บท
ตั้งค่า

เมียนายเถื่อน | 10

“ใส่บรามันนอนไม่สบายไม่รู้หรอ” ผมพูดขึ้นหลังจากจัดการถอดบราของคนข้างๆออกไปแล้ว

“ก็รู้แต่นอนกับคนเจ้าเล่ห์แบบเถื่อนก็ต้องป้องกันตัวเองหน่อยไหมละ” เธอตอบกลับมาทันทีทำผมหลุดหัวเราะ

“แล้วเป็นไงสุดท้ายกูก็ถอดอยู่ดี” ผมตอบกลับอีกครั้งเมื่อเห็นว่าคนตรงหน้าเงียบและเม้มปากแน่นผมก็พูดขึ้นต่อ

“กูจะไม่ทำอะไรมึงจนกว่ามึงจะพร้อมแล้วอยู่กับกูก็ทำตัวสบายๆได้เลย” ผมพูดขึ้นพร้อมกับหอมแก้มคนข้างๆแรงๆหมั่นเขี้ยวฉิบหายคนอะไรน่าแดกไปทั้งตัว

“เชื่อได้หรอเถื่อน” เธอถามกลับมาทันที

“มึงเชื่อกูได้เสมอข้าวแต่ตอนนี้ขอจับนมได้ไหม อยู่ใกล้ๆแบบนี้แล้วอดใจไม่ไหววะ” พูดจบก็สอดมือเข้าไปใต้เสื้อของข้าวเจ้าทันทีโดยไม่รอคำอนุญาตจากเธอ

“นายมันเจ้าเล่ห์เถื่อน” ผมไหวไหล่อย่างไม่สนใจเพราะตอนนี้สิ่งที่ผมสนใจคือหน้าอกคู่สวยที่มือผมสัมผัสอยู่

เช้าวันใหม่ที่เราตื่นขึ้นมาเป็นเช้าวันเสาร์และแน่นอนว่าผมตื่นก่อนข้าวเจ้า ผมก็จัดการลงไปซื้อข้าวเหนียวหมูทอดหน้าคอนโดเพื่อเป็นอาหารเช้าสำหรับเรา

“ข้าวเจ้า” ผมเขย่าแขนคนตรงหน้าเบาๆพร้อมเรียกชื่อเธอขึ้น

“อื้อ” น้ำเสียงงัวเงียพร้อมกับร่างกายที่บิดขี้เกียจก่อนที่ข้าวเจ้าจะลุกขึ้นนั่งและขยี้ตาเบาๆ

“กี่โมงแล้ว” ข้าวเจ้าถามขึ้นอีกครั้ง

“แปดโมงแล้วลุกขึ้นไปล้างหน้าแปรงฟันแล้วมากินข้าว” ผมพูดพร้อมกับพยายามดันคนข้างๆให้ลุกจากเตียง

“จะไปไหนปลุกแต่เช้าเลยข้าวยังนอนไม่อิ่มเลยนะเถื่อน” เธอพูดขึ้นพร้อมกับทำหน้าบูดๆ

“จะพาไปเที่ยวไปจัดการตัวเองแล้วมากินข้าว” ผมพูดขึ้นอีกครั้ง เธอก็ลุกจากเตียงโดยง่ายพร้อมกับตรงเข้าห้องน้ำทันทีส่วนผมก็ตรงมาในครัวเพื่อเตรียมข้าวเหนียวหมูทอดให้เธอ

“น่ากินจังเถื่อนร้านไหนอะ” ข้าวเจ้าเดินออกมาเห็นข้าวเหนียวหมูทอดในจานก็แสดงใบหน้าที่ตื่นเต้นสุดๆ

“น่ากินก็มากินเร็วๆ”

“กินน้ำเดี๋ยวติดคอ” ผมพูดอีกครั้งก่อนจะส่งแก้วน้ำให้คนข้างๆ

“ขี้บ่นจัง” เธอพูดพร้อมกับยู่หน้าใส่ผม

“เป็นห่วงไง” ผมตอบกลับอีกครั้งทำเอาคนข้างๆหน้าขึ้นสีเพราะอาการเขิน

“ว่าแต่เถื่อนจะพาข้าวไปเที่ยวไหน” ข้างเจ้าถามขึ้นต่อทันทีระหว่างที่กำลังเคี้ยวข้าวเหนียวหมูอยู่เต็มปาก

“มึงอยากไปไหน” เพราะผมตั้งใจไว้แล่วว่าวันนี้จะตามใจเธอ เธออยากไปไหนผมก็จะพาไป

“งั้นขอคิดก่อนละกันคิดออกจะบอกนะ” พูดจบก็ไม่มีบทสนทนาอะไรบนโต๊ะอาหารอีกเลยเพราะข้าวเจ้าเอาแต่ตั้งหน้าตั้งตากินสุดชีวิตส่วนผมก็ได้แต่ยิ้มตามในความน่ารักของเธอ

“เอามาเดี๋ยวล้างให้” ไม่บอกผมก็จะยัดเยียดให้เธอล้างเพราะผมไปซื้อมาแล้วเธอก็ต้องล้าง ฮ่าๆหยอกครับ ถ้าให้ผมล้างผมก็ไม่ติดเพราะผมเป็นคนค่อยข้างชอบทำงานบ้านเรื่องแบบนี้ผมไม่ติด

“งั้นกูไปอาบน้ำรอรีบล้างแล้วรีบเข้ามาอาบน้ำ” ผมพูดอีกครั้งถ้าเธอคล้อยตามกับประโยคที่ผมพูดผมก็ไม่ติด

“คือไรอะรอให้ข้าวไปอาบด้วยอะนะ” เธอถามผมกลับทันที

“อยากอาบกับกูไหมละ ถ้าอยากอาบก็เข้ามา” ผมพูดขึ้นพร้อมกับขำออกมาเล็กน้อย

“ตลกหรอเถื่อนรีบไปอาบเลยข้าวอยากไปเที่ยวแล้ว” ผมไม่ได้ตอบอะไรได้แต่เดินเข้าห้องมาอาบน้ำ จัดการร่างกายตัวเองให้ดูดี

เพราะต่อให้หน้าจะเป็นแผลนิดๆก็ไม่สามารถทำลายความหล่อของผมลงได้

หลังจากออกจากห้องน้ำมาผมแต่งตัวสบายๆ กางเกงยีนส์สีดำกับเสื้อยืดคอวีสีขาวตัวบางผมเป็นคนชอบแต่งตัวแบบนี้อยู่แล้วไม่ว่าไปไหนก็ขอแค่กางเกงยีนส์เสื้อยืดเป็นอันจบ

“เถื่อนคอเสื้อกว้างไปรึเปล่า” เสียงข้าวเจ้าที่นั่งอยู่ทักขึ้นเมื่อผมเดินออกมาจากห้องแต่งตัว

“ปกติไปอาบน้ำได้แล้วมึงอะ” ผมตอบกลับทันทีก่อนหวีผมตัวเองหน้ากระจก

วันนี้นับว่าเป็นอีกหนึ่งวันก็ว่าได้เพราะอยากรู้ว่าเธอแต่งตัวยังไงจะแต่งแบบดีๆหรือจะใส่ผ้าเช็ดตีนออกมาแต่ลืมไปว่าเธอนอนอยูาห้องผมก็คงจะไม่มีเสื้อผ้า

“คีย์การ์ดห้องมึงอยู่ไหนข้าวก็จะไปเอาเสื้อผ้าให้” ผมตะโกนถามคนในห้องน้ำทันที เพราะถ้าให้ข้าวเจ้านุ่งกระโจงอกไปเอาเองผมคงไม่ยอมแน่ๆ

“ในกระเป๋าอะไปเอาเสื้อผ้าให้หน่อยนะเถื่อน” เธอตะโกนออกมาอีกครั้งส่วนผมก็หาคีย์การ์ดในกระเป๋าเธอก่อนจะลงไปยังชั้นยี่สิบห้า

ผมเปิดตู้เสื้อผ้าก็ได้แต่หรอกตามองบนเพราะมีแต่เสื้อผ้าอะไรก็ไม่รู้เลยเลือกหยิบชุดที่ผมคิดว่าโอเคที่สุดมันก็ชุดกางเกงยีนส์เสื้อยืดธรรมดานี่แหละแต่เลือกหยิบกางเกงยีนส์สีดำเสื้อยืดขาวเพราะจะได้เหมือนกับว่าเราแต่งตัวคู่กันและผมไม่ลืมที่จะเปิดลิ้นชักหยิบชั้นในและกระเป๋าเครื่องสำอางของเธอออกมาด้วย

จากนั้นก็รีบขึ้นไปบนชั้นสามสิบทันที ส่วนข้าวเจ้าในตอนนี้ก็มีผ้าขนหนูพันรอบตัวนั่งรออยู่บนเตียง

“อะนี่” ผมพูดขึ้นพร้อมส่งชุดให้กับข้าวเจ้า

“หยิบกระเป๋าเครื่องสำอางมาด้วยรู้ใจจริง” ข้าวเจ้าเอื้อมมามารับของก่อนจะพูดขึ้นอีกครั้ง ส่วนผมก็ได้แต่ยกยิ้มมุมปากเพราะคำพูดของเธอ

“เก่ง” ผมพูดขึ้นอีกครั้งเพราะผมเก่งจริงๆนั้นแหละ

แต่เหมือนผมคิดผิดนะเพราะเสื้อที่ข้าวเจ้าใส่มันดูเล็กอีกทั้งยังรัดรูปอีกต่างหาก กูหยิบอะไรมาวะเนี่ย

“เสื้อหมารึไงวะอะไรจะขนาดนั้น” ผมพูดขึ้นพร้อมอาการหัวเสียสุดๆรู้สึกไม่ชอบใจเลยกับเสื้อของเธอวันนี้

“เถื่อนหยิบมาเองนะ” เธอตอบกลับมาทันที

“ก็รู้ว่าหยิบมาเอง” ผมพูดขึ้นต่อพร้อมกับเดินเข้าไปในห้องแต่งตัวหาแจ็คเก็ตที่เล็กที่สุดในตู้

“ใส่นี่ได้ด้วย” ผมพูดขึ้นอีกครั้งก่อนจะโยนแจ็คเก็ตให้เธอ

“อากาศร้อนแบบนี้ใส่ไปมีหวังตายนะเถื่อน” เธอตอบกลับแต่ก็ยอมรับแจ็คเก็ตของผมไว้ในมือ

“กูหวงของของกูไม่อยากให้ใครมองเพราะงั้นช่วยใส่เสื้อตัวนี้เหอะ”

❤️

ห่วงน้อง

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel