บท
ตั้งค่า

บทที่2

กรี๊ง กรี๊ง กรี๊ง

คนที่นั่งออกแบบเสื้อผ้าคอลเลคชั่นใหม่อยู่บนโต๊ะทำงานหันไปมองโทรศัพท์ของตัวเองที่มีสายเรียกเข้า ชื่อที่โชว์อยู่บนหน้าจอทำให้คิ้วทั้งสองข้างของ "ปิ่นมุก"ขมวดกันเข้าหา ก่อนที่มือเรียวบางจะคว้าโทรศัพท์ขึ้นมากอดรับ น้ำเสียงที่ติดจะนิ่งทำเอาคนที่อยู่ปลายสายถึงกับถอนหายใจ

"สวัสดีค่ะคุณพ่อ โทรหามุกมีธุระอะไรหรือเปล่าคะ"

"ต้องให้พ่อมีธุระก่อนใช่ไหม พ่อถึงจะโทรหาลูกได้"

"เปล่าหรอกค่ะ"น้ำเสียงตัดพ้อของผู้เป็นพ่อทำให้เธอถึงกับลอบถอนหายใจออกมาเบา ๆ

"มุกลูก วันนี้เลิกงานแล้วลูกเข้ามาหาพ่อที่บ้านใหญ่ด้วยนะ"

"แค่นี้ช่ไหมคะ"

"เอ่อคือว่า"เสียงของเจ้าสัวธนินท์เงียบหายไป ก่อนที่จะมีประโยคคำพูดหนึ่งของผู้เป็นพ่อดังเข้ามาในสาย

"อย่าทำงานให้หนักมากนะลูก พักผ่อนบ้าง พ่อเป็นห่วง พ่อรักหนูนะลูกปิ่นมุก"ประโยคที่พูดออกมารัว ๆ จนแทนจะฟังไม่ทัน ก่อนที่ปลายสายจะวางสายไป แต่ประโยคเหล่านั้นกลับทำให้คนที่ได้ยินมันถึงกับต้องยิ้มออกมา

"หนูก็รักพ่อค่ะ"ดวงตากลมโตมองรูปครอบครัวที่ตั้งอยู่บนหน้าจอ

วอลล์เปเปอร์ รอยยิ้มของเธอที่นาน ๆ ครั้งจะได้ยิ้มออกมาให้ใครได้เห็น กำลังยิ้มให้กับภาพครอบครัวที่อบอุ่นของตัวเอง ก่อนจะวางโทรศัพท์เอาไว้ที่เดิมแล้วหันหน้ามาสนใจกับงานของตัวเองที่ยังค้างเอาไว้

หลังจากที่เลิกงานปิ่นมุกก็รีบเก็บกระเป๋าและข้าวของสำคัญของตัวเองไปใส่ในรถก่อนที่เธอจะขับออกไป มุ่งหน้าสู้ถนน ตอนเย็นแบบนี้จราจรคงไม่ต้องพูดถึง รถหลายคันต่างจอดติดกันยาวเป็นหางว่าวกว่าจะขับรถมาถึงบ้านของตัวเองก็ใช่เวลานานอยู่พอสมควร รถเบนซ์ธรรมดาไม่ได้หรูหราอะไรมากมายขับเข้ามาในคฤหาสน์หลังใหญ่ที่ตกแต่งเอาไว้อย่างหรูหรา แต่ด้านหน้าก็ถูกตกแต่งอย่างงดงามตระการตา รูปปั้นกามเทพแผลงศรที่ต้องอยู่ด้านหน้ามันช่างดึงดูดสายตาของใครหลายต่อหลายคนที่ได้มอง

"ลูกมุก แม่คิดถึงหนูที่สุดเลย"ทันทีที่เธอเดินก้าวเข้ามาในบ้าน คุณแม่ยังสาวของเธอก็รีบวิ่งเข้ามากอดด้วยความคิดถึง กลิ่นหอมประจำตัวจากแก้มของลูกสาวทำเอาผู้เป็นแม่พอคลายคิดถึงลงได้บ้าง

"หนูก็คิดถึงคุณแม่เหมือนกันค่ะ"

"ไม่จริง ถ้าลูกคิดถึงแม่ลูกก็ต้องมาหาแม่บ้าง ไม่ใช่หายหน้าไปแบบนี้นี่ถ้าคุณพ่อไม่โทรเรียกให้ลูกเข้ามาหาลูกก็คงจะไม่มา"ผู้เป็นแม่เอ่ยด้วยทำเสียงติดงอน ที่ลูกสาวเพียงคนเดียวของตัวเธอไม่มีเวลาให้ เพราะวัน ๆ เอาแต่ทำงานหนักจนไม่มีเวลามาหาเธอและสามี

"หนูต้องขอโทษคุณแม่ด้วยนะคะ ที่ไม่มีเวลาให้ช่วงนี้หนูมัวแต่ยุ่งกับการออกแบบเสื้อผ้าคอลเลคชั่นใหม่"ปิ่นมุกเดินเข้าไปโอบเอวของผู้เป็นแม่ แก้มนวลที่เติมแต่งเพียงแค่แป้งเด็กอิงซบบนไหล่ของผู้เป็นแม่อย่างออดอ้อน 

"ไม่ต้องมาอ้อนแม่เลย"

"ว่าแต่คุณพ่อโทรเรียกหนูทำไมเหรอคะ คุณแม่พอจะรู้ไหม"

"เดี๋ยวลูกก็จะรู้เองว่าคุณพ่อ โทรเรียกให้ลูกมาพบทำไม แต่ถึงอย่างไรคืนนี้ลูกต้องนอนกับแม่นะ"

