1
เพลินจิตอ่านกระดาษโน้ตตรงหน้าแล้วอมยิ้ม พี่กริชเพื่อนร่วมงานที่อยู่โต๊ะข้างๆ กับเธอคือเพื่อนคุยที่ทำให้เธอหายเหงาได้มากมายนัก
เธอเป็นพนักงานบริษัทที่ไม่มีแฟน ไม่มีเงินด้วย นั่นแหละประเด็น ชีวิตเหงาๆ มาทำงานและห้องพักของตัวเอง จนกระทั่งกริช ชายหนุ่มรูปงามที่เข้ามาเป็นพนักงานใหม่ในบริษัทเข้ามา หัวใจของเธอก็ชุ่มฉ่ำเหลือเกิน
เธอเป็นสาวอายุ 30 ที่ไม่เคยมีแฟนมาก่อน แถมยังจิ้นด้วยสิ แต่ถึงแม้จะจิ้นเธอก็มีความต้องการตามธรรมชาติ มากเสียด้วยสิ ต้องช่วยตัวเองทุกวันแก้ความเงี่ยนง่านที่หักห้ามไม่อยู่
เธอไม่มีเงินไปซื้อผู้ชายกินหรอกนะ แค่ช่วยตัวเองก็ทำให้ตัวเบาหัวโล่งได้
ข้อความไลน์เด้งขึ้นมา กริชนั่นเอง เธออมยิ้ม นั่งอยู่ใกล้กัน แต่ก็ยังส่งไลน์ อาจเพราะไม่กล้าคุยกัน คุยกันทางแชทมันสนุกและมันกว่ากันเยอะเลย
“เย็นนี้รอนะ”
“ค่ะ”
ข้อความสั้นๆ แต่รู้กันสองคน เธอยังไม่เคยไปไหนมาไหนกับเขาหรอกไกลๆ บ้านหรอก เขาชวนแล้วแต่เธอยังไม่กล้า กลัวพนักงานในบริษัทรู้ด้วย ทั้งๆ ที่เขาก็จีบเธอบ่อยๆ ไปกินข้าวก็ไปกินกันหลายคน แต่ก็แอบส่งสายตาหากัน จีบกันแบบเงียบๆ เรียกว่าจีบกันเงียบกริบเชียวล่ะ
กริชเป็นผู้ชายที่น่ารักดี เขามักซื้อน้ำกับขนมมาฝากเธอบ่อยๆ เป็นคนพูดน้อยแต่สายตาของเขาสื่อความหมายอะไรมากมายชวนให้สยิวกิ้ว ที่เธอไม่ตกลงเป็นแฟนกับเขาจริงจัง หรือยอมไปที่ห้องเขาตามคำเชื้อเชิญก็เพราะว่าเธอกลัวจะตกเป็นของเขาแบบงงๆ ก็เหมือนตอนนี้แหละ จิตใจว้าวุ่นคิดถึงเขาอยู่ทุกวัน
คนไม่เคยมีแฟนเริ่มเพ้อฝันไปต่างๆ นาๆ แต่ก็แอบคิดว่าเขาจะจริงใจกับเธอไหม นั่นเป็นความคิดส่วนลึกที่เธอแอบคิดอยู่คนเดียวแต่ไม่ได้พูดออกไป
เลิกงานเสร็จกลับบ้านนั่นเป็นกิจวัตรอันแสนน่าเบื่อ แต่หลังๆ มานี้เธอชอบรีบกลับบ้านเพราะห้องพักที่น่าเบื่อหน่ายหายไปแล้ว
เพลินจิตอมยิ้มมองห่อข้าวผัดปูและน้ำเก๊กฮวยที่กริชเอามาไว้บนโต๊ะก่อนกลับบ้าน แต่เจ้าตัวหายไปแล้วหลังจากเธอไปเข้าห้องน้ำ
เขามีโน้ตเล็กๆ ใส่เอาไว้ในถุง ลายมือเรียบร้อยบอกว่าให้เธอเอากลับมากินที่บ้านเพราะเธอชอบกินข้าวผัดปูมากๆ
เพลินจิตถอดเสื้อผ้าเพื่ออาบน้ำจะได้ออกมากินข้าว ห้องเธอเป็นคอนโดเล็กๆ ที่เธอซื้อเอาไว้ราคาไม่ถึงล้านเมื่อหลานปีก่อน แต่ก็ยังผ่อนไม่หมด แต่ละเดือนชักหน้าไม่ถึงหลัง มนุษย์เงินเดือนก็แบบนี้แหละ อยากรวยกับเขาบ้างแต่ไม่รู้จะทำอะไร
เขาว่ามนุษย์เงินเดือนไม่รวย ต้องทำอะไรเป็นของตัวเอง เธอไม่กล้าลาออกมาทำอะไรหรอก กลัวล่มจมหรือไม่ประสบความสำเร็จ กลัวจะสูญเงินเป็นหนี้ ที่สำคัญยังผ่อนคอนโดนเท่ารูหนูของตัวเองไม่หมดอาจจะถูกยึดได้ ที่นี่จะไปมุดหัวอยู่ที่ไหนล่ะ
คนที่เขาเอาเงินไปลงทุนโน้นนั่นนี่เขาเองก็คงมีเงินระดับหนึ่ง หรือพ่อแม่มีเงิน แบบเธอนี่ไม่รู้จะไปทำอะไร ออกจากงานประจำมามีแต่อดตายกับตาย
อายุก็ 30 เข้าไปแล้ว ยังไม่มีแม้แต่รถขับได้แต่นั่งรถเมล์ไปทำงาน ถ้าลาออกมาทำธุรกิจส่วนตัวส่วนใหญ่ก็ค้าขาย รับรองว่าไปไม่รอด กลับไปอีกรอบไม่มีบริษัทไหนรับพนักงานแก่ๆ แล้วล่ะ
บริษัทนี้ที่ยังจ้างเธอเพราะเธอทำงานมานานแล้ว เงินเดือนพอยาไส้ ไม่ถึงกับอดอยากนักหรอก
ที่สำคัญมันก็ไม่ไกลจากที่พักมากนัก นั่งรถเมล์ไปไม่นานก็ถึงบริษัท สวัสดิการก็พอมี บัตรประกันสังคม มีวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ที่บริษัทอื่นหยุดแค่วันอาทิตย์แค่วันเดียว มีการพาไปอบรมสัมมนา หรือไปเที่ยวต่างจังหวัดทุกปี เจ้าของบริษัทใจดี มันก็พอทำให้เธอได้เปิดหูเปิดตาบ้าง อาศัยว่าให้เธอเก็บเงินไปเที่ยวเอง
อย่าหวังเลย!
เอวัง!
เธอถอดเสื้อผ้าออกอย่างเชื่องช้า ก่อนจะไปยืนหน้ากระจกเงาบานใหญ่ในห้องพัก เธอไม่ได้สวยหรอก หน้าตาพื้นๆ ธรรมดานี่แหละ แต่เธอเป็นคนผิวขาวจัดเพราะมีบิดามารดาเป็นคนทางเหนือ พวกท่านเสียชีวิตแล้วทั้งคู่ เธอมาเรียนอยู่กรุงเทพฯ หลายปีและตัดสินใจทำงานอยู่ที่นี่ กลับบ้านไปอยู่ทางเหนือก็อดตาย ไม่มีงานทำ ที่ดินทรัพย์สมบัติอะไรก็ไม่มี ตกเป็นของญาติหมดแล้ว
เธอเป็นคนหน้าอกใหญ่ โหนกใหญ่ สะโพกผาย แต่รูปร่างบอบบาง
เพลินจิตเลื่อนมือลูบไล้ใบหน้าของตัวเอง เธอเป็นคนมีความต้องการสูง แค่สัมผัสตัวเองก็กระหายใคร่อยาก
หลังมือไล้เบาๆ ข้างแก้มลากลงมาตามโครงหน้า ลำคอและอกอวบๆ เธอขยำฟอนเฟ้นเบาๆ สะกิดยอดถันจนแข็งเป็นไต
เธอลากนิ้วเรียวลงไปยังร่องรักที่ฉ่ำเยิ้ม อารมณ์กระสันอยากเกิดขึ้นอย่างปัจจุบันทันด่วน
