บท
ตั้งค่า

บทที่ 1 ความรู้สึกที่รุนแรง (4)

“น้องเขามาซื้อดอกไม้ที่ร้านไปให้คุณแม่น่ะ” เธอเลือกบอกแค่นั้นไม่ต้องการลงรายละเอียดมากไปกว่านั้น “แล้วสรุปเป็นไงคะคุณแม่ชอบที่พี่จัดให้ไหม” ถามหนุ่มรุ่นน้องที่ดูเหมือนหน้าจะติดบึ้งนิด ๆอย่างเป็นกันเอง

“แม่หรือมันที่ชอบกันแน่วะ ถึงว่าปิดปากเงียบสนิทถามว่าใครให้ก็ไม่ตอบชิช๊ะไอ้ตัวร้าย” แทนไทพึมพำกับตัวเองเบา ๆ ตอนนี้เริ่มจะเข้าใจแล้วว่าไอ้ช่อหวานแหววนั่นมันมีที่มายังไง ร้ายนักนะไอ้เพื่อนเลวถึงกับเอาแม่มาอ้างเลยเหรอวะ แต่ที่ไม่รู้ก็คือมันไปที่ร้านนั้นแล้วเห็นพี่พิ้งค์หรือมันเคยเจอพี่เขามาก่อนนี่สิ อะไรจะรวดเร็วปานนั้นและดูท่าว่าจะเอาจริงเสียด้วยสิ

“ชอบแหละครับ” ตอบอย่างขอไปทีอยากจะตะโกนออกไปด้วยซ้ำว่าไม่อยากมีพี่สาวไม่ต้องมาพี่อย่างนั้นอย่างนี้กับเขา คนไม่อยากมีพี่เพิ่มเริ่มจะหัวเสียขึ้นไปอีก

“พี่ดีใจนะที่แม่น้องชอบ ว่าแต่เราชื่อปริ๊นท์ใช่ไหมพี่จะได้จำเอาไว้เผื่อเจอกันครั้งหน้าจะได้เรียกถูก ส่วนพี่ชื่อพิงค์นะ” พูดอย่างคนอัธยาศัยดีทั้งที่ตอนแรกที่เห็นหน้าก่อนที่เจ้าตัวจะเดินมายังมีความคิดว่าไม่จำเป็นต้องทักอยู่เลย แต่พอได้รู้ว่าเป็นเพื่อนน้องชายยัยหมวยก็เปลี่ยนความคิดทันที

“ไม่บอกด้วยเลยล่ะว่าต่อไปถ้าต้องการดอกไม้ก็มาใช้บริการร้านเวียงพิงค์ของพี่อีกนะ” หมวยช่วยพูดเสริมเพราะรู้เท่าทันความคิดของเพื่อนสนิท

“ขายของกันยกใหญ่เลยนะ ไม่บอกไปอีกล่ะครับเจ๊ว่าถ้าบริษัทไอ้ปริ๊นท์ต้องการเกี่ยวกับจัดดอกไม้ให้ติดต่อพี่พิ้งค์น่ะ” แทนไทประชดพี่สาวเล็ก ๆ

“จริงด้วย รู้ไหมพิ้งค์บริษัทนายปริ๊นท์ก็อยู่ใกล้ๆกับร้านดอกไม้เธอนั่นแหละ ตึกดิษยกุลน่ะของบ้านนายปริ๊นท์เขา หมอนี่เป็นทายาทคนเล็กเลยนะเห็นอย่างเงี้ย”

“บริษัทรับเหมาก่อสร้างรายใหญ่ของประเทศนั่นน่ะเหรอหมวย” ถามเพื่อนสนิทอีกครั้งซึ่งหมวยก็พยักหน้าตอบว่าใช่ บ้านรวยนี่เองถึงกล้าให้ทิปเธอเยอะได้โดยไม่คิดเสียดาย แต่ถึงไม่รู้ว่าที่บ้านเขาทำอะไรก็พอจะมองออกว่าเป็นคนมีชาติตระกูลดี เพราะการแต่งตัวบวกกับผิวพรรณของหนุ่มน้อยหน้าตาดีคนนี้มันบ่งบอก

