน้าตาตื่นเข้ามาจึงถามว่างานสำเร็จหรือไม่
“นี่ไง...ง่ายกว่าที่คิดเหมือนกันนะ”
ต้นหลิวโชว์กระเป๋าหนังใบหรูให้เพื่อนเธอดู ไม่คิดว่าเธอจะทำได้ง่ายขนาดนี้แต่ก็แอบสงสารผู้ชายคนนั้นอยู่เหมือนกัน
“หนอย...ยัยตัวแสบเล่นผิดคนซะแล้ว”
เบนจามินละสายตาครู่เดียวหญิงสาวก็หายไปแล้ว การกระทำของเธอทำให้เขาค่อนข้างแปลกใจเล็กน้อย พลันใช้ความตัวสูงของเขามองหาจนทั่วก็ไม่มี นึกเอะใจจึงรีบสำรวจตัวเองก็ปรากฏว่าเป็นอย่างที่คิด เขาโดนแม่สาวหน้าหวานขโมยกระเป๋าเงินไปเรียบร้อยแล้ว คิดไปคิดมาไม่น่าหลงเสน่ห์เธอตั้งแต่คราแรกเลย นั่งดื่มคนเดียวอยู่ดีๆก็ดีอยู่แล้ว
กระเป๋าเงินเขาไม่เสียดายสักนิด เพราะในนั้นมีแต่บัตรเครดิตที่อายัดเอาก็ได้ เขานึกเจ็บใจมากกว่า คิดในใจว่าอย่าให้เขาจับเธอได้จะลงโทษซะให้เข็ด พร้อมเดินออกจากร้านอย่างไม่สบอารมณ์โดยไม่มีใครทัดทานที่ไม่ได้จ่ายเงิน เพราะคนในร้านรู้ดีว่าเขาเป็นใคร
ทางด้านต้นรัก
“เดี๋ยวผมจอดให้คุณลงด้านหน้าแล้วขับรถไปรับคุณกลับที่ลานจอดด้านหลังนะครับ”
คาวีขับรถพาหญิงสาวมาส่งที่หน้าคลับด้วยความเป็นห่วงเขาคิดว่าควรจะรอรับเธอกลับเลยจะดีกว่า
“คุณหมอกลับเลยก็ได้ค่ะ ฉันกลับเองได้ค่ะ”
ต้นรักค่อนข้างเกรงใจหมอหนุ่มอยู่มาก แค่มาส่งเธอก็พอแล้ว เรื่องกลับเธอกลับเองได้เพราะที่นี่มันไม่ได้ไกลจากโรงพยาบาลมากนัก
“ไม่เป็นไรครับผมเป็นห่วง กลัวว่าคุณจะเป็นอันตราย”
คาวียังยืนยันคำเดิมว่าเขาจะรอ
“งั้นขอบคุณนะคะ เดี๋ยวฉันจะรีบไปรีบมาค่ะ”
ด้วยความที่ขี้เกียจต่อล้อต่อเถียง ต้นรักจึงจำใจให้ชายหนุ่มรอแล้วเธอจะได้รีบเข้าไปด้านใน
เบนจามินเดินออกมาด้านหน้าเพื่อที่จะเตรียมตัวกลับ เรื่องหัวขโมยเดี๋ยวเขาสั่งให้ลูกน้องของเขาจัดการ คงจะใช้เวลาไม่นาน
“อยู่นี่นี่เองแม่ตัวดี”
เมื่อเดินมาถึงที่จอดรถวีไอพีด้านหน้าคลับเขาก็อมยิ้มกริ่ม เพราะเห็นแม่สาวตัวดีที่ขโมยของของเขาไป จึงรีบเดินไปกระชากแขนหญิงสาวเอาไว้ ไม่คิดว่าเธอยังจะอยู่ให้เขาจับได้แบบนี้ แต่ก็ดีจะได้ไม่ต้องเสียเวลาให้ลูกน้องตามหา
“เดี๋ยวค่ะ คุณจะพาฉันไปไหนคะ ปล่อยฉันนะ”
ต้นรักถึงกับหน้าเสียตื่นตระหนก อยู่ดีๆมีฝรั่งตาน้ำข้าวเข้ามากระชากแขนเธอให้ตามเขาไปดื้อๆ
“แม่หัวขโมย ฉันไม่ปล่อยเธอไปง่ายๆหรอก”
เบนจามินนึกหมั่นไส้หญิงสาวที่ทำหน้าซื่อได้อย่างแนบเนียน ทำเป็นไม่รู้เรื่อง ตอนอยู่ในร้านยังส่งยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ให้เขาอยู่เลย
“ขโมยอะไรคะ คุณเข้าใจผิดแล้วค่ะ”
ต้นรักยิ่งไม่เข้าใจในคำที่ชายหนุ่มพูดเข้าไปใหญ่ เธอพึ่งจะมาที่นี่ จะไปขโมยของของเขาได้อย่างไรกัน ทั้งพยายามแกะมือของเขาออกจากแขนเธอ แต่ก็ไม่ได้เป็นผลสำเร็จเพราะว่าตัวของเขาใหญ่กว่าเธอตั้งหลายเท่า ดูจากขนาดมือของเขาก็น่าจะสามารถหักคอเธอได้อย่างง่ายดายเลยทีเดียว
“เปลี่ยนชุดเร็วดีนี่ สงสัยจะทำเป็นอาชีพทำมากี่ครั้งแล้วล่ะ หากินสุจริตมันยากนักหรือไง” เบนจามินพูดเย้ยหยันหญิงสาวที่ตีหน้าซื่อเสียงแข็ง
“อะไรของคุณ นี่ปล่อยฉันนะ บอกให้ปล่อยไง”
เบนจามินลากหญิงสาวมายังรถสปอร์ตคันหรูของเขาพร้อมเปิดประตูด้านคนขับ เหวี่ยงหญิงสาวเข้าไปนั่งข้างเบาะคนขับพร้อมสตาร์ทรถและออกตัวไปทันที
ต้นรักกลัวจนน้ำตาร่วง ตัวเธอสั่นเป็นลูกนกที่จู่ๆมีคนบ้าที่ไหนมากล่าวหาเธอเป็นหัวขโมย ทั้งยังจะพาเธอไปที่ไหนก็ไม่รู้ด้วย ความเร็วที่ชายหนุ่มใช้ในการขับรถทำให้หญิงสาวต้องนั่งหลับตาปี๋ตัวเกร็งไปตลอดทาง อีกทั้งเธอยังร้องให้สะอื้นไม่หยุด เพราะไม่รู้ว่าจะหนีจากชายหนุ่มคนนี้ไปอย่างไร
