บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 2 ช่วยเธอไว้

ตอนที่ 2 ช่วยเธอไว้

“จับเธอไว้! อย่าหนีนะ! จับเธอ......” ได้ยินเสียงหลายคนที่ใส่เสื้อกั๊กสีดำไล่ตะโกนมาจากด้านหลัง เสี่ยวซิงกลัวสุดขีด เธอรู้ว่าถ้าหากถูกจับกลับไป เถ้าแก่อ้วนคนนั้นคงเล่นงานเธอแน่ ถึงแม้เธอยังไม่ค่อยเข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างชายหญิงสักเท่าไร แต่ก็สังหรณ์ใจได้ว่าถ้าเธอถูกจับกลับไปจริงๆ ชีวิตเธอต้องจบสิ้นแน่

ท่ามกลางความวุ่นวาย เสี่ยวซิงชนใส่แนวผนังกำแพง ในขณะที่เธอจะล้มลงไป เธอรู้สึกได้ว่ามีแขนที่แข็งแกร่งประคองเธอไว้ เสี่ยวซิงลืมตาขึ้น เห็นใบหน้าที่หล่อเหลามีราศี คนๆนี้ทั้งหล่อและสง่างาม ระหว่างคิ้วขมวดกันอย่างดุดันราวกับถูกสร้างมาตั้งแต่เกิด เพียงแต่นัยน์ตาคู่นั้นกลับเย็นชาจนน่ากลัว! สายตาที่เยือกเย็นนั้นกำลังสำรวจเธออยู่

“จับเธอไว้!” คนที่ไล่ตามมาด้านหลังแล้ว เสี่ยวซิงคิดที่จะก้าวเท้าวิ่งต่อไป แต่แขนของเธอถูกคนๆนี้จับไว้อยู่ เธอวิ่งหนีไปไม่ได้

“คุณฉิน!” พวกที่ใส่เสื้อกั๊กดำตามมาถึง ก็รีบหยุดก้มศีรษะทำความเคารพทันที

“นี่มันเรื่องอะไรกัน?” ฉินจู้นมองพวกเขาด้วยสายตาที่เย็นชา

“คนนี้......”พวกเขาอ้ำอึ้งพูดไม่ออกสักคำ

“ฉันขอร้องนะ! ช่วยฉันด้วยๆ! ฉันมาทำงาน ไม่ใช่มาทำเรื่องอะไรแบบนั้น! ขอร้องล่ะ ช่วยฉันเถอะนะ!” เสี่ยวซิงคุกเข่าขอร้องฉินจู้น เธอมีลางสังหรณ์ว่าคนที่อยู่ตรงหน้านี้ไม่ใช่คนธรรมดาทั่วไป เขาต้องช่วยเธอได้แน่

สายตาที่เย็นชาของฉินจู้นมองเด็กสาวใสซื่อบริสุทธิ์ที่คุกเข่าอยู่ตรงหน้า แล้วมองไปที่กลุ่มเสื้อกั๊กดำพูดจาอ้ำๆอึ้งๆ หลังจากนั้นก็เข้าใจเรื่องราวความเป็นมาแล้ว เสียงปังเขาเตะประตูด้านหลังออก พร้อมตะโกนเสียงดังว่า: “โจวหยูน ออกมานะ!”

สักพัก โจวหยูนก็เดินกอดไหล่ออกมาช้าๆ สายตามองต่ำไม่กล้าสบตากับฉินจู้นที่กำลังสำรวจมา

“ผมบอกคุณกี่ครั้งแล้ว? นอกจากเขาจะเต็มใจเอง อย่าไปทำลายอนาคตของเด็กอีก! คุณทำไมถึงไม่ฟังเลย?” สายตาคู่นั้นของฉินจู้นมองโจวหยูนอย่างเย็นชาพร้อมขึ้นเสียงเล็กน้อย

“อาจู้น ฉันรู้ตัวแล้วว่าผิด! ต่อไปจะไม่ทำอีกแล้ว ต่อหน้าคนเยอะแยะขนาดนี้ คุณไว้หน้าฉันหน่อยเถอะ?” โจวหยูนยอมรับผิด เธอรู้ดีว่าฉินจู้นเป็นคนที่ไม่ควรจะมีเรื่องด้วย ตอนนี้ทำได้แค่รีบยอมรับผิดไป

ฉินจู้นชี้นิ้วไปที่โจวหยูนแล้วพูดว่า: “คนอื่นคือคนที่ไว้หน้าให้ ไม่ใช่ตัวเองมาขอ! ครั้งนี้ก็แล้วไป หากครั้งหน้ายังมีเรื่องแบบนี้อีก อย่าหาว่าผมไม่ให้โอกาสคุณ!”