"แล้วคุณแม่ไม่นอนกับคุณพ่อเหรอคะ"

"ไม่ล่ะ แม่เบื่อตาแก่อย่างพ่อของลูกเต็มทน"ปิ่นมุกถึงกับอมยิ้มออกมา ถึงแม้ว่าแม่ของเธอจะพูดแบบนี้แต่นั่นก็ไม่ใช่หมายความว่าท่านจะเบื่อคนที่ร่วมใช้ชีวิตกันมาหลายปี

สองแม่ลูกเดินเข้ามาภายในห้องนั่งเล่นก็เจอชายวัยกลางคนที่ดูดีมีภูมิฐานกำลังนั่งอ่านหนังสือพิมพ์อยู่บนโซฟาอย่างสบายใจ เสียงฝีเท้าที่เดินเข้ามาใกล้ทำให้คนที่นั่งอ่านหนังสือพิมพ์อย่างสบายใจหันไปมอง ใบหน้าที่ยังดูเหมือนอายุของคนในวัยหนุ่มแสดงออกมาว่าดีใจมากแต่ไหนที่ได้เห็นลูกสาวหัวแก้วหัวแหวนเดินเคียงคู่กันมากับภรรยาสุดที่รัก

"สวัสดีค่ะคุณพ่อ"

"มาให้พ่อกอดหน่อยสิลูก"แขนของผู้เป็นพ่ออ้าออกกว้างโอบกอดร่างของลูกสาวเพียงคนเดียวด้วยความคิดถึง

"คิดถึงคุณพ่อจังเลยค่ะ"

"โกหกคนแก่มันบาปนะ"

"คุณพ่ออะ"

"หึ ๆ"ผู้เป็นพ่อถึงกับยิ้มขำเมื่อทำให้ลูกสาวคนสวยของตัวเองหน้างอเหมือนปลาทูได้ แต่ไม่ว่าลูกสาวของเขาจะทำสีหน้ายังไง นัยน์สายตาของคนเป็นพ่อลูกก็ยังคงน่ารักสำหรับเขาอยู่เสมอ

"ปิ่นมุก"น้ำเสียงเอื้ออาทรเรียกชื่อของบุตรสาวที่นั่งอยู่ตรงหน้า มือหนาที่ผ่านไปตามกาลเวลากุมมือเรียวเล็กของลูกสาวเอาไว้

"คะ คุณพ่อ"

"ถ้าพ่ออยากจะขออะไรลูกสักอย่าง ลูกจะทำให้พ่อได้ไหม"

"คุณพ่อจะขอให้หนูทำอะไรเหรอคะ"

"พ่ออยากให้หนูแต่งงานกับลูกชายของเพื่อนพ่อ"หูของปิ่นมุกดับไปชั่วขณะ ประโยคก่อนหน้ายังคงดังอยู่ในหูของเธอวนซ้ำไปมา ก่อนที่สติของเธอจะกลับมา ดวงตาเรียบนิ่งมองพ่อและแม่ที่นั่งมองมายังตัวเธอ

"คุณพ่อช่วยบอกเหตุผลดี ๆ ที่หนูจะต้องแต่งงานกับผู้ชายคนนั้นให้ได้ฟังสักข้อได้ไหมคะ"สองสามีภรรยาต่างมองหน้ากัน ก่อนที่เจ้าสัวธนินท์นั้นจะเอ่ยปากบอก

"ปิ่นมุกลูก อายุของลูกก็ใกล้จะสามสิบแล้ว พ่ออยากให้ลูกเป็นฝั่งเป็นฝา ชีวิตของลูกในภายภาคหน้าจะได้มีคนช่วยดูแล"ทุกสิ่งที่ผู้เป็นพ่อเอ่ยมาล้วนเป็นจริงทั้งหมด เขากับภรรยาแก่ลงทุกวัน ๆ ก่อนตายนั้นก็อยากจะได้เห็นลูกสาวเพียงคนเดียวมีชีวิตคู่เป็นฝั่งเป็นฝากับผู้ชายดี ๆ สักคน ซึ่งเขาและภรรยานั้นก็ไม่เห็นว่าใครจะเหมาะสมกับลูกสาวของเขาได้เท่ากับ 'ขุนเขา' ลูกชายของเพื่อนรักอย่างรังสิมันต์

"คุณพ่อกับคุณแม่คิดดีแล้วใช่ไหมคะว่าอยากให้หนูแต่งงาน"ถึงแม้ว่าอยากจะคัดค้านแต่เมื่อได้เห็นสายตาของบิดาและมารดาที่มองมาก็ทำให้เธอไม่กล้าที่จะเอ่ยปาก

"แม่กับพ่อคิดดีแล้ว ปิ่นมุกชีวิตนี้แม่กับพ่อไม่เคยขออะไรหนูเลยสักครั้ง ครั้งนี้เป็นครั้งแรกหนูพอจะทำเพื่อแม่และพ่อได้ไหมลูก"ปิ่นมุกหันหน้าไปมองมารดาที่นั่งอยู่ฝั่งตรงกันข้าม ก่อนที่จะหันหน้ามามองบิดาที่นั่งอยู่ตรงหน้า ดวงตาของท่านทั้งคู่มันเต็มไปด้วยความเป็นห่วง และความหวังดีอยู่ในนั้น ตลอดเวลาที่ผ่านมาท่านทั้งสองไม่เคยขอร้องอะไรเธอเลยสักครั้ง แต่ครั้งนี้ท่านทั้งสองกลับขอร้องเธอ แล้วแบบนี้จะให้เธอปฏิเสธยังไงได้ล่ะ

"ค่ะ หนูจะแต่งงานตามที่พ่อกับแม่ต้องการ"

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel