บทที่ 13 แต่งงานวันแรก
“หงยวี่ ฉันขี้เหร่มากไหม?”
เอียนหยู่โรวลูบหน้าตัวเอง พร้อมพูดน้ำเสียงคับแค้นใจเหมือนหญิงที่ถูกทอดทิ้ง
“ไม่ค่ะ” หงยวี่มองสำรวจเจ้านายตั้งแต่บนลงล่าง แล้วพูดประจบสอพลอ “คุณนายน้อยสวยมาก ผู้หญิงที่งดงาม โฉมหน้าสวยมรกต และสาวงามทั้งสี่รวมตัวกัน ยังสวยไม่ได้มุมหนึ่งของคุณเลย!”
“เทียบกับน้องสาวฉันล่ะ?”
“เสี่ยวเหนียนหยูอยู่ต่อหน้าคุณ ก็แค่ผลผลิตการคุมกำเนิดล้มเหลว!”
“แต่คุณชายค้างคืนในห้องเธอ”
เอียนหยู่โรวน้ำตาไหล ถอดกำไลข้อมือหยกบนข้อมือแล้วใส่ในมือหงยวี่ “ยวี่เอ๋อร์ เธออยู่กับฉันมาตั้งหลายปี ในฐานะเจ้านายกับคนรับใช้ ฉวยโอกาสตอนที่ฉันยังไม่ถูกไล่ออก เอาของมีค่าให้เธอหมดเลย เธอไปใช้ชีวิตที่ดีเถอะ! จะมีหนุ่มน้อยเท่าไรก็ได้”
“คุณนาย คุณดีกับฉันเกินไปแล้ว!”
หงยวี่ประทับใจจนพูดติดอ่าง น้ำตาน่ารังเกียจไหลลงมา “ฉันยอมลุยน้ำลุยไฟเพื่อคุณ! คุณอย่าเพิ่งรีบร้อน เราคิดหาวิธีกันอีกที!”
“ไม่รีบร้อนได้ยังไง?”
เมื่อวันเวลาผ่านไปเรื่อยๆ เหตุการณ์เมื่อสี่ปีก่อนจะต้องเปิดเผยมีช่องโหว่แน่นอน
เอียนหยู่โรวมีแผนการในใจ ถ้ายังไม่ได้เป็นอะไรกับเซียวเวิ่งอย่างแท้จริง ก็ไม่มีความมั่นใจอยู่แล้ว “คนที่ไหว้เทวดาฟ้าดินกับเขาก็คือหล่อน ไม่ใช่ฉัน เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนเป็นคนชั่วร้ายตั้งแต่เด็ก ฉันจะตายในน้ำมือหล่อนไม่ช้าก็เร็ว เธอก็ไม่รอดพ้นจากเงื้อมมือหล่อนเหมือนกัน”
“เธอลองทำฉันดูสิคะ!” หงยวี่หัวร้อน หยิบมีดปอกผลไม้เล่มหนึ่งเดินออกไป “ปฏิบัติกับสัตว์ร้ายก็ต้องใช้มีดขาวแทงเข้าไป แล้วเอามีดแดงออกมา!”
ยังไม่รีบไปอีก!
เห็นว่าปลุกปั่นได้สำเร็จ เอียนหยู่โรวก็แอบดีใจ ฟุบหัวเตียงร้องไห้เสียงดัง แอบมองหงยวี่ด้วยตาข้างเดียว อยากให้เธอไปแทงเอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนให้ตายเร็วๆ
ใครจะไปรู้ว่าหงยวี่เดินไปถึงประตูแล้วก็กลับมา เธอไม่กล้า “คุณนายน้อย ฆ่าคนมันผิดกฎหมาย”
ยัยบ้านี่ หงยวี่ชั้นต่ำไร้ประโยชน์!
เอียนหยู่โรวโกรธจนกัดฟัน เอาชีวิตเน่าๆ ไร้ค่าของเธอไปแลกกับเอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยน มันก็พอดีไม่ใช่หรือไง?
“คุณนาย อยู่ที่นี่นอกจากคุณชายแล้วคุณก็มีอำนาจ ฉวยโอกาสตอนที่เสี่ยวเหนียนหยูยังปรับตัวไม่ได้ จัดการไล่เธอออกไปซะไม่ได้เหรอคะ?”
“จัดการยังไง? เราเป็นผู้ใหญ่จิตใจดีบริสุทธิ์นะ ใช่คู่ต่อสู้เธอที่ไหน?” เอียนหยู่โรวจ้องมองหงยวี่อย่างผิดหวัง
“เราทรมานเธอได้ ให้เธอตายทั้งเป็น แล้วจากไปเอง……” หงยวี่เข้าไปกระซิบข้างหูเอียนหยู่โรวเป็นเวลานาน
“หงยวี่ เธอเป็นที่ปรึกษาฉันจริงๆ”
เอียนหยู่โรวฟังแล้วก็จิตใจเบิกบาน รอยยิ้มร้ายกาจก็กลับมาที่มุมปากทีละนิด ผ่านไปสักพักก็กลอกตาตามสไตล์หัวเฟย “เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยน แกมาแทนที่ฉันไม่ได้หรอก เรามาคอยดูกัน!”
