เมียของผมคือนางมารร้าย (ปั้นแป้ง+ธีร์)

193.0K · จบแล้ว
พิมพลอย / Phimploy 9482
58
บท
3.0K
ยอดวิว
8.0
การให้คะแนน

บทย่อ

ธีร์ เป็นพี่รหัสและพี่ว๊ากได้มาเจอน้องรหัสที่แสนจะแสบจนหัวแทบจะเบิดแบบ ปั้นแป้ง เขาจะมีวิธีการจัดการกับเธอแบบไหนและเรื่องราวของทั้งสองคนจะเกิดขึ้นและจบลงอย่างไร ฝากติดตามได้ใน “เมียของผมคือนางมารร้าย”

นิยายรักโรแมนติกนิยายปัจจุบันตลกวิศวกรดาวมหาลัยรักวัยรุ่นโรงแรม/มหาลัยโรแมนติกนักศึกษา25+

เริ่มเลอะ

สวัสดีครับ ผม ธีร์ ธนนท์ปภพ วราภัชระทรัพย์ นักศึกษาคณะวิศวกรรมศาสตร์ ปี 2 เป็นพี่ว๊ากแล้วก็ทำหน้าที่ประชาสัมพันธ์ในตอนกิจกรรมรับน้อง ผมเป็นลูกชายคนสุดท้องมีพี่สาวสอง คนคนแรกชื่อ ธารน้ำ คนที่สองชื่อ ธิชา พี่สาวสองคนผมเรียนจบและทำธุรกิจของตัวเองกันหมดแล้ว

ส่วนผมขึ้นปีสองปีนี้ รายได้หลักๆ มาจากขายรถนำเข้าแล้วก็แต่งรถเปิดศูนย์ซ่อมอะไรแบบนี้ รายได้รองก็ทำผับเปิดแถวๆ มอนี่แหละ ช่วงมอเปิดนี่ฟันกำไรทุกวัน อ๋อ เพื่อนกลุ่มผมก็มี ไอ้เธียเตอร์ บางคนอาจจะรู้จักมันบ้างแล้วไอ้รักเมียเกินเยียวยาไอ้นั่นแหละ แล้วก็มีไอ้กลัฟกับไอ้พาส พวกผมสนิทกันมาตั้งแต่มัธยมแล้วก็ชวนกันมาเรียนที่นี่ด้วยกัน เพราะฉะนั้นไม่ต้องถามถึงความสนิท เพราะแค่มองตาก็รู้ใจ แล้ววันนี้ก็เป็นวันรับน้องวันแรกแต่สัสเธียมันก็ยังไม่มา

“กูต้องเอาอาจารย์มาอัญเชิญสัสเธียไหมวะ”

ผมกอดอกก่อนจะถามไอ้พาสแล้วก็เพื่อนทุกคนที่เริ่มมาเตรียมพร้อมกันหมดแล้วเหลือแต่มันที่เป็นเฮดว๊ากตอนนี้ก็ไม่มีใครตรัสรู้ว่ามันหายไปไหน

“หึหึ มึงคิดว่าไงละ”

ผมถอนหายใจก่อนจะส่ายหัวอย่างปลงๆ

“กูแม่งปวดใจกับมันจริงๆ ถ้าไม่เห็นเป็นเพื่อนจะสั่งวิ่งแม่ง”

“หึ ก็มันจะให้มึงเป็นเฮด มึงเสือกให้มันเป็นไง บ่นไม่ได้นะครับผม”

“ที่ให้แม่งเป็นเพราะคิดว่าจะมาเร็ว”

“กูว่ารวมน้องเลยเถอะ ทำที่ได้ไปก่อนมันมาค่อยว่ากัน”

ผมพยักหน้าเห็นด้วยกับไอ้พาส ก่อนจะเดินมาอยู่ตรงลานคณะก่อนจะเรียกน้องมารวมตัว

“ปีหนึ่งครับ!!! ผมให้เวลา 5 นาที รีบรวมตัวกันเลยครับ!!”

หลังจากนั้นปีหนึ่งก็รวมตัวกันแล้วไอ้เธียก็เดินมาและก็เป็นอย่างที่ทุกคนรู้นั่นแหละครับหลังจากไอ้เธียเตอร์กลับไปพวกผมก็มานั่งรวมตัวกันอยู่ที่โต๊ะใต้ร่มไม้ก่อนจะถามไอ้นุ่นขึ้นมา

“เฮ้ยนุ่น น้องรหัสกูใครวะ”

“กูก็ยังไม่รู้วะ แต่มีรายชื่อเหลืออยู่คนหนึ่งวันนี้ก็ยังไม่ได้มาเข้าร่วมกิจกรรม”

“วันแรกก็เอากูแล้ว”

ผมพูดจบเพื่อนทุกคนที่อยู่ตรงนั้นก็พากันหัวเราะออกมาเหมือนสะใจอะ สักพักไอ้พาสจะสะกิดที่แขนผมแรงๆ แล้วชี้ไปที่ผู้หญิงคนหนึ่งที่กำลังเดินมาตรงมาตรงที่พวกผมนั่งกันอยู่

“สัสธีร์ คนนู้นหรือเปล่า เขาเดินตรงมานี่แล้วน่ะ”

ผมมองตามไอ้พาสไปก็เห็นผู้หญิงคนหนึ่งสูงประมาณ 160 แต่ไม่ได้ผอมแห้งนะมีน้ำมีนวลแล้วที่สำคัญแม่งใส่ทรงเอแน่นทุกจุดอะใช้คำนี้ดีกว่าก่อนจะเดินมาตรงที่ผมนั่งอยู่ ผมเลยหันไปทางไอ้พาสก่อนจะตอบมันออกไปอย่างเร็ว

“กูว่าแม่งไม่ใช่ ทรงนี้ไม่น่าจะเรียนวิศวะหรอก มาถามทางไปตึกเชื่อกู”

ผมพูดขึ้นมากับเพื่อน เพราะส่วนมากถ้าเป็นเป็นผู้หญิงก็จะมาถามทางไปตึกมากกว่าแล้วดูทรงผู้หญิงคนตรงหน้าไม่น่าจะเรียนที่นี่หรอก ดูเป็นแบบบริหารการตลาดอะไรแบบนี้มากกว่า

“สวัสดีค่ะ”

สวัสดีฉัน ปั้นแป้ง ภัณนวรจน์ อัศวภิรมย์ อายุ 19 ปีเป็นลูกคนแรกครอบครัวฉันมีเชื้อสายจีนคือพ่อเป็นคนจีนและมาแต่งงานกับแม่ที่เป็นคนไทย มีพี่น้องที่ใช้แม่ร่วมกันสองคนคนกลางเป็นผู้ชายห่างจากฉันสามปีตอนนี้ก็ 16 ชื่อ เปเปอร์ ส่วนคนสุดท้องเป็นผู้หญิงอายุ 14 ชื่อ ปิ่นมุก ไม่ต้องถามเรื่องความแสบเพราะมันไปสุดมากเหมือนฉันนั่นแหละ

ส่วนฉันมีเพื่อนสนิทอยู่สามคน ชื่อ ฟร้อน พรีม พิจิก เรียนบริหารกันหมดมีฉันคนเดียวนี่แหละที่มาคณะนี้ พูดไปแล้วก็ดูเหงาๆ ส่วนฉัน วันนี้ก็คิดว่าจะมาทัน เพราะฉันทำเสื้อผ้าขายแล้วก็เปิดพวกคาเฟ่ เข้าไปดูเรื่องผ้าแล้วมีเรื่องนิดหน่อยพอมาถึงก็ไม่เห็นมีใครนั่งอยู่แล้ว

“ค่ะ มีอะไรหรือเปล่าคะ”

ฉันเดินเข้ามาหาน่าจะเป็นรุ่นพี่ที่นั่งเก็บของกันอยู่ แต่ผู้ชายที่อยู่นั่งอยู่ก็ไม่มีใครพูดอะไรนะ มีแต่ผู้หญิงตัวเล็กๆ น่ารักๆ หันมาถามฉันและยิ้มแบบเป็นมิตรส่งมาให้

“คือหนูไปทำธุระมานิดหน่อย นี่ใช่คณะวิศวะหรือเปล่าคะ แล้วพวกพี่ทำกิจกรรมเสร็จแล้วเหรอคะ”

ฉันถามพี่ผู้หญิงก่อนจะได้ยินคำตอบที่ตอบกลับมาแต่เป็นเสียงผู้ชายที่นั่งอยู่บนโต๊ะแล้วมองมาที่ฉันด้วยสายตาและน้ำเสียงที่ไม่พอใจเป็นอย่างมากนั่นแหละ แต่ฉันก็ไม่ได้สนใจอะไรเท่าไหร่

“หึ ธุระถูกวันซะด้วย แล้วมาตอนนี้จะมาทำไม! คนอื่นเขาเข้ากันไปจนหมดแล้ว ดูเวลาไม่เป็นหรือไง”

“สัสธีร์มึงก็ว่าน้อง เดี๋ยวน้องก็ร้องไห้”

ผมยิ้มมุมปากและหันไปหาไอ้กลัฟที่นั่งอยู่ใกล้ๆ ก่อนจะหันกลับมาแล้วพูดออกไปเสียงดัง

“ร้องก็ร้องเลย ถามแค่นี้จะมาทำอ่อนแอหรือไง!!”

ฉันถอนหายใจก่อนจะพยายามสะกดอารมณ์ตัวเองก่อนที่ของจะขึ้นและมองไปที่พี่ผู้หญิงก่อนจะเริ่มอธิบายให้พี่เขาฟังว่าทำไมฉันถึงมาไม่ทัน แล้วไม่ได้อยากจะสายหรอก แต่มันมีธุระจริงๆอะ

“พี่คะ คือที่หนูมาสายวันนี้เพราะหนูมีธุระ แล้วมันเป็นธุระที่จำเป็นจริงๆ แล้วมาสายแค่ครั้งเดียวด้วยเหตุจำเป็นจริงๆ หนูจะไม่สามารถอยู่คณะนี้ได้เหรอคะ ไม่อย่างนั้นหนูจะได้ไปทำเรื่องย้ายคณะ แล้วหนูต้องขอโทษพวกพี่ด้วยค่ะ หนูคิดว่าจะมาทันแต่มันเกิดปัญหานิดหน่อยจริงๆ หนูก็รีบมาอย่างที่สุดแล้วและคิดว่าทัน”

ฉันถามพี่ผู้หญิงคนเดิมที่คุยกับฉันเมื่อกี้ออกไปด้วยน้ำเสียงและหน้าตาที่จริงจัง ถ้ามันไม่สามารถเรียนได้เพราะมาสายแค่วันนี้วันแรกก็ย้ายคณะให้มันจบๆ ไป สักพักรุ่นพี่ทุกคนก็ทำหน้าตกใจแล้วก็รีบช่วยกันพูดออกมาไม่ได้เงียบเหมือนตอนแรก

“ไม่เป็นไรๆ เรามาก็ยังดีกว่าไม่มา เดี๋ยวพี่ให้ป้ายชื่อเราไปแล้วบอกพี่รหัสเลยเนาะ ปีนี้พวกพี่บอกพี่รหัสเลย เพราะกิจกรรมมันหลายอย่างพวกเราจะได้ไม่ต้องมาหากันเองให้เสียเวลา พอรู้แล้วพี่รหัสจะได้ช่วยดูเรา”

ฉันพยักหน้าพร้อมกับยิ้มให้พี่ผู้หญิงตรงหน้าอีกรอบ คนอื่นไม่เห็นจะเป็นเดือดเป็นร้อนมีไอ้บ้านั่นคนเดียวนั่นแหละที่เป็นเดือดเป็นร้อน แต่ฉันก็ผิดจริงๆ ที่มาสาย แต่ว่าธุระของฉันก็จำเป็นมากๆ เหมือนกัน คือฉันกับคนส่งผ้าตบกันนิดหน่อยเพราะฝ่ายนั้นโกงเลยมีเรื่อง แล้วเรื่องแบบนี้จะยอมให้คนอื่นมาเอาเปรียบได้ไง ไม่งั้นฉันก็คงมาถึงตั้งแต่เช้าแล้วแหละ เพราะฉันก็ไม่ใช่คนนอนตื่นสายอะไร

“ค่ะ”

ผมที่กอดอกมองยัยผู้หญิงตรงหน้าอยู่สักพักก็เห็นรอยมือตรงแก้มที่ตอนนี้มันเริ่มจะแดงขึ้น อืม หลังจากประเมินดูแล้วยัยนี่คงจะแสบพอสมควรแน่ๆ

“สัสธีร์ ปากน้องมึงแม่งสุดยอด”

“น้องกูเชี้ยไร”

ผมถามพร้อมกับเลิกคิ้วขึ้น ดูทรงแล้วเปลี่ยนน้องรหัสกับไอ้พาสดีกว่า เจอกันวันแรกก็ปล่อยรังสีใส่กันละ ต่อไปจะไหวเหรอวะ

“เอ้า ก็ชื่อมึงไม่มีคนจับได้ แล้วน้องเขาก็เหลือคนสุดท้าย ไม่ใช่ของมึงจะเป็นของใคร”

“พี่ธีร์คะ มารับน้องรหัสด้วยค่ะ พี่รหัสเราคือพี่ธีร์นะ พี่ผู้ชายคนหล่อๆ สูงๆ คนนั้นนั่นแหละ”

“เดี๋ยวไอ้นุ่น”

“หึ ทุกคนรับทราบพร้อมกันนะคะ ว่าน้องปั้นแป้งคือน้องรหัสของพี่ธีร์ ตามข้อตกลงของเราไม่ให้พี่รหัสเปลี่ยนน้องกัน ไม่ว่าจะใครก็เป็นรุ่นน้องเราทั้งหมด แล้วห้ามรุ่นน้องเปลี่ยนพี่ด้วยนะจ๊ะ หากเฮดรู้เป็นไปตามข้อตกลง”

ผมถอนหายใจออกมาแรงๆ เพราะตอนแรกตั้งกติกากันไว้ถ้าใครเปลี่ยนน้องรหัสต้องเสียเงินสามแสน ที่ตั้งไว้เพราะก็ไม่ได้คิดอะไรแล้วก็กลัวรุ่นพี่ชอบคนนั้นแล้วจะเปลี่ยนกันเองอะไรแบบนี้แหละ แม่งเอ๊ย ไม่คิดเลยว่าคนนั้นจะเป็นผม แต่ก็ช่างเถอะคงจะไม่ได้อะไรมากหรอก อีกอย่างยัยนี่ก็เป็นผู้หญิง

"อืม เราเป็นดาวคณะได้ไหม นี่ว่าจะเอาน้องเขาเป็นดาวแทนน้องของไอ้เธียนะ ดูรายนั้นคงจะไม่ได้มาบ่อยๆหรอก เพราะน้องเขาเป็นน้องรหัสของเฮดแล้วดูจากอาการแล้วเอาน้องปั้นแป้งดีกว่า"

ฉันยังไม่ทันตอบพวกพี่เขาก็พยักหน้าเหมือนเห็นด้วยกันหมดทุกคน แล้วคนที่เป็นก่อนหน้านี้จะไม่มีปัญหาหรอกเหรอ เดี๋ยวฉันก็ได้ปวดหัวอีก ในจังหวะที่คิดอยู่กับตัวเองก็ได้ยินพี่ผู้ชายที่นั่งอยู่ข้างๆ นายนั่นพูดขึ้นมา

"เออ เอาตามที่มึงว่าดีอะ เดี๋ยวให้ไอ้ธีร์มันบอกไอ้เธียเอง"

"งั้นตามนี้ พี่ขอเบอร์โทรเราไว้หน่อย เพราะเดี๋ยวพี่จะเอาไว้โทรแจ้งรายละเอียดต่างๆ กับเรา เออ พี่ลืมบอก เดี๋ยวคณบดีก็จะมาดูเราด้วยนะ ยินดีต้อนรับเข้าสู่ครอบครัววิศวะของเรานะจ๊ะ น้องปั้นแป้ง”

ฉันยิ้มแห้งๆ จะปฏิเสธก็ดูแย่ไปอีกมาก็สายแล้วกิจกรรมของคณะก็จะไม่ช่วยเขาทำอะไรอีก เอาวะแค่ไม่กี่เดือนหรอก ฉันบอกเบอร์โทรศัพท์ของฉันให้พี่เขาแล้วก็แลกไลน์พี่เขาไว้ สักพักพี่เขาก็บอกรายละเอียดเพิ่มเติม

"อ๋อ คิวอาร์โค้ดของไลน์กลุ่มขอที่พี่ธีร์ได้เลยนะ เพราะพี่เขาจะแจ้งพวกเรื่องแต่งกายว่าเราจะใส่ชุดอะไรวันไหน แล้ววันไหนมีกิจกรรมเราจะได้รู้ ที่สำคัญถ้าเราถูกทำโทษพี่รหัสเราต้องโดนกับเราด้วยเพราะไม่สามารถดูแลเราได้ พรุ่งนี้มีกิจกรรมเราอย่าลืมมาเข้านะ"

"อ๋อ ได้ค่ะ"

ฉันพยักหน้าพร้อมกับรับป้ายชื่อที่พี่เขาเขียนชื่อให้เสร็จแล้วจากพี่เขามาและเดินตรงไปหาคนที่เป็นพี่รหัสของฉันนั่นแหละ แล้วดูจากหน้าตาเหมือนจะฆ่าฉันอยู่แล้วมั้ง จ้องขนาดนี้ดีนะไม่กระโดดมากัดคอฉันอะ พอฉันเดินไปถึงเขาก็วางกระดาษที่มีคิวอาร์โค้ดลงบนโต๊ะให้ฉันสแกนแล้วก็ยังคงมองมาที่ฉันแบบนิ่งๆ พอฉันหยิบมือถือขึ้นมาสแกนก็ได้ยินเสียงเขาจะลอยขึ้นมา

"กระโปรงใส่พลีทเท่านั้น! ห้ามทรงเอเด็ดขาด! ย้ำว่าห้าม! เพราะถ้าฉันเห็นว่าเธอใส่มาอีกเธอจะโดนลงโทษอย่างหนักแน่"

"ค่ะ แต่รุ่นพี่ก็อย่าทำอะไรให้หนูเป็นบ้านะคะ ไม่อย่างนั้นก่อนจะจบกิจกรรมขาเราคงหลุดพร้อมกัน ขอตัวค่ะ สวัสดีค่ะ”

ฉันพูดก่อนจะบอกลาพวกรุ่นพี่แล้วก็เดินออกมาจากตรงนั้นเพื่อจะไปยังตึกบริหารต่อ ไปรอพวกไอ้ฟร้อนที่ไม่รูู้ตอนนี้กิจกรรมคณะมันเสร็จหรือยัง

"หึหึ สัสธีร์น้องเขาเหมือนจะเชื่อฟังมึงเนาะ"

ผมมองยัยคนตรงหน้าที่เดินออกไป ยิ่งนึกถึงหน้ายิ่งโมโหไม่รู้ผมแม่งไปทำเวรทำกรรมอะไรไว้ ผมถอนหายใจก่อนจะบอกพวกมันอย่างปลงๆ

"เออ เวรกรรมกูบางทีก็มาในรูปแบบของน้องรหัส ยาแก้ปวดต้องเข้ากูละ"

"เอายางมัดผมไหมเพื่อน"

"ไม่ต้องไอ้สัส ทรงนี้กูคงได้โกนหัวอย่างเดียว"

"ฮ่าๆ เชี้ยเอ๊ย กูต้องมานั่งขำอะไรแบบนี้เหรอวะ"

"หึหึ อย่าลืมนะคะพี่ธีร์ น้องโดนพี่โดนด้วย"

ผมยืนขึ้นเท้าเอวก่อนจะหันไปหาไอ้นุ่นแล้วแม่งเพื่อนผมทั้งห้องเหมือนสะใจอะ ทำหน้าทำตา น่าเตะเรียงตัวกันจริงๆ

"ครับคุณนายนุ่น พรุ่งนี้กูว่าจะสนับสนุนน้ำกับขนม ยกเลิกไอ้สัส โมโห"

"อ้าว ไอ้เชี้ยคุณธีร์ครับ มึงพาลครับ"

"เออ ไป กลับบ้านเล่นเกมส์ จะตีบอทให้ระเบิดเลยกูวันนี้"

“ฮ่าๆ สัสเอ๊ย เริ่มเลอะ”