ตอนที่ 3
ภารันย์หลับตาข่มความเจ็บปวดที่ปะทุขึ้นมา ยาที่เธอให้กินลงไปนั้นอาจจะช่วยได้ เขาภาวนาให้มันช่วยทุเลาอาการของเขาได้บ้าง
ชมพูหยิบโคมไฟ ออกมาสำรวจข้างนอกอีกครั้ง
เธอเห็นปลายไม้ไผ่โผล่ขึ้นมา จึงลองเอามือจับแล้วดึง หญิงสาวเคยไปบ้านของป้าเจียมบ่อย ๆ เธอเห็นรูของฝาอีกด้าน จึงรีบสาวไม้ไผ่ขึ้นมามันช่างสอดรับพอดี เธอจึงนึกขึ้นได้ว่านี่คงเป็นบ้านพักนายพรานหรือคนที่ชอบเดินป่าแถบนี้ พิมพ์เพชรรีบดึงไม้ไผ่ทั้งสี่อันมาขัดกับฝาไว้ ก่อนจะเอาเสื้อผ้าของภารันย์และของตัวเองที่เปียกผึ่งตากเอาไว้ แค่นี้ก็รู้สึกอุ่นใจขึ้นมาอีกนิดว่า อย่างน้อยสิงสาราสัตว์คงหวั่นไหวกับกลิ่นสาปของคน สัตว์โลกต่างก็เกรงกลัวกันเองเพราะต่างฝ่ายก็กลัวถูกทำร้ายเช่นกัน
ฝนที่หนาเม็ดเริ่มซาลง แต่ความมืดสงัดเริ่มครอบงำ มันมาพร้อมกับความวังเวง สัตว์น้อยใหญ่ต่างส่งเสียงประสานก้องไพร อึ่งอ่าง คางคก กบ เขียด ส่งเสียงประสานเหมือนวงออร์เคสตรา
หญิงสาวถอนหายใจออกมาแบบโล่ง ๆ แต่ในใจก็หวั่น ๆ กลัว ๆ อยู่ไม่น้อย
'ไม่น่าเลยชมพู ทำไมไม่ตามคนก่อนจะลงมา' หญิงสาวต่อว่าตัวเอง
"ชมพู" เสียงเรียกชื่อเธอเบา ๆ
เธอไม่ตอบ แต่รีบคลานกลับเข้าไปหาภารันย์
"พี่เล็กต้องการอะไรคะ" น้ำเสียงของเธออย่างอาทร
"นั่งทำอะไรข้างนอก ยุงเยอะ แมลงเยอะนะ ที่นี่มันเป็นป่า" เธอส่งยิ้มให้
"ดับไฟเหอะ พี่ว่า... เผื่อเอาไว้ใช้ตอนจำเป็น เดี๋ยวแบตฯ หมด"
"ค่ะ" เธอทำตามแบบว่าง่าย และก็นั่งกอดเข่าอยู่ตรงนั้น
มือหนาใหญ่ของภารันย์เอื้อมมาจับที่ข้อเท้าเล็ก ๆ ของเธอ
"อากาศมันหนาวเย็นนะชมพู ชมพูเข้ามานอนกับพี่....มา" น้ำเสียงแหบพร่าก็จริง แต่มีแววจริงจัง
"ไม่เป็นไรค่ะ"
"ไม่เป็นไรได้ไง ชมพู....เข้ามานอนเดี๋ยวนี้ พี่สั่ง" เขาทำเสียงเขียวดัง
เธอนิ่งอึ้ง แต่ภารันย์กระตุกข้อเท้าของเธออีกที
"อย่าดื้อกับพี่" เขาพูดเสียงเบาลง เธอรู้ว่าเขาอ่อนแรงมาก ๆ เช่นกัน
ชมพูพ่นลมหายใจออกมาอีกครั้ง
ฟ้าฝนช่างไม่เป็นใจ คำรามลั่น ตอนนี้อึกทึกลั่น มีแสงฟ้าแลบแปล๊บ ๆ ชวนตกใจ ฟ้าผ่าลงมาดังสนั่น
ชมพูผวาเฮือก ใจร่วงไปอยู่ไหนไม่รู้ เอื้อมมือที่สั่นเทาจับยึดมือของภารันย์ก่อนจะสอดตัวแทรกกายเข้าไปนอนลงในถุงนอนกับเขา
ร่างใหญ่สั่นสะท้าน แขนที่หักเริ่มบ่งบอกอาการ พิษไข้สร้างความปั่นป่วนให้กับร่างกายของภารันย์จนเพ้อ
"แม่ครับ...แม่...อย่าไปจากผมนะครับ แม่...แม่..." เขาออกปากเรียกแม่ น้ำตาไหลอาบแก้ม
พิมพ์เพชรสะดุ้งตื่น เธอกอดกระชับเขาเอาไว้แน่น
ภารันย์ซุกหน้าไปในอ้อมอกของเธออย่างโหยหา ตอนนี้ร่างกายของเขาเปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อ
"พี่เล็ก พี่เล็กขา ชมพูเองค่ะ" เธอบอกเขาเมื่อเห็นแขนข้างที่ไม่เจ็บกอดรัดร่างของเธอเอาไว้แน่น
เสียงสะอึกสะอื้นเหมือนเพ้อทำให้เธอพยายามเอื้อมมือไปหยิบโคมไฟเล็ก ๆ ก่อนจะเปิดมัน แสงสว่างพอจะทำให้เห็นใบหน้าของภารันย์เริ่มมีสี และน้ำตาซึม
"อย่าทิ้งเล็กนะครับแม่" เขายังเอื้อนเอ่ยออกมาแบบไม่รู้ตัว
"ค่ะ ชมพูจะอยู่กับพี่ เธอกอดปลอบประโลมเขา ภารันย์มีท่าทีสงบลง และลมหายใจเริ่มสม่ำเสมอ
พิมพ์เพชรถอนหายใจออกมา เธอรีบขยับตัวลุกขึ้นนั่งอย่างแผ่วเบา ๆ ภารันย์ขยับตัวนอนหงาย เม็ดเหงื่อยังเต็มใบหน้า หญิงสาวคว้าผ้าได้ก็เริ่มเช็ดตัวให้เขาอีกครั้ง
"เจ้าป่าเจ้าเขา เจ้าที่เจ้าทาง ลูกเป็นคนดีนะคะ พี่เล็กก็เป็นคนน่ารัก ช่วยปกปักรักษาเราสองคนด้วยนะคะ" เธอพนมมือขึ้นเหนือหัวก่อนจะก้มลงกราบพื้นกระท่อม
หญิงสาวปลุกเขาให้ลุกขึ้นมากินยาอีกครั้ง
ผ่านไปเกือบยี่สิบนาทีที่ชมพูเช็ดเนื้อตัวให้เขา ภารันย์ตัวเริ่มเย็นและมีอาการสั่นสะท้านอีกครั้ง
"หนาวจังครับ ทำไมหนาวอย่างนี้" ปากที่ซีดสั่นกระทบกันดังกึก ๆ ชมพูมองเขาด้วยความสงสาร
"โธ่... ชมพูจะทำยังไงดี" หญิงสาวเริ่มกังวล มือของเธอประสานจับมือของเขาเอาไว้แน่น
เสียงป่าตอนดึกสงัดก็ทำให้เธอหวั่นในหัวใจลึก ๆ กลัวไปเสียหมด ดีที่ว่าฝนหยุดตกแล้วจึงทำให้เธอใจชื้นขึ้นมาได้บ้าง
"พี่เล็กอดทนนะคะ เมื่อฟ้ามีแสงส่อง ชมพูจะรีบไปตามคนมาช่วยพี่เล็กเลยค่ะ พี่เล็กต้องอดทนนะคะ" หญิงสาวน้ำตาซึม รู้สึกสงสารเขาจับหัวใจ
"ชมพูพี่หนาว" เขาเรียกชื่อเธอ
พิมพ์เพชรรีบเช็ดน้ำตา ในนาทีนั้นเธอตัดสินใจถอดเสื้อของเขาออก และถอดเสื้อผ้าของตัวเองเหลือเพียงแต่ชุดชั้นใน หนาวกายความอบอุ่นจากผิวกายเท่านั้นที่จะทำให้คลายหนาวได้ หญิงสาวสอดตัวเข้าไปใต้ผ้าผืนเดียวกับเขา
ชมพูกอดพี่เล็กเอาไว้แน่น ปรารถนาให้ความอุ่นในตัวเธออาจจะพอทำให้ภารันย์ทุเลาอาการหนาวสั่นลงได้ภารันย์ซุกหน้าแนบไปกับลำตัวขาวนวลและหน้าอกอ่อนนุ่ม เขาพ่นลมหายใจออกมา ก่อนจะหยุดขยับเมื่อได้ท่า ความรู้สึกอุ่นใจและทุกอย่างสงบลง เขาก็หลับลงไปด้วยพิษไข้ แต่ตัวหญิงสาวกลับใจเต้นแรง
'นี่เธอกำลังทำอะไร' ชมพูถามตัวเอง
"ช่วยพี่เล็กไง เธอกำลังช่วยให้พี่เล็กอบอุ่น พี่เล็กคะ พี่เล็กได้โปรดอย่าเป็นอะไรนะคะ"
กว่าใจจะสงบหยุดเต้นดังก็จวนเวลาดึก เธอเป็นห่วงภารันย์จนไม่กล้านอน แต่ด้วยความเหนื่อยอ่อน ชมพูเพลียหนักจนผล็อยหลับไปตอนหกโมงเช้า
เสียงอึกทึกจากนอกกระท่อม ทำให้หญิงสาวตื่นจากการหลับใหลแต่ยังคงลืมตาไม่ขึ้น ในหัวของเธอก็รู้สึกหนักอึ้งไปหมด เพราะร่างกายพักผ่อนไม่พอ และตามเนื้อตัวของเธอก็บอบช้ำไม่ต่างกับภารันย์ อีกทั้งโดนเม็ดฝนไปเต็ม ๆ จนเปียกปอน
"ภารันย์..."
"ชมพู..."
"พิมพ์เพชร..."
"ไอ้เล็ก..."
ชื่อของทั้งสองคนถูกเรียกออกมาจากปากของคนที่เดินตามหา พวกเขาก็วางแผนกันและเริ่มออกเดินมาตั้งแต่ตีห้า เห็นร่องรอยปรากฏตามที่เดือนเด่นบอก จึงพากันไต่เขาลงมา แล้วก็เห็นร่องรอยการเหยียบย่ำของทั้งสองคนเป็นทางห่างจากที่ทั้งสองคนตกมาไม่ไกลนัก
"อยู่นั่นไงครับ" เสียงหนึ่งดังขึ้น ชี้ไปยังกระท่อมที่มีเสื้อผ้าของทั้งสองคนตากอยู่เต็มไปหมด
ฝีเท้าหนัก ๆ ก้าวขึ้นมาบนกระท่อม ก่อนจะจัดการสิ่งที่กีดขวาง และเข้ามาถึงตัวทั้งสองคน
พิมพ์เพชรลืมตาขึ้นมองทุกคน เธอได้ยินเหมือนเสียงกดชัตเตอร์ และความโกลาหลก็เกิดขึ้น
ทั้งภารันย์และพิมพ์เพชรได้รับความช่วยเหลือจากผู้นำหมู่บ้านละฮู อาสาสมัครป้องกันดินแดน ทหารที่ประจำแถว ๆ นั้น และรุ่นพี่ พร้อมเพื่อนผู้ชายที่ออกกันตามหาเธอ
