บท
ตั้งค่า

บทที่ 2

มือที่ยื่นปึกเอกสารส่งให้กับ ‘นายท่าน’ ของคฤหาสน์แอนเดอร์สันค่อนข้างสั่น นัยน์ตาของชายชรามองดู คนตรงหน้าอย่างบูชา ปะปนไปด้วยความหวาดเกรง ระยะหลังตั้งแต่มีเรื่อง นายท่านก็แทบจะไม่ยิ้ม และทำตัวลึกลับน่าหวาดกลัวมากไปทุกที

“ผู้ช่วยคนใหม่หรือ?”

นัยน์ตาสีฟ้าจัดกวาดมองตามเอกสารที่กอร์ดอนส่งให้ ค่อยอ่านอย่างละเอียด ภาพที่แนบมาทำให้เขากลืนน้ำลาย หัวคิ้วขมวดมุ่นเข้าหากัน ก่อนจะลอบมองหน้าของพ่อบ้านชรา ที่เขาไหว้วานให้ทำธุระจัดหาผู้ช่วยให้

“อืม...ตกลงมาเริ่มงานเมื่อไหร่ ผู้ช่วยที่ว่านี่ คงจะไม่เผ่นไปเหมือนคนก่อนๆ อีกนะ เพราะทนฉันกับยัยหนูไม่ไหว”

“โอ...คงจะไม่หรอกครับ”

พ่อบ้านกอร์ดอนรีบพูดอย่างจะเอาใจเจ้านาย ที่เพียงแค่ยิ้มน้อยๆ ใบหน้าหล่อเหลาคมคายนั้นกลับดูน่ากลัวและลึกลับ เมื่อเจ้าของไม่ใคร่จะยิ้มแย้ม ยิ้มแต่ล่ะหนของเขาคล้ายกับเหยียดหยันอะไรมากกว่ายิ้มที่มาจากใจจริงๆ

“เธอเป็นนางพยาบาลเก่าด้วยน่ะครับ เคยทำงานเป็นผู้ช่วยในโรงพยาบาลของรัฐมา เคยเป็นแนนนี่ด้วย แล้วก็เคยทำงานเลขานุการ ครบครันแบบนี้ผมคิดว่าคงจะเหมาะกับการทำงานกับนายท่านเป็นแน่”

“ฉันจะคอยดูว่าหล่อนจะทำงานกับฉันได้ไหม จะรับมือกับยัยหนูไหวแค่ไหน ฉันคิดว่ามันคงจะคุ้มกับค่าจ้างทุกเพนนีที่ต้องเสียไปหนนี้ ไม่เหมือนคราวก่อนนะ เกรแฮม”

มิสเตอร์กอร์ดอนรีบเอ่ยรับปากมั่นเหมาะ ว่าหนนี้เขาเลือกดีแล้วจริงๆ รับรองว่าจะไม่ทำให้นายท่านที่เขารักและบูชาอารมณ์เสีย

มือหนาโบกไล่พ่อบ้านเก่าแก่เมื่อหมดธุระ เขาก้มลงมองภาพของหญิงสาวที่มาทำตำแหน่งงานผู้ช่วยอีกหน กอร์ดอนรู้หรือว่าแกล้งไม่รู้กันแน่นะ ว่าเจ้าหล่อนช่างละม้ายคล้ายกับ...

ใบหน้าเรียวได้รูป นัยน์ตาสีน้ำตาลเข้มมองจ้องตอบกล้องเป็นแววตาของคนมั่นใจในตัวเองสูง จมูกเป็นสัน ริมฝีปากหยักสวย เมคอัพไว้เพียงบางเบาเน้นความเป็นธรรมชาติของวัยสาว เรือนผมดำราวนกกาน้ำรวบเป็นมวย เปิดอวดโครงหน้าหวานงดงามที่มีส่วนผสมของสองเชื้อชาติอย่างลงตัว

จำเพาะว่าต้องเป็นลูกครึ่งเอเชียเสียด้วยสินะ ไม่รู้ว่าตั้งใจหรือเปล่า แต่คนก่อนก็ลูกครึ่งเอเชีย และเมื่อทำงานกับเขาได้เพียงวันครึ่ง เขาก็ไล่เฉดเจ้าหล่อนออกไปจากบ้าน เมื่อพูดจาไม่เข้าหูเจ้าของบ้าน ด้วยประโยคคำถามที่ไม่น่าถาม

‘คฤหาสน์แอนเดอร์สันนี่ ใช่ที่เกิดฆาตกรรมโด่งดังเมื่อสองปีก่อนหรือเปล่าคะ?’

หวังว่าคนใหม่นี้คงไม่ถามอะไรโง่ๆ แบบนี้อีกนะ

เควิน แอนเดอร์สันคิดในใจ...

คฤหาสน์แอนเดอร์สัน...

เธอเคยได้ยินชื่อนี้ที่ไหนกันนะ อลิเซียถามตัวเองกลับไปกลับมาเมื่อเดินเข้ามาในบริเวณปราสาทยุคกลางที่แสนจะโอ่โถง มันน่าจะเรียกว่าปราสาทมากกว่าคฤหาสน์ คลับคล้ายคลับคลาว่าที่นี่เคยเป็นของดยุคคนหนึ่ง ก่อนที่จะมีการขายต่อมาเป็นทอดๆ จบตรงที่เจ้าของปัจจุบัน เควิน แอนเดอร์สัน นักเขียนนวนิยายผู้โด่งดัง แต่ชีวิตของเขาช่างเป็นปริศนาเสียยิ่งนัก คล้ายๆ กับนิยายแนวลึกลับฆาตกรรมที่เขาเขียน

อา...

เธอถึงได้คุ้นเคยอย่างประหลาดนัก กับชื่อคฤหาสน์นี้ แล้วไหนจะ...โอ...ข่าวดังข่าวหนึ่งผุดขึ้นมาในความทรงจำ มันเป็นข่าวที่ลงพาดหัวติดๆ กันหลายวัน และสุดท้ายแล้วตำรวจก็ลงเอยที่การหาคนร้ายมาดำเนินคดียังมิได้ กลายเป็นคดีที่ยังปิดไม่ลง

ใช่...

ข่าวการฆาตกรรมของนายหญิงคนงามแห่งคฤหาสน์แอนเดอร์สัน ซึ่งคนร้ายและผู้ตกอยู่ในภาวะต้องสงสัยไม่ใช่อื่นไกล หากเป็นเจ้าของคฤหาสน์แอนเดอร์สันอย่างเควิน!

“เชิญครับ คุณ”

เสียงทุ้มนั่นทำเอาคนที่กำลังอยู่ในภวังค์ล้ำลึกสะดุ้งขึ้นมาสุดตัว พ่อบ้านเดินกลับออกมาเอ่ยบอกเธอหลังจากที่หายเข้าไปในห้องหลังประตูไม้สลักนั่นมาสักพัก อลิเซียใจเต้นตุบโครมครามราวกับจะแล่นออกมานอกอก เมื่อค่อยๆ ก้าวช้าๆ ตรงเข้าไปที่ห้องทำงานของเจ้าของบ้าน

หัวใจเธอเต้นหนักขึ้น กระหน่ำมากขึ้น เมื่อมองสบตากับบุคคลที่นั่งอยู่หลังโต๊ะมะฮอกกานีขนาดยักษ์ ซึ่งดาษดาไปด้วยเอกสาร หนังสือเก่าๆ มากมายวางเกลื่อนไปหมด เขาหรี่ตาลงเมื่อมองสบตากับเธอสักพัก อลิเซียหลบตาเขาก่อนเพราะไม่อาจจะสู้สายตากับคนตรงหน้าได้ อกใจเต้นระทึกไปหมดกับสายตาราวกับเสือออกล่าเหยื่อของเขา

มันช่างทรงอำนาจ และช่างชวนให้นึกหวาดเกรง นัยน์ตาเปี่ยมไปด้วยพลังนั่น อยู่บนใบหน้าเรียบเฉยเย็นชา ที่ไม่มียิ้มใดๆส่งมาให้เธอเลยสักนิด

“ยินดีต้อนรับ อลิเซีย”

“ค่ะ”

เธอค้อมศีรษะคำนับเขา คนตรงหน้าพยักหน้าน้อยๆ เป็นเชิงตอบรับ แล้วหนังสือขนาดหนาปึก เรียงตั้งกันสี่เล่มก็ถูกยื่นส่งให้เธอ พร้อมกับคำสั่งของงานแรก

“อ่านทั้งหมด แล้วก็ย่อความสำคัญส่งมาให้ฉันหน่อย ฉันต้องการข้อมูลของหนังสือพวกนี้”

“เอ่อ...ค่ะ”