ฟังจากที่พวกเขาคุยกันแล้ว ในใจของเสี่ยวซิงค่อยมีความสุขขึ้นมาบ้าง ลางสังหรณ์ของเธอไม่ผิดไปจริงๆ คนๆนี้ช่วยเธอไว้ได้จริงๆ

ในเวลานี้เอง เฮียหม่าที่โดนกัดหูก็เดินเข้ามาปิดหูไปโวยวายไป “โจวหยูน! ดูที่เธอหาคนดีๆมาให้ฉันสิ! ทำไมถึงได้เหมือนกับลูกหมาที่กัดคน หูของฉันเกือบถูกเด็กนี่กัดขาดแล้ว!”

โจวหยูนรีบเดินไปยิ้มรับ แล้วพูดว่า: “เฮียหม่าคะ ต้องโทษฉันที่สอนไม่ดีเอง! ให้พวกเขาส่งคุณไปรักษาที่โรงพยาบาลก่อนนะคะ ไม่งั้นจะอักเสบได้ค่ะ!”

“คงไม่ได้ ฉันต้องสั่งสอนนังเด็กคนนี้......” เฮียหม่าเงยหน้าขึ้นมองเห็นใบหน้าที่เย็นชา ทันใดนั้นคำพูดที่พูดได้ครึ่งหนึ่งกลับกลืนลงไป รีบยิ้มแล้วพูดขึ้นมาทันทีว่า: “ประธานฉิน! ท่านก็อยู่ที่นี่ด้วยหรอครับ? ผมจะรีบไปโรงพยาบาลแล้ว ขอตัวก่อนนะครับ!” เฮียหม่าหันหลังเดินไปอย่างรวดเร็ว

เห็นความเจ็บปวดของเฮียหม่าแล้ว รอยยิ้มเย็นชาของฉินจู้นก็ผุดขึ้นตรงมุมปาก คิดในใจ: เด็กคนนี้ถือว่ามีความกล้ามาก!

“อาเจี๋ย! ส่งเธอไปขึ้นรถฉัน!” ฉินจู้นพูดกับอาเจี๋ย เลขาพิเศษของเขา

โจวหยูนพูดขึ้นก่อนอย่างระมัดระวัง: “อาจู้น! ถึงจะไม่ให้เธออยู่ที่นี่ ฉันก็ต้องส่งกลับไปให้คนที่แนะนำมานะ ค่าตัวเธอตั้งล้านนึงเชียว! พวกเราอยู่ๆจะมาขาดทุนล้านนึงเลยก็ไม่ได้หรอก? แน่นอนว่า ล้านนึงสำหรับคุณแล้วถือว่าเรื่องเล็ก แต่ว่าต้องอธิบายกับลูกน้องนะ วันนี้หนึ่งคน! พรุ่งนี้อีกหนึ่งคน! คุณช่วยไม่หมดหรอก!”

พอเห็นฉินจู้นลังเล เสี่ยวซิงรีบพูดขึ้นมาทันทีว่า : “คุณผู้ชาย ขอร้องนะคะ! ฉันจะขยันทำงานหาเงินล้านนึงมาคืนคุณให้ได้! ลำบากแค่ไหนฉันก็ทำได้ ขอแค่ไม่ส่งฉันกลับไปก็พอ คนนั้นเขาต้องขายฉันให้คนอื่นอีกแน่!” เสี่ยวซิงกระวนกระวายจนน้ำตาไหลออกมา

ไม่รู้ว่าเพราะอะไรผู้ชายที่เย็นชาอย่างฉินจู้นพอเห็นสาวน้อยที่น่าสงสารอยู่ตรงหน้าก็เกิดความเมตตาสงสารขึ้นมา เขาเปลี่ยนสายตาไปมองที่โจวหยูนและอาเจี๋ยแล้วพูดว่า: “เงินล้านนี้ผมจะออกให้ก่อน ป้าจางกำลังหาสาวใช้ที่บ้านอยู่พอดี อาเจี๋ย พาเธอไปให้ป้าจาง! แล้วจำไว้ หักหนี้จากเงินเดือนของเธอ!”

“ครับ! ไปเถอะ” อาเจี๋ยเดินมารับเสี่ยวซิงไป โจวหยูนไม่กล้าพูดอะไร เพราะเธอรู้ว่าคำพูดที่ฉินจู้นพูดออกมานั้นเปลี่ยนแปลงไม่ได้

เสี่ยวซิงมาเป็นสาวใช้ตระกูลฉินเป็นเดือนแล้ว ตระกูลฉินมีบ้านพักตากอากาศใหญ่โตสร้างอยู่ที่ไหล่เขาหยินหยาง บ้านพักหลังใหญ่นี้ใช้พื้นที่กว้างมาก นอกจากบ้านพักที่ใหญ่เหมือนปราสาทแล้ว ในสวนดอกไม้ที่กว้างใหญ่ยังมีสระว่ายน้ำ สนามเทนนิส ทุกด้านเต็มไปด้วยสนามหญ้าที่เขียวขจี รู้สึกเข้ามาอยู่ในโลกที่สวยงามจริงๆ โดยเฉพาะบ้านพักฝั่งตะวันตกยังมีสวนมะพร้าวที่ใหญ่มาก ทำให้บ้านพักหลังใหญ่นี้มากับบรรยากาศแต่งกลอนชมวิวใต้แสงจันทร์

แน่นอน บ้านที่กว้างใหญ่ขนาดนี้ต้องมีรปภ.และคนใช้อยู่ไม่น้อย เสี่ยวซิงมองไปรอบๆบ้านมีหลายสิบคนล้วนใส่ชุดเครื่องแบบเหมือนกับคอยลาดตระเวนอยู่ตลอดเวลา

คนขับรถ คนสวน เชฟ สาวใช้รวมทั้งหมดเป็นยี่สิบกว่าคน ป้าจางเป็นหัวหน้าแม่บ้านของที่นี่ อาเจี๋ยส่งเธอมาในวันนั้น เสี่ยวซิงก็รู้ว่าจริงๆแล้วอาเจี๋ยเป็นลูกชายของป้าจาง อาเจี๋ยเป็นหนุ่มน้อยที่กระตือรือร้นมาก ถึงแม้ปกติป้าจางจะเป็นแม่บ้านที่เข้มงวด แต่เสี่ยวซิงรู้สึกได้ว่าเธอเป็นผู้หญิงที่เมตตามาก ตั้งแต่มาที่นี่ ได้รับค่าจ้างไปหนึ่งครั้ง เงินเดือนของเสี่ยวซิงได้เดือนละสี่หมื่น แต่ต้องชดใช้คืนคุณฉินล้านนึง ดังนั้นเงินเดือนที่ได้มาก็จะถูกหักไป แต่ป้าจางหยิบเงินเดือนนี้ออกมาสองพันให้กับเธออย่างรอบคอบมาก บอกกับเธอว่าต่อไปจะให้ค่าใช้จ่ายเธอสองพันทุกเดือน เป็นผู้หญิงมักต้องซื้อของใช้ที่จำเป็น เสี่ยวซิงหยิบเงินไต้หวันสองพันไว้ในมืออย่างซาบซึ้ง เธอต้องเก็บเงินสองพันนี้ฝากกลับไปให้ที่บ้าน ต้องรู้ว่าเงินจำนวนนี้พอค่าใช้จ่ายของน้องชายแล้วยังต้องมีเก็บไว้ใช้ด้วย แต่ที่นี่มีอยู่มีกินพร้อม แทบจะไม่ต้องใช้จ่ายอะไรเลย ดังนั้นเสี่ยวซิงอยู่ที่นี่ทำงานอย่างเต็มที่

ผ่านไปเดือนกว่าแล้ว เสี่ยวซิงเห็นหน้าฉินจู้นแค่ไม่กี่ครั้งเท่านั้น เขาจะออกเช้ากลับดึกทุกวัน แต่ไม่เคยค้างคืนนอกบ้านเลย ช่วงเวลานี้เสี่ยวซิงก็ได้รู้เรื่องราวของฉินจู้นจากปากคนอื่นบ้าง ไม่รู้เพราะอะไรทุกครั้งที่เผชิญหน้ากับเขา ก็จะทำให้เสี่ยวซิงตื่นเต้นจนเหงื่อออกมือ แต่พอไม่ได้เห็นเขาหลายวันก็รู้สึกเหมือนขาดอะไรบางอย่าง เรื่องที่ทำให้เสี่ยวซิงดีใจที่สุดก็คือได้มองเงาจากด้านหลังเขาอย่างเงียบๆ เพราะมีเพียงแบบนี้ที่ไม่ทำให้เธอตื่นเต้น เสี่ยวซิงคิดในใจ: บางทีอาจเป็นเพราะเขาเป็นผู้มีพระคุณที่ช่วยชีวิตเธอไว้? ลึกๆแล้วในใจก็อยากพึ่งพาอาศัยอยู่บ้าง

นี้ก็ใกล้จะถึงเที่ยงคืนแล้ว เสี่ยวซิงเอาชุดทำงานที่เปลี่ยนไปซักเสร็จก็เตรียมตัวเดินลงไปนอนห้องของตัวเอง ไม่คิดว่าป้าจางเดินมาเรียกเธอไว้

“เสี่ยวซิง เอาชุดนอนของคุณชายไปไว้ที่ห้องนอนเขาด้วย!” ในมือป้าจางมีชุดนอนที่พับอย่างเรียบร้อยอยู่หนึ่งชุด

เสี่ยวซิงเงยหน้ามองห้องนอนของฉินจู้นที่อยู่ชั้นสาม ในห้องเปิดไฟสว่างอยู่ เสี่ยวซิงรับชุดนอนจากมือป้าจางด้วยความลังเล แต่เท้ายังอยู่กับที่ไม่ขยับ

“เสี่ยวซิง ไม่ต้องกลัว! ไปเถอะ ไม่เป็นไรหรอก!” ป้าจางพูดให้กำลังใจเสี่ยวซิง

“ค่ะ!” เสี่ยวซิงเดินไปที่บ้านพักใหญ่โตอย่างช้าๆ ค่อยๆขึ้นไปชั้นสอง ชั้นสองเป็นชั้นที่คุณปู่ กับคุณยายพักอยู่ เวลานี้พวกเขาต่างก็หลับกันแล้ว เสี่ยวซิงพยายามก้าวเท้าอย่างเบาๆ ค่อยๆเดินมาถึงชั้นสาม พอเดินมาถึงหน้าห้องของฉินจู้นแล้ว เสี่ยวซิงก็เริ่มตื่นเต้นขึ้นมา ใจเต้นตึกๆ เสี่ยวซิงสูดลมหายใจเข้าลึกๆหนึ่งครั้ง แล้วเคาะประตูแบบพอดีๆ

“เข้ามา!” เสียงที่ต่ำของผู้ชายดังออกมาจากข้างใน

เสี่ยวซิงผลักประตูออกอย่างเบาๆ ห้องนอนโทนขาวดำสลับกันใหญ่มากตอนนี้ได้อยู่ตรงหน้าเธอแล้ว มีคนที่พึ่งอาบน้ำเสร็จยืนอยู่ข้างหน้าเตียงที่กว้างใหญ่ มีเพียงผ้าขนหนูพันร่างกายท่อนล่างของเขาไว้ ในมือของเขาหยิบผ้าเช็ดหัวกำลังเช็ดน้ำที่หยดลงมาจากเส้นผม

เห็นภาพนี้แล้วทำให้คนรู้สึกอึดอัด หน้าของเสี่ยวซิงแดงก่ำ รีบหันหน้าเอาชุดนอนที่อยู่ในมือไปวางไว้บนเตียงอีกฝั่งอย่างรวดเร็ว ก้มหน้าแล้วพูดว่า: “คุณชายคะ นี่เป็นชุดนอนของท่านค่ะ!” พูดจบคล้ายกับจะหนีออกไปตรงประตู

“ไปรินน้ำมาสักแก้วสิ!” ฉินจู้นเช็ดผมไปพูดไป

เสี่ยวซิงรีบเดินกลับไปรินน้ำเปล่าตรงข้างๆตู้โถง ก้มหน้าเดินเข้าไปค่อยๆวางน้ำไว้บนตู้หัวเตียง กำลังจะหันหลังเดินออกไป คิดไม่ถึงว่าก็มีเสียงที่เหมือนมีแม่เหล็กดังขึ้นมาอีก

“เธอคือเด็กที่ลักลอบค้าคนนั้น?” นัยน์ตาคมชัดของฉินจู้นจ้องมาที่ใบหน้าของเสี่ยวซิง วันนั้นเขาเห็นเพียงดวงตาที่น่าสงสารคู่นั้นของเธอ วันนี้เธอรวบผมไปไว้ข้างหลัง เธอมีใบหน้าที่ขาวสะอาดหมดจด พอเห็นร่างที่แบนเรียบของเธอ ก็รู้เลยว่าเป็นเด็กที่ยังเติบโตไม่เต็มที่ ฉินจู้นขมวดคิ้ว เฮียหม่าไอเฒ่าหัวงูนี่วิปริตจริงๆ ขนาดว่ายอมจ่ายไม่อั้นเพื่อที่จะได้ตัวเด็กน้อยคนนี้เนี่ยนะ

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel