บทย่อ

เวียงสนธยา หมู่บ้านที่ปกคลุมด้วยหมอกหนาและหนาวเย็นในเวลาค่ำคืน ส่วนกลางวันกลับเงียบ ชาวบ้านต่างพากันปิดประตูหน้าต่าง ราวกับว่าเป็นหมู่บ้านร้าง ธงรบปลัดอำเภอรูปงาม ถูกส่งตัวไปที่อำเภอห่างไกลจากความเจริญ โดยเขาขอไปอยู่บ้านที่บิดาซื้อเอาไว้ซึ่งอยู่ในหมู่บ้านเวียงสนธยาที่มีแต่ความหนาวและเมฆหมอกในเวลากลางคืน ชายหนุ่มเดินทางมาเพียงคนเดียวถึงหมู่บ้านในเวลากลางคืนและแปลกใจต่อความวังเวง มีคนพาเขาไปยังบ้านพักและเจอมะแมคนดูแลบ้านที่มีท่าทางแปลกๆ เธอทำอาหารที่มีรูปลักษณ์ชวนสะอิดสะเอียนให้เขากิน ธงรบรู้ว่าบ้านหลังนี้มีบรรยากาศน่ากลัว มีแต่หมอกโอบล้อมจนแทบมองไม่เห็นอะไร เครื่องอำนวยความสะดวกก็ไม่มี นอกจากตู้เย็นเก่าๆ เท่านั้น เขาได้กลิ่นเหม็นของอะไรบางอย่างจนแทบทำให้อาเจียน ธงรบไม่รู้เลยว่าน้ำที่เขาอาบน้ำมีสีแดงราวกับเลือดและมีเส้นผมยาวๆ ผสมอยู่ด้วย ด้วยความอ่อนเพลียจากการเดินทางเขาหลับไม่รู้เรื่อง ถ้าเขารู้ว่ามีผีนางเมยโผล่ออกมาจากใต้ที่นอนที่เขานอนอยู่ก็คงช็อกตาย หยางคือชายในชุดดำเป็นหัวหน้าผีดิบได้บอกว่าปล่อยธงรบเอาไว้ เขาจะพาเพื่อนๆ มาให้กินอย่างสำเริงสำราญ เหตุการณ์จะเป็นอย่างไร เชิญติดตามอ่านได้แล้วค่ะ ด้วยรัก ภูต เภตรา

นิยายสยองขวัญ

1 ความมืด

ความมืดที่รายรอบตัวนั้น โอบอุ้มด้วยเมฆหมอกหนาทึบที่เย็นจนหนาวสะท้าน เบื้องบนท้องฟ้ามีแค่เพียงพระจันทร์เสี้ยวเล็กๆ มองแทบไม่เห็นเพราะถูกบดบังจากก้อนเมฆที่ครอบคลุมทุกอณูพื้นที่

นกค้างคาวแม่ไก่ตัวโตๆ นับสิบตัวบินฉวัดเฉวียนไปมา เสียงกรีดร้องโหยหวนจากอะไรบางอย่างดังขึ้น

ไม่ใช่เสียงคนและไม่ใช่เสียงสัตว์ แต่เสียงนั้นสยดสยอง บาดลึกเข้าไปในความรู้สึกยิ่งนัก

เบื้องหน้าคือต้นไม้ใหญ่สีดำทะมึนยืนตายพราย เหลือแค่เพียงกิ่งก้าน มองเผินๆ คล้ายกับปีศาจร้าย พร้อมที่จะเล่นงานผู้ที่บุกรุก

ธงรบก้าวเท้าย่ำลงไปบนพื้นอ่อนนิ่มๆ ที่เบื้องล่างมีน้ำเคลื่อนไหวตลอดเวลา เพียงแค่กดน้ำหนักลงไป พื้นยวบยุบตัวลงไปทันที เขาใจหายวาบด้วยความตกใจ เมื่อเท้าสัมผัสกับความเย็นชื้นจากของเหลวและหนืดเหนียว

“ช่วยด้วย ช่วยผมด้วย”

“มาอยู่ด้วยกันสิธงรบ พวกเรากำลังรอคุณอยู่”

เสียงยานคางเล็กแหลมดังขึ้น ต้นไม้ที่เห็นเมื่อครู่พยายามที่จะเคลื่อนที่เข้ามาหา ไม่ใช่มีเพียงต้นเดียว บัดนี้แตกตัวขยายออกนับสิบต้น

แต่ละต้นมีดวงตาสีแดงเรียวขนาดใหญ่มองมาที่เขาอย่างประสงค์ร้าย ธงรบรู้แล้วว่าพวกมันคือต้นไม้ปีศาจ

“อย่า อย่า กลัวแล้ว”

ไม่ว่าเขาจะวิ่งหนีไปทางไหน กลับถูกต้นไม้ผีล้อมรอบเอาไว้จนหมดสิ้น มันดักหน้าดักหลังแล้วยื่นกิ่งขนาดใหญ่เข้ามาใกล้ๆ กับลำคอ พร้อมที่จะตวัดรัดเพื่อปลิดชีวิต

“ไม่ อย่า กลัวแล้ว ช่วยด้วย”

เขาจำได้ว่าตะโกนร้องด้วยความกลัวสุดเสียงซึ่งดังก้องเข้าไปในหูอย่างชัดเจน ร่างใหญ่ในชุดนอนผ้าเนื้อดีสะดุ้ง ลืมตาทันที รับรู้ถึงหัวใจที่เต้นแรงกว่าปกติ

“รบคะ คุณเป็นอะไร ฝันร้ายหรือเสียงดังเชียว”

ร่างบางที่นอนซุกอยู่ข้างๆ ปรือดวงตาคู่งามขึ้นแล้วเอ่ยถาม ธงรบจับมือวิยะดาผู้เป็นภรรยาสาวเอาไว้แน่น เหมือนต้องการหาที่พึ่ง

คนอย่างเขาไม่เคยกลัวอะไร ทำไมต้องมาขวัญผวากับความฝันบ้าๆ บอๆ นั้นด้วย แต่ยอมรับว่าเหมือนจริงมาก

“ครับ ผมฝันไม่ค่อยดี”

“ผู้หญิงจับคุณเป็นสามีหรือคะ”

“ไม่ใช่ครับ คือว่าฝันเห็นต้นไม้ผีน่ะ กำลังจะเอากิ่งมารัดคอ น่ากลัวจริงๆ”

“ขนาดนั้นเลยหรือคะ ไม่น่าเชื่อว่าคนที่ไม่เคยกลัวอะไรเลยอย่างคุณจะกลัวความฝันแบบนี้”

“นั่นสิ คงกินมากแล้วฝันมาก นี่กี่โมงกี่ยามแล้วล่ะ”

“ตีสามกว่าค่ะ”

วิยะดาภรรยาคนสวยตอบเสียงแผ่ว ก่อนที่จะกอดรัดรอบลำตัวบึกบึน ยื่นปลายจมูกหอมที่แก้มเพียงเบาๆ เขาโอบกอดร่างงามเข้ามาแนบชิด รู้สึกอบอุ่นขึ้นมาบ้าง ตั้งแต่แต่งงานกับวิยะดาชีวิตที่เคยเงียบเหงาได้มีสีสันขึ้นมามาก

เธอทั้งสวยทั้งเก่ง มีความสามารถรอบตัว เธอทำงานเป็นครีเอทีฟรายการโทรทัศน์ชื่อดัง หลายบริษัทต้องการไปร่วมงาน ทำให้เธอมีงานตลอดเวลาและสร้างรายได้ให้ไม่น้อย เงินเดือนปลัดอย่างเขาเทียบกับเธอไม่ได้เลย แต่เขามีสมบัติเก่าจากตระกูลเยอะจึงไม่ลำบากในเรื่องค่าใช้จ่าย

“ผมขอโทษที่รบกวนเวลานอนของคุณ หลับเถอะนะ”

“คงไม่แล้ว ขอเคลียร์งานที่ค้างจากเมื่อวานก่อนนะคะ”

“ทำงานเยอะอย่างนี้ระวังสุขภาพด้วยนะ บางครั้งเงินไม่มีความจำเป็นเท่ากับความเป็นอยู่ของชีวิตเราหรอก เชื่อผม”

“ค่ะ วิเชื่อ แต่งานนี้สำคัญจริงๆ คุณนอนเถอะค่ะ วิขอตัวทำงานก่อน”

ภรรยาสาวทิ้งท้ายด้วยเสียงหวานๆ ก่อนที่จะลุกลงจากเตียงแล้วเปิดประตูห้องหายไป เขารู้ดีว่าเธอเข้าไปนั่งทำงานที่ห้องข้างๆ ซึ่งเขาตกแต่งไว้สำหรับเธอโดยเฉพาะ

เมื่ออยู่คนเดียวธงรบไม่อาจข่มตาหลับลงได้ คิดถึงแต่ความฝันสยดสยองเมื่อครู่ หากว่าเป็นความจริง ไม่รู้ว่าจะรอดจากความตายไหม

ธานีถึงกับเครียดเมื่อธงรบเอาหนังสือทางราชการมาให้ดู เป็นคำสั่งย้ายให้ไปรับตำแหน่งทางภาคเหนือ ลำเภาผู้เป็นภรรยาเข้าใจความรู้สึกเขาดี จับมือบีบเบาๆ

“ลูกต้องย้ายไปทางเหนือหรือแล้วพ่อแม่ หนูวิอีกล่ะ”

“คุณพ่อครับ ผมต้องย้ายเพื่อเอาตำแหน่งครับ จากปลัดอาจได้เป็นนายอำเภอ”

“แต่อำเภอที่ลูกไปนั่นน่ะ อยู่ห่างไกลความเจริญมาก ติดชายแดนประเทศพม่าเชียวนะ”

“ไกลแค่ไหนก็ต้องไปครับ สำหรับวิเธอบอกว่าจะเอางานไปทำที่นั่นแล้วค่อยเดินทางมาถ้ามีเรื่องสำคัญ”

“ต้องลำบากกันอีก หนูวิ ไหวไหม”

“ไหวค่ะคุณพ่อ วิเป็นห่วงแต่คุณพ่อกับคุณแม่เท่านั้น อยู่กันตามลำพัง”

เธอแสดงความห่วงใยทางคำพูดและสายตาให้พ่อแม่ของสามีรับรู้ ลำเภาเข้ามาโอบบ่าลูกสะใภ้คนสวยเอาไว้