บท
ตั้งค่า

บทนำ-2

ณ สถานีตำรวจภูธรอำเภอเมือง...

ชายกลางคนร่างสันทัดในชุดสีกากีประดับยศพันตำรวจเอกเดินออกมาจากห้องทำงานด้วยสีหน้าแน่วนิ่งสุขุม สร้างความน่าศรัทธาให้แก่ประชนชนผู้พบเห็น ซึ่งบางคนที่รู้จักก็จะยกมือไหว้และทักทายด้วยความเคารพ

นายตำรวจตำแหน่งผู้กำกับการหยุดพูดคุยกับเจ้าหน้าที่นายหนึ่งที่เดินผ่าน เที่ยงวันนี้มีประชาชนมาแจ้งความน้อยกว่าวันก่อนๆ นั่นเป็นนิมิตหมายที่ดีว่าในเขตพื้นที่ความรับผิดชอบกำลังปลอดโจรผู้ร้ายและปราศจากคดีความ หัวใจของผู้พิทักษ์สันติราษฎร์จะมีอะไรน่าภูมิใจไปกว่าการเห็นบ้านเมืองสงบสุข

พันตำรวจเอกแสนกำลังจะลงไปทานมื้อเที่ยงที่ร้านข้างทางขาประจำ สังหรณ์ใจแปลกๆ ตั้งแต่เช้าว่าจะเกิดเรื่องอะไรขึ้น ตอนบ่ายมีประชุมกับท่านรองผู้บังคับการเกี่ยวกับความคืบหน้าของปฏิบัติการกวาดล้างยาเสพติด

ไม่กี่วันมานี้เพิ่งมีแถลงการณ์จับกุมเอเย่นต์ในอำเภอเมืองได้ จากการสอบสวนขยายผลได้ว่าน่าจะเกี่ยวข้องกับขบวนการของเสี่ยธีร์ แต่จากการสอบถามผู้ต้องหาไม่มีใครทราบหรือเคยเห็นตัวจริงของเขา นั่นเองเป็นที่สิ่งทางการตำรวจกำลังเร่งสืบหาอยู่

ขากลับจากทานข้าว บังเอิญพบกับรองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด ที่เป็นถึงอดีตหัวหน้าพรรคการเมืองหนุ่มไฟแรง เนื่องจากที่ทำการฯ ดังกล่าวอยู่เยื้องกับสถานีตำรวจ

อดีตนักการเมืองท้องถิ่นรายนี้ยังหนุ่มแน่น วัยสามสิบปลายๆ รูปร่างสะโอดสะองเหมือนตัวพระในวรรณคดี หน้าตาผิวพรรณสะอาดสะอ้านแลสำอาง ทั้งรูปหล่อและการศึกษาดีจนเป็นที่หมายปองของสาวๆ ทั่วทั้งจังหวัด

ทั้งคู่รู้จักกันมานานและค่อนข้างจะพบเจอกันบ่อย ชายหนุ่มเป็นคนยิ้มแย้มแจ่มใส อัธยาศัยดี มีมนุษย์สัมพันธ์และอ่อนน้อมถ่อมตน

อาเขต ทะนงพิทักษ์ บุตรชายอดีตรัฐมนตรีรายนี้ยกมือไหว้ทักทายนายตำรวจใหญ่อย่างมีสัมมาคารวะ ด้านคนอาวุโสกว่าก็รับไหว้ด้วยสีหน้าสุขุม

พันตำรวจเอกแสนนั้นยกย่องในความสามารถและความทุ่มเทของข้าราชการรายนี้ ดูได้จากผลงานที่ผ่านมาในการบริหารและพัฒนาพื้นที่ ผลงานจากอดีตของพรรคที่สนับสนุนและให้ความร่วมมือกับภาคตำรวจในการกวาดล้างยาเสพติดให้หมดสิ้นไปจากชุมชน

และไม่เพียงแค่คนในพื้นที่ อาเขตยังเป็นที่รู้จักของคนทั่วทั้งประเทศ เพราะเคยเป็นพรีเซนเตอร์ประชาสัมพันธ์โครงการต่อต้านยาเสพติดให้กับรัฐบาล

“วันก่อนผมเห็นข่าวที่ท่านนำกำลังไปจับกุมกลุ่มเอเย่นต์ที่มาปิดรีสอร์ต กินเลี้ยงกันนอกเมือง เห็นว่าปะทะกันด้วย ผมล่ะเป็นห่วงจริงๆ เลยครับ นับวันจะยิ่งระบาดหนัก แถมเข้ามาในพื้นที่เราด้วย”

อดีตนักการเมืองหนุ่มเอ่ยอย่างชวนคุย รอยยิ้มหยักที่เผยถึงความจริงใจบ่งชัดบนใบหน้า ด้านพันตำรวจเอกแสนเองก็อยากคุยเรื่องนี้อยู่เหมือนกัน ใบหน้าเข้มมีริ้วรอยตามวัยและประสบการณ์เครียดลงเมื่อเอ่ยถึงประเด็นดังกล่าว

“อืม ผมก็กังวลอยู่ พวกนี้ต้องจัดการขุดรากถอนโคนให้สิ้นซาก ตอนนี้ก็ทราบแต่ว่าเป็นขบวนการของเสี่ยธีร์ นี่ก็พยายามเร่งหาเบาะแสอยู่ว่าเป็นใครอยู่ที่ไหน” พันตำรวจเอกแสนบอกกล่าวไปตามที่เคยให้ข่าวกับสื่อ สังเกตว่าอาเขตสะดุดเล็กน้อยหลังได้ยินเขาเอ่ยถึงชื่อตัวการ

“คุณเขตรู้จักมั้ย เสี่ยธีร์อะไรนี่?” ที่ถามเพราะรู้ว่าเขาก็ติดตามความเคลื่อนไหวของขบวนการพวกนี้อยู่ หากรองนายกอบจ. หนุ่มส่ายหน้าปฏิเสธ

“ไม่รู้หรอกครับ แค่กำลังนึกอยู่ว่าเคยได้ยินชื่อที่ไหนมาก่อนรึเปล่า แต่เหมือนจะไม่เคยนะครับ...เอาเป็นว่าถ้าผมได้ข่าวหรือมีความคืบหน้ายังไงจะรีบแจ้งให้ทราบ และถ้าท่านมีอะไรจะให้ช่วยก็บอกผมได้เลยนะครับ ทางผมยินดีให้ความร่วมมือเต็มที่” อาเขตยิ้มกว้างแสดงความมีน้ำใจ

ด้านพันตำรวจเอกแสนเมื่อได้ยินเช่นนี้ก็เอ่ยขอบคุณ ทราบดีอยู่แล้วเพราะเขาให้การสนับสนุนเรื่องนี้มาโดยตลอด

พอจบจากประเด็นดังกล่าว อาเขตก็ไม่ลืมถามไถ่ถึงทุกข์สุขของคนในครอบครัวท่านผู้กำกับฯ ตามประสาคนมีอัธยาศัย โดยเฉพาะกับช้องนางที่เคยเจอกันหลายครั้ง จากการพูดคุยกันในครั้งก่อนทำให้ทราบว่านางกำลังทำธุรกิจเครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์ลดความอ้วนกับบรรดากลุ่มสมาคมภรรยาตำรวจอยู่

“คุณช้องสบายดีนะครับ?”

“ก็สบายดีครับ ตามเรื่องตามราวของเขานั่นล่ะ” พันตำรวจเอกแสนลงท้ายห้วนๆ ตามบุคลิกที่ทราบกันดีว่าเป็นคนโผงผางตรงไปตรงมา อาเขตได้ยินดังนั้นก็เผยยิ้ม พยักหน้ารับพร้อมกับเอ่ยสนทนาต่อ

“ครับ พอดีคราวก่อนผมเจอคุณช้องตอนยืนรอลูกสาวอยู่หน้าร้านกาแฟฝั่งตรงข้ามเลยแวะคุยกัน เห็นบอกว่าคนเล็กนี่จะเรียนจบปีหน้าแล้ว แถมล่าสุดยังไปคว้าตำแหน่งจากเวทีระดับภาคมาอีก ดูท่าคุณช้องเธอจะภูมิใจน่าดูเลยนะครับ”

“ก็ธรรมดาของคนชอบอวดลูกน่ะ อย่างว่า ฉัตรกับแม่เขาสนิทกัน ตัวผมน่ะไม่ค่อยจะอะไรหรอก แค่อยากให้เรียนจบมามีงานมีการที่มั่นคงทำก็พอ”

คนเป็นพ่อเปรยตามอุปนิสัยเรียบง่าย หากอาเขตเห็นแล้วก็ขำนิดๆ ดูแล้วสองสามีภรรยาช่างมีความคิดและการแสดงออกต่างกันเหลือเกิน

“น้องฉัตรเขาทั้งสวยทั้งเก่งแบบนี้อนาคตไกลแน่นอนครับ เสียดายผมไม่เคยได้เจอตัวจริงสักที ตอนนั้นคุณช้องชวนให้อยู่รอแต่พอดีผมมีธุระต่อเลยได้เห็นแต่รูปในมือถือ จะว่าไปนี่ก็สวยเหมือนคุณช้องเลยนะครับ” อาเขตเอ่ยชม ฝ่ายคนเป็นพ่อแทนที่ได้ยินคนอื่นเอ่ยชมบุตรสาวจะยิ้มรื่น กลับทำหน้าเหมือนหนักใจแทน

“รายนั้นผมไม่ห่วงหรอกเรื่องเรียน แต่ห่วงไอ้เรื่องนิสัยเอาแต่ใจมากกว่า ถูกแม่เขาตามใจจนเคยตัว” พูดพลางถอนใจพรืด จังหวะนั้นเห็นมีเจ้าหน้าที่เดินขึ้นลงโรงพักเป็นระยะ หากท่านผู้กำกับฯ ก็ยังคงให้ความสนใจกับคู่สนทนาต่อ

อาเขตได้ยินก็เผยยิ้มนิดๆ อย่างเห็นใจ แต่โดยส่วนตัวเห็นว่าคงเป็นธรรมดาของหญิงสาววัยนี้ที่มักจะมีความเชื่อมั่นในตัวเองสูง ชายหนุ่มมองสีหน้าหนักใจของคนอาวุโสแล้วเห็นว่าสมควรจะเปลี่ยนเรื่องพูด

“เอ่อ แล้วน้องช่อล่ะครับ เห็นคราวก่อนว่าได้งานทำแล้ว เอ บริษัทเครื่องใช้ไฟฟ้าแถวอโศกที่ท่านพูดถึงนี่ใช่บริษัท เอ็น วาย อิเล็กทริกรึเปล่าครับ?”

“อ่า เหมือนคุ้นๆ ว่าจะใช่นะ ช่อเขาเคยบอกผมอยู่ ทำไมรึคุณเขต?”

“อ๋อ ถ้าอย่างนั้นก็บังเอิญน่ะครับ บริษัทนั้นเป็นของเพื่อนผมเอง แบบนี้ถ้ามีอะไรให้ผมช่วยก็บอกได้เลยไม่ต้องเกรงใจ” ชายหนุ่มออกปาก

ตลอดเวลาที่สนทนานั้น เขายิ้มไปด้วยพร้อมกับแววตาที่เป็นประกายเหมือนเด็กหนุ่มมากกว่าจะเหมือนผู้ชายวัยสามสิบปลายๆ

ท่านผู้กำกับฯ ยิ้มอย่างแบ่งรับแบ่งสู้ ด้วยลำพังตนนั้นไม่ปลื้มนโยบายเส้นสายสักเท่าไหร่ ซึ่งนิสัยดังกล่าวเห็นทีช่ออัญชันจะได้รับจากพ่อไปเต็มๆ ผิดกับคนน้องที่ได้ไปเฉพาะความหยิ่งทะนงและมุ่งมั่น จะไปเสียก็ตรงที่ถูกเลี้ยงดูมาแบบตามใจ จึงทำให้กลายเป็นคนทะเยอทะยานและชอบเอาชนะ ยังดีที่คนเป็นพี่ไม่ค่อยจะสู้รบปรบมือด้วย ถึงได้ไม่ทะเลาะเบาะแว้งกันจนกลายเป็นปัญหาเหมือนครอบครัวอื่น

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel