7 แผนใหม่
"ก่อนจะไปทำงานต้องจุ๊บหนูก่อนทุกครั้งนะ หลังทำงานเสร็จกลับมาเจอกันก็ต้องจุ๊บหนูทุกครั้งเหมือนกัน" เฟรย่ากอดอกมองค้อนในตอนที่ชานนท์กำลังจะเดินผ่านหน้าเธอออกไป เขาชะงักไปเล็กน้อยกับสิ่งที่เธอเอื้อนเอ่ยออกมา ชานนท์แอบคิดในใจว่าเด็กคนนี้อาจจะเป็นเจ้ากรรมนายเวรของเขาตั้งแต่ชาติปางก่อน เพราะยังไม่ทันไรเธอก็แสดงอำนาจกับเขาแล้ว
"เร็วๆสิ เดี๋ยวไม่ยกขันหมากไปขอนะ" ประโยคนั้นมันควรจะเป็นของผู้ชายอกสามศอกอย่างเขาไม่ใช่เหรอ? หรือโลกมันเปลี่ยนไปแล้ว? ชานนท์แทบกุมขมับกับกระบวนการความคิดของเด็กสาว เขาไม่แปลกใจเลยว่าทำไมเฟรย่าถึงเรียนจบไฮสคูลเร็วกว่าเด็กในวัยเดียวกัน เพราะเธอฉลาดและเจ้าเล่ห์กว่าเด็กในวัยเดียวกันมาก
"หมอจะไม่ทำอะไรที่ตัวเองไม่อยากทำ"
"หนูให้แด๊ดดี้พูดใหม่อีกรอบค่ะ เพราะถ้าแด๊ดดี้ไม่เดินมาจูบหนู หนูจะเดินไปจูบแด๊ดดี้เอง แต่ไม่รับประกันว่าเสื้อผ้าของแด๊ดดี้จะอยู่ครบนะคะ" ให้ตายเถอะ! เด็กอะไรน่ากลัวชะมัด นอกจากเธอจะใช้คำพูดข่มขู่เขาแล้วยังจะมองเขาด้วยสายตากะลิ้มกะเหลี่ยอีกต่างหาก ชานนท์แอบคิดว่าการกระทำแบบนั้นมันเหมาะกับผู้ชายดิบเถื่อนที่ชอบใช้กำลังบังคับผู้หญิงมากกว่านะ
แม้จะคิดอย่างนั้นแต่ชานนท์ก็เป็นฝ่ายเดินเข้าไปหาเด็กสาวที่กำลังแสยะยิ้ม เขามองว่ารอยยิ้มของเธอมันคือรอยยิ้มของปีศาจชัดๆ
มุมปากบางยกยิ้มพึงพอใจในตอนที่นายแพทย์หนุ่มเลื่อนใบหน้าเข้ามาจูบเบาๆตรงริมฝีปาก ทั้งที่ไม่มีการรุกล้ำใดๆแต่กลับอบอุ่นหัวใจอย่างประหลาด ที่ผ่านมาไม่เคยมีผู้ชายคนไหนสามารถทำให้เธอมีความรู้สึกแบบนี้ได้เลย
ฟอดดดดดด~
"ตั้งใจทำงานนะคะ" เธอหอมแก้มฟอดใหญ่เป็นการตอบแทนความน่ารักของหมอหนุ่ม ซึ่งชานนท์ก็พยักหน้ารับแบบส่งๆ ก่อนจะผลุนผลันเดินออกไป เพราะนึกได้ว่ามีคนไข้รออยู่
"ผู้ชายอะไรน่ารักเป็นบ้าเลย อบอุ่นสมกับเป็นหมอ ถึงจะแอบดุแต่ก็ตามใจ เนี่ยแหละคุณสมบัติของสามีที่ดี" เด็กสาวยิ้มน้อยยิ้มใหญ่พลางทำหน้าปลาบปลื้มกับความเพอร์เฟกต์ของชานนท์
"ถ้าเจอกันตั้งแต่ตอนเด็กๆก็ดีสิ จะได้ให้คุณพ่อกับคุณแม่จัดงานหมั้นให้ก่อนตั้งแต่ตอนนั้น พอกลับมาจากเมืองนอกจะได้แต่งงานกันเลย" มันคงจะดีไม่น้อยถ้าได้เป็นเมียตัวน้อยของเขาตั้งแต่ยังแบเบาะ แต่จะมีสักกี่คนกันนะที่ได้เห็นเนื้อคู่ของตัวเองตั้งแต่วินาทีแรกที่ลืมตาดูโลก
"แต่ไม่เป็นไร ถึงจะไม่ได้เจอกันตั้งแต่เด็กๆ ตอนนี้แด๊ดดี้ก็เป็นของเราคนเดียวอยู่ดี คิกคิก" เฟรย่าหัวเราะคิกคักอย่างชอบใจ ก่อนจะกระชากตัวลุกขึ้นเดินตรงเข้าไปอาบน้ำล้างหน้าในห้องน้ำ
"หายไปไหนมาทั้งคืน" น้ำเสียงเข้มของผู้เป็นพ่อดังขึ้นทันทีที่ก้าวเท้าเข้ามาในห้องโถงใหญ่ เฟรย่าส่งยิ้มหวานไม่สะทกสะท้านให้กับคาเรนและอิงดาวที่กำลังนั่งรอเธออยู่ตรงโซฟารับแขก พร้อมเดินเข้าไปหย่อนตัวนั่งลงฝั่งตรงข้าม
"ไปนอนบ้านเพื่อนมาค่ะ หนูบอกคุณพ่อคุณแม่แล้วนะ เพราะงั้นห้ามด่าหนูเด็ดขาด"
"นิสัยเหมือนพ่อไม่มีผิด" อิงดาวพูดขึ้นอย่างเหลืออด แต่ยังไม่วายกระแนะกระแหนคนข้างๆ คาเรนที่โดนหางเลขไปด้วยทำหน้าเซ็ง
"แล้วนี่กินอะไรมารึยัง เดี๋ยวแม่ไปเอามาให้"
"อันที่จริงก็กินมาแล้วค่ะ แต่ถ้าคุณแม่จะไปเอามาให้ก็ขอบคุณนะคะคนสวยของหนู" เฟรย่าได้ทีประจบประแจงเสียงหวาน
"ไม่ต้องมาประจบ แม่ไม่หลงกลหรอก"
"หนูเห็นนะว่าแอบอมยิ้ม" เด็กสาวทำหน้าล้อเลียน ทำเอาอิงดาวหลุดยิ้ม เธอชี้หน้าคาดโทษลูกสาว จากนั้นจึงเดินเลี่ยงออกไป
"เมียคุณพ่อน่ารักจังเลยนะคะ"
"แน่นอนสิ เพราะพ่อตาถึง" คาเรนยิ้มรับ
"งั้นหนูขอถามอะไรหน่อยได้ไหมคะ"
"ว่ามาสิ"
"คุณพ่อเป็นคนแรกของคุณแม่รึเปล่าคะ"
"ใช่ คนแรก คนเดียว คนสุดท้าย หนูถามทำไม" มาเฟียใหญ่ขมวดคิ้วถามกลับ ไม่บ่อยนักที่เขาจะมีโอกาสพูดคุยเรื่องแบบนี้กับลูกสาว
"แค่อยากรู้เฉยๆค่ะ แล้วถ้าสมมุติว่าคุณแม่ไม่ใช่คนแรกของคุณพ่อ คุณพ่อจะรักคุณแม่มากเท่านี้ไหมคะ"
"ถ้าได้เป็นคนแรกมันก็ดี แต่ถึงจะไม่ได้เป็นคนแรกของแม่เขา พ่อก็รักแม่เหมือนเดิมนั่นแหละ เพราะความรักสำหรับพ่อมันมีค่ามากกว่าความบริสุทธิ์ แล้วพ่อก็ไม่ได้คาดหวังด้วย"
"เราควรเสียบริสุทธิ์ตอนไหนคะ"
"หนูถามว่าอะไรนะ?" คาเรนถามย้ำ เพราะไม่มั่นใจว่าเมื่อสักครู่เขาฟังถูกจริงๆ
"หนูถามว่าเราควรเสียบริสุทธิ์ตอนไหนคะ"
"ของแบบนี้มันตอบแทนกันไม่ได้หรอก เพราะความรู้สึกกับความต้องการของคนเรามันต่างกัน แต่พ่อจะบอกอะไรให้อย่างนึงนะ"
"..."
"เมื่อไหร่ที่เราทำตัวง่ายก็อย่าเรียกร้องให้คนอื่นมองเห็นคุณค่าในตัวเรา เพราะเราทำลายมันไปหมดแล้ว"
"..." เฟรย่าได้แต่นั่งฟังตาปริบๆ
"พ่อตอบไม่ได้ว่าผู้หญิงควรเสียบริสุทธิ์ตอนไหน แต่พ่อตอบได้ว่าเมื่อไหร่ที่เรามอบความบริสุทธิ์ให้ใครสักคนแล้ว นั่นหมายความว่าเรามอบศักดิ์ศรีของตัวเองให้เขาด้วย เพราะงั้นจะทำอะไรก็คิดให้ดี บางอย่างที่เสียไปแล้วมันเรียกกลับคืนมาไม่ได้"
"..." ทั้งที่เข้าใจในคำสั่งสอนของพ่อเป็นอย่างดี แต่เธอกลับไม่รู้สึกเสียใจเลยที่มอบความบริสุทธิ์ให้ชานนท์ มันชัดเจนว่าหัวใจและร่างกายของเธอเลือกเขาเป็นเจ้าของแล้ว
"คุณพ่อขา ถ้าสมมุติว่าเราชอบใครสักคน เราจะทำยังไงให้ได้เขามาเหรอคะ"
"ก็คงต้องจีบมั้ง"
"จีบเหรอ? แล้วคุณพ่อจีบแม่ยังไงคะ"
"พ่อเจอแม่ที่ผับ แล้วก็ฉุดเลย เพราะแม่เขาเมา"
"ฉุดเลยเหรอ!" เฟรย่าทำหน้าตกใจ
"ตอนนั้นพ่อยังนิสัยเสีย เอาแต่ใจตัวเอง เลยทำอะไรแบบนั้นลงไป" เด็กสาวมองหน้าผู้เป็นพ่อตาปริบๆ ก่อนจะลอบแสยะยิ้มเจ้าเล่ห์
"หนูหมดคำถามแล้วค่ะ ขอขึ้นไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนนะคะ เดี๋ยวลงมาทานของว่างค่ะ" ว่าจบก็พุ่งตัวเข้าไปหอมแก้มสากของคาเรนฟอดใหญ่ แล้ววิ่งฮัมเพลงขึ้นไปบนชั้นสองอย่างสบายใจเฉิบ ทำเอาคาเรนมึนงงกับท่าทางอารมณ์ดีของลูกสาว
"หวังว่าเจ้าตัวแสบจะไม่ได้ไปแอบฉุดผู้ชายคนไหนมานะ" แค่คิดว่าต้องเป็นฝ่ายยกขันหมากไปสู่ขอผู้ชายให้ลูกสาวจอมแสบก็อายจนแทบมุดดินหนีแล้ว หวังว่าเฟรย่าจะไม่เจริญรอยตามเขาหมดทุกอย่างหรอกนะ
