เมียเก็บ ชุด ภรรยาของมหาเศรษฐีซาตาน

107.0K · จบแล้ว
เนื้อนวล/baiboau
51
บท
81.0K
ยอดวิว
7.0
การให้คะแนน

บทย่อ

นิโคไล อิสไมนอฟ : มาร์คิเดฟ น้องเล็กแห่งตระกูลมาร์คิเดฟ ฉลามขาวอย่างเขาพกพาความเผด็จการ เอาแต่ใจมาตั้งแต่เกิด ทุกอย่างที่อยู่ตรงหน้าต้องเนี๊ยบ และสมบูรณ์แบบที่สุด ผู้หญิงที่จะขึ้นเตียงกับเขาก็เช่นกัน จะต้องผ่านการตรวจวิเคราะห์และคัดเลือกมาอย่างพิถีพิถันว่าปลอดโรค ปลอดเชื้อแล้วเท่านั้นถึงจะสามารถขึ้นเตียงกับเขาได้ แต่นิโคไลก็ไม่ได้แตกต่างอะไรไปจากบรรดาพี่ชายของตัวเองเลยสักนิด รสนิยมทางเพศที่ดุดัน เร่าร้อน และดิบเถื่อนถูกฝังลึกอยู่ในทุกอณูเนื้อของพวกเขาตั้งแต่ลืมตาขึ้นดูโลก และแน่นอนว่าแค่คืนเดียวเท่านั้น แม่ผู้หญิงไร้ประโยชน์พวกนี้ก็จะหมดความน่าสนใจไปโดยปริยาย ไม่มีคำว่าปรานี และไม่มีคำว่าประนีประนอม กฎก็คือกฎ และกฎเหล็กของพวกเขาก็คือ... ผู้หญิงเป็นได้แค่ตุ๊กตายางที่ร้องได้ ดิ้นได้ และทำให้พวกเขาปลดปล่อยได้เท่านั้น! อิงบุญ ราชวรกุล : หญิงสาวที่เติบโตขึ้นมาในซ่องโสเภณี ความหยาบคายของคนในซ่องหล่อหลอมให้หล่อนแข็งกระด้างแต่สุดท้ายก็จำเป็นต้องตอบแทนบุญคุณด้วยการแต่งงานกับผู้ชายหัวใจกระด้างคนหนึ่ง ซึ่งฐานะที่เขามอบให้ก็คือ เมียเก็บ!

นิยายรักนิยายปัจจุบันประธานสัญญาทางรักหนีแต่งงานรักแรกพบเศรษฐีโรแมนติก

ตอนที่ 1

‘DACHA’ บ้านพักนอกเมืองของตระกูลอิสไมนอฟ มาร์คิเดฟช่างงดงามและให้บรรยากาศน่าอภิรมย์เช่นเดิม ทิวแมกไม้ที่ปลูกเอาไว้ให้ความร่มรื่นได้อย่างสมบูรณ์ สวนดอกไม้นานาพันธุ์ด้านหลังบ้านไม้สองชั้นกำลังแข่งขันกันอวดความงดงามของตัวเองแบบไม่ยอมน้อยหน้ากัน ซึ่งภาพที่น่ามองเช่นนี้ก็ทำให้อิงบุญอดระบายยิ้มออกมาอย่างมีความสุขไม่ได้

“สวยจัง...”

“จะนั่งบื้ออยู่ทำไม ฉันไม่เปิดให้หรอกนะประตูรถน่ะ”

เสียงกระด้างที่ดังผ่านกระจกรถเข้ามาทำให้อิงบุญต้องรีบตื่นจากความฝัน หล่อนสลัดศีรษะน้อยๆ ก่อนจะเพื่อเรียกสติสตังของตัวเองให้กลับคืนร่างมาโดยเร็วที่สุด เพื่อสู้รบกับพ่อจอมมารร้ายอย่างนิโคไลอีกครั้ง

