ep3
ริสาลงจากรถกระบะโดยสารประจำทางของหมู่บ้าน พร้อมกระเป๋าเป้ใบใหญ่ ไร่ชาผืนกว้างทอดตัวยาวสลับกับการปลูกไม้เมืองหนาวบนเนินเขาที่สลับซับซ้อนสวยงามราวกับภาพวาด เธอนิ่งมองดูมันราวกับจะจดจำภาพนั้นไว้ในความทรงจำ เพราะอีกไม่นาน...ไม่รู้ว่าชีวิตของเธอจะเปลี่ยนแปลงไปมากน้อยแค่ไหน
สิ่งที่นายเดชทำกับเธอราวกับเธอไม่มีหัวใจและไม่ให้เกียรติ หญิงสาวจึงหาทางออกโดยการยอมทำตามเงื่อนไขด้วยการมาหานายดอน น้องชายของเขา นายเดชพูดได้ดีว่าการส่งเธอมาก็เพื่อทำให้น้องชายของเขารัก แต่ความหมายจริงๆ คือส่งเธอมาเป็นเมียน้องชายของเขานั่นเอง ถ้าพ่อไม่ป่วย เธอคงไม่ดั้นด้นมาถึงที่นี่ คนที่รู้เรื่องนี้ ว่าประธานบริษัทส่งเธอไปหาน้องชาย ต่างก็อิจฉาเธอที่จะได้ไปเป็นเมียท่านรองประธานสุดหล่อ จะมีก็แต่เธอที่กระอักกระอ่วนใจที่ต้องพาตัวเองมานำเสนอเขาถึงที่
“คุณไม่ต้องกลัวว่าเขาจะไล่คุณ นายดอนไม่ใช่คนป่าเถื่อนอะไร เขาเป็นคนใจดี”
“คุณหน้าเหมือนน้องสะใภ้ผม ผมเชื่อว่าเขาจะรักคุณได้ไม่ยาก”
“คุณไม่ต้องห่วงครอบครัวของคุณ ผมจะดูแลให้เอง ทั้งพ่อที่ป่วย และน้องสาวที่กำลังเรียนอยู่”
นายเดช อุตส่าห์ชักแม่น้ำทั้งห้าให้เธอยอมตกลงทำตามสัญญากับเขา จะว่าไปแล้วเงินจำนวนนั้นคนอย่างเธอหาอีกกี่ชาติกว่าจะหาได้ แต่เหตุผลสำคัญที่สุดที่เธอยอมเสี่ยงคือ เธอจะหลุดมาจากผู้ชายที่ชื่อเดชเสียที แม้ว่าผู้ชายที่เธอกำลังจะไปเป็นเมียบริจาคของเขานั้น เธอจะไม่รู้จักเขาสักนิด แต่ดูจากข่าวแล้ว เขาน่าจะเป็นคนดี
หญิงสาวถอนใจแล้วเดินเท้าเข้าไปในไร่ชา เพื่อถามหาคนชื่อดอนกับคนงานที่กำลังเก็บใบชาอยู่ พวกเขาหันมามองดูเธออย่างแปลกใจ ก่อนจะชี้ไปที่กระท่อมหลังหนึ่งปลายไร่ชาของบริเวณนี้ เธอแทบจะถอดใจ เมื่อต้องแบกเป้เดินไกลขนาดนั้น แต่เมื่อนึกถึงงานและเงิน ทำให้เธอกัดฟันเดินไปหาเขาที่กระท่อม
******
ริสากัดฟันเดินลัดเลาะเนินเขาที่ปลูกไร่ชาสลับกับผักเมืองหนาวไปจนถึงกระท่อมที่ปลูกสร้างโดดเด่นอยู่บนเนินเขาเตี้ยๆ ที่รายล้อมไปด้วยดอกไม้สีขาว ที่ชาวบ้านเรียกกันว่า หอมหมื่นลี้ เธอหยุดสูดความหอมที่ของมันเข้าปอดเพื่อเรียกกำลังใจ ก่อนที่จะเข้าไปเจอเจ้าของบ้าน
กระท่อมที่มองเห็นจากฟากถนน ดูเหมือนเป็นกระท่อมธรรมดา ทว่า..เมื่อมามองใกล้ๆ แล้ว เธอจึงรู้ว่า กระท่อมนี้เป็นบ้านดินที่ปลูกสร้างอย่างมีสไตล์ ประตูทำด้วยไม้ไผ่ขัดแตะ มันปิดอยู่ หน้าต่างทุกบานก็ปิดหมด ริสาวางกระเป๋าไว้หน้าประตูก่อนจะเดินไปรอบๆ กระท่อม ซึ่งก็พบว่าไม่มีใครอยู่ หญิงสาวรวบรวมความกล้า เดินมาที่หน้าประตูอีกครั้งแล้วเรียกชายหนุ่มเบาๆ
“คุณดอนคะ คุณดอน...”
“......”
หญิงสาวนิ่งฟังเสียงตอบรับภายในกระท่อมบ้านดินหลังสวย แต่ทุกอย่างเงียบสนิท เธอเรียกอีกสามสี่ครั้ง ทุกอย่างก็ยังคงเงียบเช่นเดิม ริสาจึงลองผลักประตูเบาๆ ก็พบว่ามันไม่ได้ปิดไว้อย่างแน่นหนาอะไร เธอพยายามมองเข้าไปในกระท่อมที่มีเพียงแสงสลัวภายนอกสาดส่องเข้ามาเพียงเล็กน้อย ซึ่งก็พบว่าไม่มีใครอยู่ภายใน เธอกวาดสายตามองไปรอบๆ ห้อง ในนั้นมีเพียงฟูกนอนที่วางบนพื้นที่ยกสูง บนหลังคาผูกเชือกห้อยมุ้งกระโจมเอาไว้ ข้างๆ มีโต๊ะเขียนหนังสือ และชั้นวางหนังสือเรียงรายอยู่ นั่นแสดงว่าเขาเป็นนักอ่านตัวยงเลยทีเดียว
ริสาแอบโลงใจเล็กน้อยที่ยังไม่เจอเขาในตอนนี้ เพราะการเดินทางที่ยาวไกลทำให้เธอนึกอยากพักผ่อนสักงีบ ก่อนจะเจรจากับเขา เธอยอมรับว่าเธอเครียดมาตลอดการเดินทาง ถ้าได้พักสักตื่น สมองเธออาจจะปลอดโปร่งกว่านี้ เธอคิดแผนไว้แล้วว่า..เธอจะลองมาขออาศัยอยู่กับเขาก่อน เพื่อสร้างความคุ้นเคย อาจเป็นแม่บ้าน ทำงานบ้านให้เขา แล้วค่อยๆ สานสัมพันธ์ นายเดชบอกว่าหน้าตาเธอเหมือนภรรยาของเขาที่เสียชีวิตไป มันคงทำให้เขาใจอ่อนลงบ้าง แต่ถ้าแผนของเธอไม่สำเร็จ เธอก็แค่กลับไป เพราะอย่างน้อยเธอก็ได้ลองดู และเมื่อถึงวันนั้นพ่อของเธอคงจะหายดีแล้ว
******