ปริญนั่งเงียบฟังการสนทนาของสองสาวและแทนไทไปพลางๆ สายตาของเวียงพิงค์ที่ใช้มองมันไม่ได้บ่งบอกว่าสนใจอะไรในตัวเขาสักนิดมีแต่ตัวเขาเองนี่แหละที่เป็นบ้าเอาแต่คอยลอบมอง ยิ่งยามที่ริมฝีปากอวบอิ่มขยับก็เกิดความอยากรู้ว่ามันจะนุ่มสักแค่ไหนถ้าได้สัมผัส ลำคอขาวผ่องที่อยากจะฝากรอยแดงเอาไว้ หายใจทีหน้าอกที่ดูเกินมาตรฐานก็สะท้อนขึ้นลงชวนมอง และถ้าได้ซุกมันคงดีเป็นบ้าเลย ไหนจะเรียวขาเล็กที่นวลเนียนน่าลูบไล้นั่นอีก เลือดในร่างกายมันไหลเวียนจวนเจียนจะคลั่งเข้าไปทุกที ให้ตายเถอะเธอคงไม่รู้ว่าตัวเองมีอิทธิพลต่อความรู้สึกของเขามากแค่ไหนถึงได้แต่คอยยิ้มหวานให้เขาแอบมองอยู่เรื่อย แล้วถ้าเขาฉุดไปตอนนี้จะเป็นอะไรไหมวะ ประสาทจะกิน นั่งมองได้แค่อย่างเดียวมันทรมานเหลือเกิน

“เป็นไรวะปริ๊นท์ทำหน้าเครียดแท้ หรือว่าเบื่ออยากกลับแล้ว” แทนไทเห็นว่าเพื่อนเงียบไปนานจึงถามอย่างเป็นห่วง สองสาวเลยพลอยสนใจตามไปด้วย

“ไม่มีอะไรแค่ปวดหัวนิดหน่อย ยังไงฉันขอตัวกลับก่อนละกันนะ คืนนี้คงอยู่ต่อกับพวกแกไม่ไหวแล้วล่ะว่ะฝากบอกไอ้เคนโด้ด้วย ผมไปนะครับเจ๊หมวย แล้วเจอกันนะครับพิ้งค์” บอกเร็ว ๆ แล้วลุกจากที่นั่งโดยไม่ฟังว่าใครจะพูดอะไรทั้งนั้น

“เพื่อนแกทำไมเรียกชื่อยัยพิ้งค์เป็นเพื่อนแบบนั้นล่ะนายแทนไทไม่น่ารักเลยนะนายปริ๊นท์เนี่ย” คนขี้สงสัยถามเอาความกับน้องชายที่นั่งทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้

“จะไปรู้มันไหมล่ะเจ๊นี่ก็ถามแปลก ๆ ถ้าอยากรู้ก็ตามไปเค้นคำตอบเอาจากมันละกันนะ” พูดจบก็เดินหนีไปอีกคนเพราะขืนอยู่ต่อเดี๋ยวจะถูกซักฟอกอีก ไอ้คนที่ทำให้สองสาวนี่สงสัยก็ไม่อยู่ต่อแล้วเลยหนีบ้างดีกว่า

“น้องเขาคงเห็นว่าฉันหน้าเด็กมั้งเลยไม่อยากเรียกพี่ แกก็อย่าคิดเยอะสิหมวย” เวียงพิงค์กระแซะไหล่เพื่อนซี้ เธอไม่ได้คิดเล็กคิดน้อยอะไรหรอกเลยไม่อยากจะเป็นประเด็น

ด้านคนที่เดินออกมาดื้อ ๆ ก็ฟุบหน้าอยู่กับพวงมาลัยรถนิ่ง กัดฟันจนสันกรามขึ้นนูน พอระงับอารมณ์ที่ไม่เป็นตัวของตัวเองได้บ้างแล้วก็สตาร์ทรถบึ่งออกไปด้วยความเร็วเกินอัตราตามที่กฎหมายได้กำหนดเอาไว้

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel