EP.1 แอบรัก
ณ รีสอร์ทหรูริมทะเล
‘ชานนท์’ ยืนหลบมุมอยู่ด้านหลังซุ้มไม้เลื้อยที่ปรับให้ดัดโค้งเหมือนกับเป็นประตูและติดไฟดวงกลมเล็กๆ ไว้สำหรับให้แขกที่มาร่วมงานได้มาถ่ายรูป แต่เพราะเขายืนอยู่ด้านหลังทิศทางของไฟ คนในฝั่งตรงกันข้ามจึงไม่เห็น ทั้งๆ ที่เขาเห็นคนที่ยืนอยู่อีกฟากได้ชัด
วันนี้เป็นงานเลี้ยงรุ่นเพื่อนสมัยมัธยมศึกษาตอนปลาย ซึ่งนานกว่า 10 ปีแล้วที่เพื่อนหลายคนไม่ได้เจอกัน แต่ละคนจึงมีเรื่องคุยกันเยอะ โดยเฉพาะหล่อนที่เพื่อนๆ แวะเข้าไปคุยด้วยตลอด แต่นั่นไม่ใช่เขา
กว่า 1 ชั่วโมงที่ยืนดูอยู่ตรงนี้ หล่อนยังไม่มีจังหวะไหนที่ว่าง
หญิงสาวสวยแต่งตัวสบายๆ โดยสวมแค่ชุดเดรสแขนกุดยาวกรอมเท้ากับรองเท้าผ้าใบ หล่อนยังคงเหมือนเดิมไม่เปลี่ยน แต่งตัวน้อยแต่มาก ดูดีได้แบบไม่ต้องตั้งใจ และถ้ามองแค่ใบหน้าก็คงเดาอายุไม่ถูก เพราะใบหน้าแต่งแต้มเครื่องสำอางน้อยนิดทาปากสีนู้ดส่งขับให้หล่อนเสมือนดังเป็นเด็กสาวมัธยมปลาย
ที่เปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัดคงเป็นผมที่เคยยาวสยายนั้นตอนนี้เปลี่ยนเป็นสั้นประบ่า และหล่อนดูนิ่งขึ้น ดูช้าลง ดูเป็นผู้ใหญ่ วางตัวดี ไม่ใช่ ‘ไอ้เมษ์’ เพื่อนจอมทโมนของเขาอีกแล้ว
เวลานี้หล่อนคือ ‘เมษาริน’ เจ้าของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ในย่านภาคตะวันออก เพราะสามีของหล่อนเป็นผู้กว้างขวางในย่านนั้น
‘สามี’
นั่นทำให้ชานนท์ยิ่งต้องทิ้งระยะ ลอบมองอยู่ห่างๆ แม้อยากเข้าไปคุยไปทักแต่ก็เกรงใจ เพราะเมษารินไม่ใช่คนที่เขาจะเอื้อมถึงอีกแล้ว
“มองอะไรวะไอ้นนท์”
ชานนท์หันมองเพื่อน แต่ยังไม่ทันตอบ เพื่อนที่มองตรงไปจุดเดียวกันกับเขาก็เป็นฝ่ายตอบเสียเอง
“มึงยังไม่เลิกรักไอ้เมษ์อีกเหรอวะ”
ชานนท์ยิ้มน้อยๆ หันไปสบสายตากับ ‘เอก’ เพื่อนสนิทที่ราวจะรับรู้ทุกเรื่องของเขา
“ก็กูไม่เดือดร้อน มึงเดือดร้อนแทนกูเหรอวะไอ้เอก”
“ใช่สิ กูเดือดร้อนแทนมึง ปีหน้าพวกเราก็ขึ้นเลขสามกันแล้วนะโว้ย! มีแต่มึงนั่นแหละ ไม่คิดจะมีเมียสักที”
สายตาของเอกที่มองมาที่เขาก่อนจะมองไปยังทิศทางที่เมษารินยืนอยู่ ดั่งจะถามว่า ‘หรือมึงจะรอ’
ชานนท์ส่ายหน้ายิ้มน้อยๆ ก็เพราะอายุจะใกล้เลข 3 แล้วน่ะสิ เขาเลยไม่คิดว่าการมีเมียเป็นสิ่งสำคัญ เพราะเขาไม่เห็นประโยชน์ที่ต้องมี แม้ที่บ้านทั้งพ่อและแม่จะพยายามแนะนำผู้หญิงให้ หรือญาติพี่น้องคนอื่นๆ ก็มักจะชักชวนสาวโสดที่รู้จักให้มาพบกับเขาเสมอ แต่เขาก็เพียงทำไปตามมารยาท ไม่ได้ต้องการมีอะไรลึกซึ้งกว่านั้น
แต่เขากลับรักหลานๆ มาก เวลาน้องชาย น้องสาว พาลูกๆ มาที่บ้าน เขาจะสดชื่นที่ได้เป็นคุณลุง แต่ถ้าถามว่าอยากมีลูกเป็นของตัวเองไหม?
เขานึกภาพลูกไม่ออก แต่เขานึกภาพแม่ของลูกออก
ชานนท์ยังคงมองตรงไปยังสาวสวยที่ยิ้มแย้มทักทายเพื่อนๆ
เอกเข้ามายืนด้านข้าง ยื่นแก้วเครื่องดื่มให้
“ว่าวที่มันหลุดลอยไปแล้ว มึงอย่ารอมันกลับมาเลยว่ะ กูว่ามึงหา...”
เอกทำท่ายักไหล่พยักพเยิดให้ชานนท์มองตามไปยังกลุ่มสาวๆ เชียร์เครื่องดื่มที่เมียงมองมายังพวกเขาเช่นกัน
“ว่าวตัวใหม่ก็มี หรือมึงอยากได้ขนาดบอลลูน ก็มีนะโว้ย!”
ชานนท์มองตามก่อนจะมองเพื่อนสายตาคาดโทษ
“กูไม่ได้อยากได้ว่าวใหม่ แค่ว่าวกูตัวเดียวก็สาวมันพอแล้ว”
“ไอ้ห่านนท์ มึงนี่มันทะลึ่ง”
“มึงนั่นแหละทะลึ่งก่อน”
เสียงหัวเราะที่ดังออกมาจากด้านข้างซุ้มต้นไม้ทำให้ร่างระหงที่กำลังก้าวเดินชะงัก ดวงตาสวยหวานเมียงมองเข้าไป เพราะเสียงหัวเราะคุ้นเคยแบบนี้ หล่อนจำได้ เมษารินเยี่ยมหน้ามองและก็เห็น
“เฮ้ย! นนท์! เอก! ไหงมาอยู่ตรงนี้วะ เรายืนรออยู่ตรงโน้นตั้งนาน ไม่เห็นพวกแกเลย นี่อย่าบอกนะว่าพวกแกไม่เห็นเราอะ”
เมษารินพูดยาวและยิ้มกว้างอย่างดีใจสุดๆ ที่ได้พบเพื่อน
แต่ชานนท์กับเอกกลับทำหน้าอึ้งๆ
“นี่เมษ์ไง จำไม่ได้เหรอ”
แค่นั้นชานนท์ก็เป็นฝ่ายหัวเราะออกมา ก่อนที่จะตามด้วยเอก