มือบางดันประตูรถให้เปิดออก และก้าวลงไปด้วยท่าทางมีจริตมารยา จากนั้นก็จิกตามองคนตัวโตที่ยืนหน้าบูดราวกับกินยาถ่ายเข้าไปด้วยตาหวานฉ่ำ

“อย่าทำเสียงดุแบบนี้สิคะ เดี๋ยวคุณลุงกับคุณป้าจะตกใจเอาได้”

“ดีสิ คุณพ่อกับคุณแม่จะได้รู้ว่าฉันเกลียดเธอแค่ไหน”

อิงบุญหน้าชา แต่ก็ยังฝืนยิ้ม ซ่อนความเจ็บเอาไว้แต่ในอก ขณะก้าวเท้าเดินตรงเข้าไปหาคนตัวโตที่ยืนกอดอกอยู่ตรงหน้าในระยะใกล้ชิด

“คุณนิคไม่ได้เกลียดอิงหรอก อิงรู้...”

นิ้วเรียวจิ้มลงบนแผงอกกว้างเบาๆ ยิ้มอย่างยั่วยวน

“สายตาที่คุณนิคมองอิง... เหมือนจะกลืนเข้าไปทั้งตัว”

นิโคไลผลักร่างอรชรออกห่างตัวอย่างไม่ปรานี

“ทุเรศ หลงตัวเองที่สุด ฉันไม่เคยมองว่าเธอดีไปกว่ากิ้งกือเลยอิงบุญจำเอาไว้!”

คนฟังหน้าชาแล้วชาอีก แต่บอกตัวเองให้ฝืนทน ต้องยิ้ม ยิ้มสู้เข้าไว้ ไม่อย่างนั้นความหวังอันแสนริบหรี่ของหล่อนจะต้องดับวูบลงในทันที

“อิงไม่เชื่อหรอกค่ะ...”

ยังอุตส่าห์ที่จะเดินกลับเข้าไปหาคนตัวโตอีกครั้ง ในขณะที่เขาถอยหลังหนีอย่างรังเกียจ

“อิงทั้งสวย... หุ่นก็ดี แถมอึ๋มอีกต่างหาก”

นิโคไลถอนใจออกมาอย่างเบื่อหน่าย รำคาญแม่ผู้หญิงตรงหน้าเป็นที่สุด

“ตั้งแต่เกิดมาฉันยังไม่เคยเห็นผู้หญิงคนไหนร่านได้เท่าเธอเลยอิงบุญ อ้อ... ฉันลืมไป เธอมันอีตัวเก่านี่ ก็เลยร่านมากกว่าผู้หญิงคนอื่น”

คราวนี้เจ็บจนหน้าซีดเผือด หญิงสาวกัดปากแน่น น้ำตาซึม กลืนน้ำลายลงคอเบาๆ ก่อนจะฝืนยิ้มออกมา

“เอาเป็นว่าเราเข้าไปข้างในกันเถอะค่ะ คุณลุงกับคุณป้าคงกำลังรออยู่”

“ไม่ต้องมาบอก เพราะที่นี่บ้านของพ่อแม่ฉัน ในขณะที่เธอเป็นแค่คนอาศัย”

หลังจากทิ้งถอยคำที่เต็มไปด้วยความเหยียดหยามใส่หน้าของหล่อนแล้ว คนตัวโตก็ก้าวยาวๆ หายเข้าไปในบ้านไม้หลังงามเบื้องหน้าโดยไม่ใยดีหล่อนอีก น้ำตาไม่รักดีไหลออกมาทันทีที่อยู่ตามลำพัง เจ็บปวดกับวาจาร้ายกาจของนิโคไลยิ่งนัก รู้หรอกว่าเกลียด รู้หรอกว่าชิงชัง แต่หล่อนมีความจำเป็นที่จะต้องได้เขามาเป็นสามี มีความจำเป็นจริงๆ

มือบางยกขึ้นป้ายน้ำตาทิ้ง ก่อนจะฝืนยิ้ม และเดินตามคนใจดำเข้าไปในบ้านไม้หลังงามตรงหน้าด้วยหัวใจที่แสนจะกลัดหนอง

เข้ามาถึงห้องรับแขกก็พบว่ายูรินั่งอยู่บนโซฟา ในขณะที่เกรกอรี่ไม่ได้อยู่ด้วย หล่อนเดาว่ายูริคงไม่รู้เรื่องราวอะไรในอดีตของสามีตัวเองแน่ๆ ถึงยังคงยิ้มอย่างเป็นมิตรให้กับหล่อนแบบนี้ หล่อนเองก็จำต้องยิ้มตอบ ทั้งๆ ที่เห็นสายตาดุกระด้างของนิโคไลที่นั่งอยู่ข้างๆ กับยูริตวัดมองมา

“นั่งก่อนสิหนูอิง...”

“ขอบคุณค่ะคุณป้า”

อิงบุญเดินเข้าไปนั่งโซฟาที่ห่างไกลจากนิโคไลที่สุด แต่กระนั้นเขาก็ยังไม่เลิกใช้สายตาเหยียดหยามมองหน้าหล่อน

“เอ่อ... แล้วคุณลุงไปไหนซะล่ะคะคุณป้า”

ยูริยังไม่ทันจะได้ตอบ นิโคไลก็ชิงพูดขึ้นมาเสียก่อน

“แหม... มาถึงก็ถามหาคุณพ่อของฉันเลยนะ คงจะคิดถึงกันมาก”

คนฟังหน้าชาเพราะรู้ดีว่านิโคไลกำลังคิดอะไรอยู่ในสมองฉลาดๆ ของเขา ในขณะที่ยูริไม่ได้คิดอะไรแบบนั้นแม้แต่นิดเดียว

“ไปว่าน้องแบบนั้นทำไมล่ะนิค ปากเสียนะเราเดี๋ยวนี้”

“ก็ผมพูดเรื่องจริงนี่ครับคุณแม่ ระวังเถอะสักวันจะถูกแย่งคุณพ่อไป”

นิโคไลพูดออกมาอย่างเหลืออด ขณะที่อิงบุญก้มหน้านิ่งพยายามซ่อนความอัปยศอดสูเอาไว้ ไม่อยากจะเชื่อเลยนิโคไลจะคิดแบบนี้กับหล่อนได้

“ไม่เอาน่านิค อย่าพูดเป็นเล่นไป หนูอิงเสียหายนะ”

“แม่นี่มีอะไรให้เสียหายอีกล่ะครับ ผมว่าเสียมาทั้งตัวแล้ว”

นิโคไลผุดลุกขึ้นยืน ขณะจ้องหน้าหญิงสาวที่ทำเป็นนั่งนิ่งสงบเสงี่ยมอยู่ข้างมารดาของตัวเองอย่างหมั่นไส้

“ผมไม่เข้าใจเลยว่าทำไมจะต้องบังคับผมให้แต่งงานกับผู้หญิงคนนี้ด้วย”

“ก็เพราะว่าพ่อมีเหตุผลยังไงล่ะ”

เสียงของเกรกอรี่ไม่ได้ทำให้นิโคไลมองไปยังร่างของชายสูงวัยเพียงคนเดียวเท่านั้น แต่อิงบุญก็เช่นกัน ผู้ชายคนนี้ไงที่บีบคั้นให้หล่อนต้องขยี้ศักดิ์ศรีของตัวเองเพื่อแลกกับการได้พบหน้ากับน้องชายอีกครั้ง

“คุณพ่อ”

“อย่าโวยวาย พ่อเบื่อนิสัยเอาแต่ใจของแกเต็มทีแล้วเจ้านิค”

เกรกอรี่เดินมาทรุดตัวลงนั่งข้างๆ กับภรรยา ก็โซฟาตัวเดิมที่นิโคไลลุกไปนั่นแหละ

“ใจเย็นๆ ค่ะคุณพี่”

ยูริปลอบสามีด้วยเสียงกังวลใจ หล่อนไม่อยากให้พ่อกับลูกทะเลาะกันเลย

“ผมจะเย็นได้ยังไงยูริ ไม่เห็นหรือว่าเจ้านิคมันอาละวาดยังไง”

“ก็ผมไม่อยากแต่งงานกับผู้หญิงสำส่อนคนนี้นี่ครับ”

นิ้วแกร่งชี้มาที่หน้าของหล่อนอย่างไม่ปรานี อิงบุญกัดปากแน่น นั่งก้มหน้าน้ำตาไหลพราก ความอัปยศอดสูวิ่งเข้าใส่ร่างอย่างอำมหิต

เกรกอรี่ปรายตามองหน้าอิงบุญชั่วอึดใจ ก่อนจะหันไปจ้องหน้าลูกชายคนเล็กแทน

“แต่แกต้องแต่ง ห้ามขัดคำสั่งของพ่อเด็ดขาด”

“เรื่องอื่นผมทำให้คุณพ่อได้ แต่เรื่องนี้...”

นิโคไลโกรธจนหน้าแดงก่ำ เพราะเขาเกลียด เกลียดอิงบุญยิ่งนัก ผู้หญิงสารเลว ผู้หญิงแพศยา หล่อนต้องมีแผนชั่วอยู่ในหัวแน่ๆ ถึงได้ใช้วิธีสกปรกจับเขาแบบนี้

“ผมจะไม่ทำ!”

“แต่แกต้องทำ... ถ้าแกไม่ทำฉันจะขับไล่แกออกจากอิสไมนอฟ มาร์คิเดฟ แกจะไม่เหลืออะไรติดตัวเลยแม้แต่เหรียญเดียว”

เกรกอรี่ผุดลุกขึ้นยืน จ้องหน้าลูกชายอย่างไม่ยอมแพ้

“คุณพี่คะ อย่าใจร้อนค่ะ ค่อยๆ พูด...”

“คุณอยู่เฉยๆ ยูริ ผมจะจัดการกับไอ้ลูกดื้อด้านคนนี้ด้วยตัวของผมเอง”

นิโคไลอึ้งไปนานกับคำพูดของบิดา นี่พ่อของเขาหลงผู้หญิงอย่างอิงบุญมากจนยอมแม้กระทั่งจะตัดขาดจากลูกแท้ๆ อย่างเขาเชียวหรือ

ระยำ!

คนตัวโตกำหมัดแน่น ดวงตาสีเขียวมรกตลุกโชนไปด้วยกองไฟ

“ผมยังยืนยันคำเดิม ผมจะไม่มีทางแต่งงานกับอิงบุญ”

“ถ้าแกทำแบบนั้น แกจะไม่เหลืออะไรติดตัวเลยเจ้านิค”

เกรกอรี่ข่มขู่ และคิดว่าลูกชายจอมเอาแต่ใจจะต้องหวาดกลัว แต่ผิดคาด ผิดคาดถนัดตา เพราะนิโคไลกลับแสยะยิ้ม และพูดในสิ่งที่เขาไม่เคยคิดว่าจะได้ยินออกมา

“ผมยอมเป็นยาจก ดีกว่ามีเมียเป็นผู้หญิงสำส่อน”

“เจ้านิค!”

เกรกอรี่และยูริเต็มไปด้วยความตื่นตกใจกับสิ่งที่ได้ยิน แต่คงไม่มีใครเจ็บปวด ช้ำใจเท่ากับอิงบุญอีกแล้ว ตอนนี้... ตอนนี้รู้อย่างชัดเจนว่าผู้ชายคนนี้เกลียดหล่อนมากแค่ไหน และไม่ว่าจะทำอะไร จะทำยังไงเขาก็ไม่มีทางยอมแต่งงานด้วย ความหวังของหล่อนที่จะได้พบกับน้องชายอีกครั้งก็คงจะต้องจางหายไปชั่วนิรันดร์

ทำไมโลกใบนี้ถึงช่างโหดร้ายกับหล่อนนักหนานะ

อิงบุญร่ำไห้ออกมาเงียบๆ อย่างสุดจะกลั้น ในขณะที่เกรกอรี่ผู้เป็นพ่อก็เต็มไปด้วยความเป็นกังวลเพราะกลัวว่าสิ่งที่ตัวเองตั้งใจเอาไว้จะหลุดลอย

“แกพูดจริงหรือเจ้านิค”

“มันคือความจริงที่สุดเท่าที่ผมเคยพูดมาเลยแหละ เพราะถ้าคุณพ่อยังยืนยันว่าจะบังคับให้ผมแต่งงานกับผู้หญิงมือสองคนนี้อีกล่ะก็ ผมจะเดินออกจากที่นี่ไป และจะไม่มีวันหวนกลับมาอีก ไม่ว่าจะเพราะเหตุอะไรก็ตาม”

“ไม่นะนิค อย่าทำแบบนี้นะ แม่ไม่ยอม”

ยูริโวยวายเพราะรักลูกชายมาก หล่อนหันไปขอร้องสามีเสียงสั่น

“คุณพี่คะ ในเมื่อนิคไม่อยากแต่ง เราก็อย่าไปบังคับจิตใจลูกเลยค่ะ ให้ตาคิลล์แต่งแทนก็ได้ นะคะ อย่าให้นิคต้องออกไปจากบ้านเลย”

คำว่าให้พี่ชายแต่งงานกับอิงบุญแทนเขา ทำให้นิโคไลรู้สึกหัวใจกระตุกขึ้นอย่างรุนแรงอย่างไม่ทราบสาเหตุ

“พี่คิลล์ดีเกินไปที่จะมาสู้รบตบมือกับแม่นี่”

เกรกอรี่หรี่ตามองบุตรชายคนเล็ก มองอย่างรู้ทันในความคิด

“ก็ถ้าแกเลือกที่จะปฏิเสธ ฉันก็จะต้องเปลี่ยนเป้าหมายเป็นเจ้าคิลล์”

นิโคไลอึ้งไปนาน เขาจ้องหน้าบิดา ก่อนจะหรี่ตาแคบมองแม่ผู้หญิงที่เอาแต่ก้มหน้าก้มตามองตักตัวเองอยู่ด้วยความแค้นใจ นี่หล่อนคิดจะกวาดพวกเขาทั้งตระกูลเลยหรือไงนะ

“พี่คิลล์ไม่มีทางยอม”

“นั่นมันเป็นเรื่องของฉันที่จะต้องจัดการ ส่วนแก... ฉันให้เวลาคิดสามวันแล้วค่อยมาให้คำตอบ ถ้ายังยืนกรานคำเดิม ฉันจะได้ติดต่อเจ้าคิลล์”

กรามแกร่งของนิโคไลขบกันจนแน่น สองมือกำเป็นกำปั้นอยู่ข้างตัว ให้ตายเถอะ ทำไมจะต้องรู้สึกอึดอัดใจแบบนี้นะ อิงบุญจะเปลี่ยนจากเขาเป็นคิริลก็ไม่เห็นจะเป็นอะไรเลย แต่ทำไมลึกๆ ภายในถึงรู้สึกกระวนกระวายแบบนี้นะ เพราะอะไร

“ผมขอตัวก่อนครับ”

เมื่อรู้ว่าความสามารถในการต่อสู้ลดลงนิโคไลจึงเลือกที่จะหนีกลับขึ้นห้องพัก เขากระแทกเท้าเดินจากไปอย่างหงุดหงิด เกรกอรี่มองตามไปด้วยความรู้สึกเบื่อหน่าย ในขณะที่อิงบุญเต็มไปด้วยความเจ็บปวดทรมาน

หรือว่าหล่อนควรจะล้มเลิกทุกอย่างลง และเดินจากตระกูลนี้ไปเสียที