ที่ห้องอาหาร เงียบสงบเหมือนเคย
อาหารมากมายวางอยู่บนโต๊ะอาหารยาว เซี่ยเอ่อพ่อบ้านชรายืนรับใช้อยู่ด้านข้างอย่างมืออาชีพ
เซียวเวิ่งนั่งตำแหน่งสูงศักดิ์ ในมือพลิกอ่านนิตยสารการเงินเล่มหนึ่ง
ถึงจะไม่ได้นอนทั้งคืน แต่มันไม่ทำลายพลังฮึกเหิมของเขาเลย เสื้อกันลมชั้นดีสวมเป็นอย่างดี ทรงผมเปิดหน้าผากมีความเย็นชา ให้ออร่าที่เหนือกว่า งดงามสมบูรณ์แบบสุดๆ
“ที่รัก อรุณสวัสดิ์!”
เอียนหยู่โรวสวมชุดหรูเดินเข้ามา หงยวี่ที่ตามหลังก็รีบโค้งคำนับทักทาย “อรุณสวัสดิ์ค่ะคุณชาย”
“คุณเอียน เชิญทานข้าวเช้า” พ่อบ้านรับนิตยสารในมือคุณชายมา ยิ้มขณะช่วยเอียนหยู่โรวขยับเก้าอี้ออก
คุณเอียน?
พ่อบ้านบัดซบคนนี้ไม่รู้เหรอว่าเธอแต่งงานกับเซียวเวิ่งแล้ว? ควรเรียกคุณนายน้อยสิ!
“ขอบคุณค่ะอาเซี่ย” เอียนหยู่โรวระงับความไม่พอใจข้างใน ยิ้มหวานบริสุทธิ์ให้พ่อบ้านเซี่ย สายตามองไปที่เซียวเวิ่ง ทั้งรักทั้งบูชา ไม่ละสายตาเลย
“ที่รัก เมื่อคืนหลับสบายไหม?”
“อืม” ใบหน้าหล่อเซียวเวิ่งไม่แสดงสีหน้าอะไร ทานอาหารอย่างสง่างาม บางครั้งก็ยกแก้วขึ้นมาดื่ม
“เฮ้อ กินข้าวสองคนจนชิน ฉันเกือบลืมเรียกน้อง” เอียนหยู่โรวหัวเราะเยาะตัวเอง มองไปที่หงยวี่ “เธอไปเชิญน้องฉันลงมาก่อนข้าวหน่อย”
“คุณนาย เสี่ยวเหนียนหยูได้รับบาดเจ็บไม่ใช่เหรอคะ? จะลงจากเตียงได้ยังไง?” หงยวี่เตือนด้วยความหวังดี
มือที่ยกแก้วขึ้นมาชะงัก เซียวเวิ่งมองด้วยความเย็นชา “เสี่ยวเหนียนหยู?”
“โอ๊ะ นั่นฉายาน้องฉันค่ะ” เอียนหยู่โรวยิ้มอธิบาย “เรียกแบบนี้ตั้งแต่เด็ก ไม่ได้มีเจตนาร้าย เสี่ยวเหนียนหยูน่ารักมาก”
อืม ไม่ใช่แค่น่ารัก แต่ยังเหมาะสมด้วย
ร่างกายผู้หญิงคนนั้นนุ่มนิ่มเหมือนปลาดุก เหมือนไม่มีกระดูก กอดในอ้อมแขนก็เคลื่อนตัวไหลออกมาได้
เซียวเวิ่งดื่มน้ำต่อ ภาพนอนกอดเธอจนหลับไป เอาใบหูถูกันเมื่อคืนลอยขึ้นมาในหัว ในใจก็รู้สึกเศร้าและมีความสุข
แค่พริบตาเดียว ดวงตาก็กลับสู่สภาพเย็นยะเยือกอีกครั้ง
ร่างกายของเธอ ไอ้บัดซบสวี่เจียนเคยเสวยสุขหรือยัง?
“ฉันจะเอาอาหารไปให้เธอเอง” เอียนหยู่โรวใส่อาหารรสเลิศหลากสีหนึ่งจาน พูดขึ้นด้วยใบหน้าเพียบพร้อมมีคุณธรรม “เวิ่ง คุณทานไปก่อน”
“คุณนายน้อย ฉันเอาไปให้ดีกว่าค่ะ วันนี้คุณเป็นเจ้าสาวนะคะ” หงยวี่เหลือบมองเซียวเวิ่ง ยื่นมือจะไปรับจาน
“ไม่ต้อง” เอียนหยู่โรวห้ามเธออย่างอบอุ่น “น้องฉันนิสัยเสียตั้งแต่เล็ก เธออย่าไปยั่วโมโหหล่อนเลย หงยวี่ เธอเองก็ไปกินข้าวเถอะ”
“คุณชาย คุณดูคุณนายน้อยสิคะจิตใจดีเกินไปแล้ว” หงยวี่รีบประจบเอาใจเพื่อเจ้านายตัวเอง
“นั่นน้องเธอ เธอดูแลก็เป็นสิ่งที่ควรทำอยู่แล้ว” เซียวเวิ่งวางมีดกับส้อมลง เอาผ้ามาเช็ดมือ แล้วพูดเสียงเรียบ
“ใช่” เอียนหยู่โรวยิ้มหวานให้เซียวเวิ่ง ผลุบขนตาลงด้วยความหดหู่ “เวิ่ง วันนี้แต่งงานวันแรก ต้องกลับไปเยี่ยมผู้ใหญ่ ไม่รู้ว่าคุณอยากพาน้องฉันไป หรือพาฉัน ถ้าเกิดคุณอยากพาเธอ——”
“คุณ” เซียวเวิ่งไม่ค่อยอยากได้ยินคำพูดไร้สาระ จึงขัดจังหวะเธอด้วยคำพูดสั้นๆ กระชับ
พ่อบ้านก็พยักหน้ายอมรับโดยปริยาย ถึงแม้คุณชายไม่เคยพาเอียนหยู่โรวออกจากบ้าน แต่คนในครอบครัวรู้จักเอียนหยู่โรวกันหมด พาเอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนกลับไปเพื่ออะไร แถมยังโดนที่บ้านซักถามอีก
“คุณนายน้อย คุณชายยอมรับคุณแล้ว!” หงยวี่พยักหน้าโน้มตัวลงแสดงความยินดีกับเจ้านาย ท่าทางเหมือนสุนัขรับใช้ดูแล้วรู้สึกคลื่นไส้
เอียนหยู่โรวเซอร์ไพรส์นานสักพักก่อนได้สติกลับมา “เวิ่ง คุณรอฉันไม่กี่นาทีนะ ฉันไปป้อนเสี่ยวเนี่ยนกินข้าวก่อน”
เซียวเวิ่งตอบ “อืม” เรียบๆ ก่อนจะลุกขึ้นเดินออกจากห้องอาหารไป เดินมาถึงบันไดก็เหลือบมองห้องเอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนก่อน คิ้วเข้มย่นเล็กน้อย สักพักหนึ่งก็ก้าวช้าๆ ไปที่ห้องทำงานอีกห้อง
รอยยิ้มเอียนหยู่โรวหายไปทันที ย่นจมูกขึ้นมา ส่งสายตาให้หงยวี่ ก่อนจะยกอาหารเดินเข้าไปในห้องเอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยน
เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนหลับงัวเงีย รู้สึกได้ว่ามีคนจ้องมองตนน่าสะพรึงกลัว แต่ก็ไม่อยากลืมตา
หลักๆ เธอไข้ลดแล้ว แต่ยังจมอยู่กับความหนาวไม่มีสิ้นสุด
เอียนหยู่โรวและสามีชั่วร้ายเกินไปแล้ว ให้แช่อยู่ในน้ำแข็งมองหน้ากับจระเข้ มีเกล็ดหิมะลอยอยู่บนศีรษะรู้สึกสิ้นหวัง อยากให้พวกเขาลิ้มรสชาติมันจริงๆ
เฮ้อ ตัวเองอยากใช้ชีวิตมีความสุขกับลูก ทำไมมันยากขนาดนี้นะ?
ไม่รู้สวี่เจียนอธิบายเหตุผลที่เธอไม่กลับบ้านทั้งคืนกับเด็กน้อยยังไง? นึกถึงลูกชาย เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนก็ตรอมใจอย่างยิ่ง
ลูกยังเล็กขนาดนั้น ไม่ว่ายังไงตัวเองก็ต้องทนไหว ตายไม่ได้ ลูกที่ไม่มีแม่น่าสงสารที่สุดแล้ว เรื่องนี้เธอเข้าใจอย่างลึกซึ้ง
“ต้าฟา ต้าฟา……”
“ฟาบ้าอะไร!”
เอียนหยู่โรวเอาจานวางโต๊ะหัวเตียงอย่างแรง จ้องมองเอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนด้วยแววตาดุร้าย จู่ๆ ก็หยิบส้อมขึ้นมาแทงไปที่ดวงตาเธออย่างโหดเหี้ยม……