คำตอบของเธอทำให้เขามองหน้าเธอชั่วแวบ ก่อนจะก้มหน้าก้มตากับหนังสือในมือของตนเอง และไม่ได้สนใจอะไรเธออีก อลิเซียเองก็ตั้งหน้าตั้งตาเป็นเครื่องย่อยข้อมูล จดรายละเอียดทุกอย่างที่สำคัญลงสมุดตรงหน้า เพื่อเตรียมพิมพ์ย่อส่งให้เขาต่อไป

งานชิ้นแรกของเธอเป็นไปอย่างเงียบๆ และมีสมาธิ เพราะเจ้านายไม่ได้ชวนคุยแม้แต่คำเดียว ตัวเขาเองก็ตั้งหน้าตั้งตากับหนังสือเล่มหนาตรงหน้าเช่นกัน เรียกได้ว่าวันแรกผ่านไปได้ด้วยดีก็ว่าได้สำหรับอลิเซีย

หญิงสาวบิดเนื้อตัวอย่างเมื่อยขบ ก่อนจะกลั้นหาวไว้จนน้ำตาปริ่มซึมออกมา เจ้านายของเธอยังคงก้มหน้าก้มตากับหนังสือตรงหน้า เขานั่งนิ่งอยู่ตรงเก้าอี้ประจำตัว ทำราวกับโลกนี้มีเพียงตนเองอยู่คนเดียว นาฬิกาบอกเวลาเกือบหกโมงเย็นแล้ว สมควรแก่เวลาเลิกงานของเธอแล้วหรือเปล่า? วันนี้เธอนั่งทำงานกับเขามาแล้วทั้งวัน ตอนเที่ยงพ่อบ้านนำอาหารมาบริการถึงที่ เรียกได้ว่าเธอนั่งอยู่ตรงนี้กับเขามาเกือบสิบชั่วโมงแล้วก็ว่าได้

อลิเซียลังเลเล็กน้อย ที่จะเอ่ยถามเขา เป็นจังหวะเดียวกับที่เควินวางหนังสือลงและค่อยลุกขึ้นยืน เขาปรายตามองเธอนิดหนึ่ง ก่อนจะเอ่ยเสียงทุ้ม เป็นคำแรกที่เธอได้ยินหลังจากที่เขาทักเธอเพียงไม่กี่คำในตอนเช้า

“ไปรับประทานมื้อค่ำกันเถอะ...เกรแฮมมักจะตั้งโต๊ะตรงเวลาเสมอ”

“เอ่อ...ฉันอ่านจบไปแค่ครึ่งเล่มเองน่ะค่ะ แล้วอีกตั้งสามเล่ม คือ...”

เธอเอ่ยตะกุกตะกัก นึกเกรงว่าเขาจะตำหนิที่เธอทำงานช้า แต่หนังสือหนาเกือบห้าร้อยหน้าให้ย่อยข้อมูลนี่ ไม่ใช่งานง่ายๆ เลย ตำราเกี่ยวกับพืชสมุนไพร ที่ต้องจดกันค่อนข้างละเอียดเลยทีเดียว

“ไม่เป็นไร ค่อยๆ ทำงานไป ฉันไม่ได้รีบร้อนอะไร งานวันแรกหนักไปไหม ผู้ช่วย”

รอยยิ้มนิดหนึ่งตรงมุมปากหยักลึก ทำให้อลิเซียตะลึงมองคนตรงหน้าชั่วครู่ เออหนอ...เขาเป็นชายหนุ่มรูปงามมากๆ เพียงแค่ยิ้มนิดเดียว ก็ทำให้ดูอ่อนโยนและน่ามองขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อ

“ไม่ค่ะ”

“ดี ถ้าไม่หนักมากเกินความสามารถของเธอก็ดี เราจะได้อยู่ด้วยกันไปนานๆ”

นัยน์ตาคู่คมแฝงแววประหลาด เมื่อมองสบตาเธออีกหน ทำให้อลิเซียต้องรีบก้มลงหลบตา หัวใจเต้นแรงขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก นัยสายตาของเขา มันเหมือนกับเร้นแฝงด้วยประกายบางอย่าง ที่เธอตอบไม่ได้ว่ามันคืออะไร

รู้แน่วแน่ว่ามันไม่ได้สงบเยือกเย็นอย่างสีหน้าของเจ้าของ เร้นไว้ด้วยไฟเย็นที่ชวนให้ใจเต้นแรง

อา...เธอคิดไปเองหรือเปล่านะ?

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel