
บทย่อ
เพราะถูกบังคับให้แต่งงาน เขาจึงไม่เคยคิดจะรักผู้หญิงที่ได้ชื่อว่าเป็นภรรยาเลยแม้แต่น้อย เพราะเธอทำให้เขาต้องเลิกรากับแฟนสาวไป ในเมื่อยังหน้าหนาแต่งงานกับเขาก็จงรับความเจ็บปวดให้ไหวก็แล้วกัน
ตอนที่ 1 คืนวิวาห์
ใบหน้าสวยหวานจ้องมองตัวเองในกระจกเงาบานใหญ่ด้วยสีหน้ามีความสุข เธอไม่คิดเลยว่าในชีวิตจะมีวันนี้กับเขาด้วย วันที่กำลังจะได้แต่งงานกับผู้ชายที่เคยช่วยชีวิตเธอเอาไว้
ไม่ว่ามันคือโชคชะตาหรือโลกแคบก็ไม่อาจรู้ได้ แต่ทุกอย่างที่เกิดขึ้นนี้ช่างเหลือเชื่อจริง ๆ เพราะนอกจากผู้ชายที่กำลังจะเป็นสามีของเธอเคยช่วยชีวิตเธอแล้ว แม่ของเขาก็เคยช่วยชีวิตแม่ของเธอไว้เมื่อหลายปีก่อนเช่นกัน
เพราะแบบนี้เธอจึงตอบตกลงที่จะแต่งงานกับชายหนุ่มคนนั้นโดยไม่ต้องคิดอะไรมาก เนื่องจากใจหนึ่งก็แอบปลื้มเขา อีกใจก็อยากช่วยเหลือบริษัทของครอบครัวชายหนุ่มด้วย
แท้จริงแล้วจุดประสงค์หลักของการแต่งงานในครั้งนี้คือเรื่องธุรกิจ เธอรู้ว่ามันไม่ได้เกิดจากความรักของทั้งสองฝ่าย แต่แพรไหมก็คิดว่าคงไม่เป็นไร แต่งก่อนแล้วค่อยรักกันเป็นเรื่องปกติ อีกอย่างสำหรับเธอความรู้สึกที่มีให้แก่ชายหนุ่มนั้น มันก็มากพอที่จะทำให้เธอยอมเป็นภรรยาของเขาในวันนี้
“น้องแพร ลูก” เสียงหวานของแม่เอ่ยขึ้นมาจากทางด้านหลัง ทำให้หญิงสาวที่เพิ่งแต่งตัวเสร็จหันหน้าไปมองตามเจ้าของเสียงทันที
พอได้เห็นใบหน้าสวยหวานของลูกสาวคุณหญิงมณีรัตน์ก็รู้สึกตื้นตันใจขึ้นมาไม่น้อยที่ตอนนี้แพรไหมแต่งตัวไม่ต่างจากเจ้าหญิงแสนสวย
“คุณแม่ อย่าร้องไห้สิคะ วันนี้วันแต่งงานของแพรนะคะ” แพรไหมเอ่ยยิ้ม ๆ
พอได้ยินอย่างนั้นหญิงวัยกลางคนก็รีบยกมือขึ้นมาซับน้ำตาทันที ก่อนจะเผยรอยยิ้มกว้างออกมาให้ลูกสาว
“โอเคจ้ะลูก แม่นี่แย่จริง ๆ เลย วันแต่งงานของลูกสาวแม่แท้ ๆ ยังจะมาร้องไห้อีก” เธอบอกและพยายามไม่ให้น้ำตาไหลออกมาอีก ก่อนจะสำรวจดูความเรียบร้อยของคนตรงหน้า เห็นลูกสาวกำลังจะแต่งงานไปมีครอบครัว คนเป็นแม่อย่างเธอก็อดที่จะตื้นตันใจไม่ได้ รู้สึกทั้งยินดีและใจหายไปในคราเดียวกัน
“เป็นไงบ้างคะ” แพรไหมถามพลางหมุนตัวช้า ๆ อวดชุดแต่งงานแบรนด์หรูที่สั่งตัดมาราคาแพง รวมทั้งจ้างช่างแต่งหน้าและทำผมมือหนึ่งของประเทศ เธอทุ่มเทให้กับวันนี้มากเพราะถือเป็นวันสำคัญที่สุดในชีวิตของลูกผู้หญิง เธอจึงต้องสวยที่สุดในงาน
“สวยมากจ้ะ ลูกแม่สวยที่สุด” มณีรัตน์มองลูกสาวด้วยสายตาอ่อนโยน
“ขอบคุณนะคะ” ทุกสิ่งที่แม่ทำเพื่อเธอทำให้แพรไหมรู้สึกมีความสุขไม่น้อย
เธอเป็นลูกสาวคนเดียวของบ้าน อยู่กับพ่อและแม่ที่รักเธอมากกว่าใคร ชีวิตที่ผ่านมาของแพรไหมเรียกได้ว่าดุจไข่ในหินก็ไม่ผิด หญิงสาวเปรียบเสมือนสิ่งมีค่าที่สุดของทุกคนในบ้าน เพราะแบบนี้แพรไหมจึงเติบโตขึ้นมาอย่างมีความสุขและมองโลกในแง่ดีเสมอ
ใคร ๆ ก็ว่าชีวิตของหญิงสาวดีเลิศจนน่าอิจฉา ครอบครัวร่ำรวย หน้าตาสะสวยที่ไม่ว่าจะมองตรงไหนแพรไหมก็จัดว่าสวยในอุดมคติของชายไทยหลาย ๆ คน แถมเธอยังเป็นคนเรียนเก่ง กิจกรรมก็เป็นเลิศ เพราะแบบนี้จึงมีทั้งคนที่ชอบเธอมากและเกลียดเธอมากเหมือนกัน
ความอิจฉาเป็นสิ่งที่ทำให้มนุษย์เราสามารถทำอะไรได้โดยไม่คำนึงถึงความถูกผิด ครั้งหนึ่งเธอเคยโดนพวกผู้หญิงที่ไม่ชอบเธอสั่งให้คนมาดักทำร้าย คนเหล่านั้นต้องการให้ชีวิตของแพรไหมแปดเปื้อน ถ้าหากไม่ได้ความช่วยเหลือของวชิรวิทย์ในครั้งนั้น เธอเองก็ไม่รู้ว่าวันนี้ตัวเองจะเป็นยังไง และนั้นคือครั้งแรกที่แพรไหมได้เจอเขา สำหรับเธอเขาคือเจ้าชายขี่ม้าขาวที่มาช่วยชีวิตของเธอเอาไว้
แต่สำหรับวชิรวิทย์แล้วเธอเป็นเพียงผู้หญิงแปลกหน้าที่เขาจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าเคยช่วยเมื่อไหร่ ชายหนุ่มรู้แค่ว่าผู้หญิงที่ชื่อแพรไหมเข้ามาในชีวิตของเขาและทำให้ทุกอย่างที่เขามีพังทลายลง ตั้งแต่ที่รู้ว่าต้องแต่งงานกันเขาก็ไม่เคยคิดจะสนใจไยดีอะไรเธอเลย
แต่แพรไหมก็ไม่ยอมแพ้ เธอพยายามทำให้เขาชอบเธอแม้จะไม่สำเร็จในวันนี้ แต่สักวันหนึ่งเขาอาจจะมองเห็นความดีของเธอบ้าง
ผ่านไปไม่นานก็ถึงเวลาอันสมควร งานแต่งงานในวันนี้จัดแบบตอนเย็นทีเดียว พิธีในงานไม่ได้มีอะไรมาก มีเพียงสวมแหวนแต่งงานและจดทะเบียนสมรสเพียงเท่านั้น แขกในงานก็มีเพียงไม่กี่สิบคนคือเพื่อนสนิทและญาติของทั้งสองฝ่าย
ทันทีที่หญิงสาวเห็นใบหน้าของคนที่กำลังจะเป็นสามีจ้องมองเธออยู่ ก่อนที่เขาจะยื่นมือมาให้เธอจับ ภาพที่เห็นทำให้ใคร ๆ ต่างชื่นชมว่าสุดแสนจะโรแมนติก
ในชั่ววินาทีนั้นแพรไหมเองก็เผลอรู้สึกอย่างนั้นเหมือนกัน เธอจึงส่งยิ้มหวานให้เขาขณะยื่นมือออกไปวางลงบนฝ่ามือใหญ่ จนกระทั่งชายหนุ่มยกแขนขึ้นมาโอบเอวเธอเอาไว้พร้อมใบหน้าหล่อเหลาที่โน้มเข้ามาใกล้ใบหู ในตอนนั้นจากสายตาที่ดูมีความสุขของเขาก็เปลี่ยนไปในทันที
“ถ้าไม่อยากอยู่อย่างตายทั้งเป็นก็อย่าจดทะเบียนสมรสกับฉัน” ชายหนุ่มยกมุมปากขึ้นก่อนจะขยับหน้าออกห่างจากหญิงสาวเล็กน้อย เขาทำเหมือนว่าเป็นคู่รักกับผู้หญิงคนนี้จนใคร ๆ ต่างก็เชื่อ แต่แท้จริงแล้วไม่ได้เป็นอย่างนั้นเลย
งานแต่งงานในวันนี้ไม่ต่างจากวันตกนรกของเขา เพราะต้องมาแต่งงานกับผู้หญิงไร้ยางอาย หน้าด้านหน้าทนอยากได้เขาเป็นผัวจนตัวสั่น ขนาดบอกให้ล้มเลิกงานแต่งงานนี้ซะเธอก็ยังไม่สนใจ
วชิรวิทย์เองก็ปฏิเสธไม่ได้เพราะเป็นคำสั่งของผู้เป็นย่า ทางเดียวที่จะยุติทุกอย่างก็คือผู้หญิงคนนี้ เขาอุตส่าห์ไปบอกให้เธอยกเลิกงานแต่งทว่าหญิงสาวกลับไม่ยอมทำตาม ยังจะอยากแต่งงานกับเขาให้ได้ ในเมื่อต้องการมากนักเขาก็จะทำให้เธอรู้ว่าการอยู่อย่างเจ็บปวดมันเป็นยังไง
แพรไหมพยายามฝืนสีหน้าไม่ให้เผยความเจ็บปวดออกมาให้ใครได้รับรู้ คำพูดของชายหนุ่มที่เอ่ยออกมาเมื่อครู่นั้นทำให้หัวใจของเธอเจ็บปวดไม่น้อย แต่เธอก็พยายามทำให้งานในวันนี้ดำเนินผ่านพ้นไปได้ด้วยดี
จนกระทั่งพิธีการมาถึงการจดทะเบียนสมรส สีหน้าของคนตัวสูงเผยความไม่พอใจออกมาอย่างชัดเจน เขากัดฟันเอาไว้แน่นก่อนจะเหล่ตามองเจ้าสาวที่นั่งข้างกาย
“น้องแพรจดสิจ๊ะ” เสียงหวานบอกลูกสาวออกไปเมื่อเห็นว่าจู่ ๆ แพรไหมก็เอาแต่นั่งมองกระดาษตรงหน้า ไม่ยอมหยิบปากกามาเซ็นชื่อตัวเองลงไปสักที
ในตอนนี้แพรไหมกำลังครุ่นคิดกับคำพูดของชายหนุ่มก่อนหน้า น้ำเสียงข่มขู่ที่วชิรวิทย์เอ่ยออกมานั้นยังดังก้องอยู่ในในใจของหญิงสาวไม่ไปไหน เพราะเหตุนี้จึงทำให้แพรไหมรู้สึกลังเล เธอกำลังคิดอย่างหนักว่าควรไปต่อหรือพอแค่นี้ดี
“เป็นอะไรไปลูก แขกจ้องอยู่นะน้องแพร”
เสียงของแม่เรียกสติให้กับหญิงสาวอีกครั้ง แพรไหมเงยหน้ามองรอบ ๆ ก่อนจะพยายามปั้นยิ้มออกมา
“แพรแค่ตื่นเต้นน่ะค่ะ ขอโทษนะคะ” เธอพูดปดออกไป เพราะในตอนนี้สายตาของแขกเหรื่อที่มาร่วมงานต่างจ้องมองมาที่เธอเป็นจุดเดียว ไหนจะสายตาของพ่อแม่ตัวเอง รวมถึงครอบครัวของชายหนุ่มอีก
“นึกว่าเป็นอะไรไปเสียอีกหนูแพร จดสิจ๊ะหลานสะใภ้ย่า” คุณย่าวรรณเอ่ยออกมาด้วยรอยยิ้ม
การได้แพรไหมมาเป็นหลานสะใภ้ทั้งถูกใจทั้งทำให้เธอมีความสุขไม่น้อย การที่หลานชายของเธอแต่งงานกับแพรไหมนอกจากจะทำให้ตัดขาดกับผู้หญิงหน้าเงินคนนั้นแล้ว ยังช่วยเรื่องบริษัทที่เริ่มวิกฤตอีกด้วย
ก่อนหน้านี้หญิงชราได้ไปขอร้องพ่อของแพรไหมเรื่องงานแต่งงานระหว่างเด็กทั้งสองคน จากตอนแรกที่ชายวัยกลางคนจะปฏิเสธ แต่พอได้ยินว่าครั้งหนึ่งลูกสะใภ้ของคุณหญิงวรรณเคยช่วยชีวิตภรรยาของเขาเอาไว้ เขาจึงเก็บเรื่องนี้มาคิดทบทวนอีกครั้ง
พอได้คิดหลาย ๆ ด้านก็เห็นว่าเรื่องนี้มีแต่ข้อดีทั้งนั้น อย่างแรกคือลูกสาวของเขาได้แต่งงานกับคนที่แอบปลื้ม ซึ่งในตอนแรกที่รู้เรื่องนี้ชายวัยกลางคนเองก็ตกใจพอสมควรเพราะไม่คิดว่าโลกจะกลมมากขนาดนี้ อย่างที่สองคือได้ตอบแทนบุญคุณของครอบครัวนั้น นอกจากนี้การช่วยให้ธุรกิจอีกฝ่ายสามารถไปต่อได้ก็จะได้กลายเป็นพันธมิตรกันในอนาคตอีกด้วย
ในเมื่อมันเป็นโชคชะตาที่ครอบครัวเขาต้องมาข้องเกี่ยวกับครอบครัวนี้หลายครั้ง เขาจึงยอมตกลงที่จะช่วยเหลือและยอมให้แก้วตาดวงใจของเขาแต่งงานกับวชิรวิทย์ ซึ่งแน่นอนว่าเขาได้ถามความเห็นจากลูกสาวแล้ว
ในตอนแรกแพรไหมเองก็คิดหนัก แต่พอหญิงสาวถามความรู้สึกของตัวเองในใจอยู่หลายวัน เธอก็ตัดสินใจแต่งงานตามที่ผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายเห็นสมควร
เจ้าของใบหน้าสวยจ้องมองแผ่นกระดาษตรงหน้าก่อนจะหยิบปากกาขึ้นมาจรดชื่อตัวเองลงไปในที่สุด มาขนาดนี้แล้วจะให้เธอถอยได้อย่างไรกัน งานวิวาห์ก็จัดจนจะเสร็จพิธีแล้ว เหลือแค่จดทะเบียนสมรสเพียงอย่างเดียวเท่านั้น
วชิรวิทย์กัดฟันแน่น เขาเผยสีหน้าเรียบนิ่งออกมา ใจจริงไม่อยากเซ็นเลยแม้แต่น้อย แต่พอหันไปเห็นสายตาของคุณย่าและแม่ที่มองมาก็ยิ่งทำให้ชายหนุ่มรู้สึกเจ็บปวดขึ้นมามากกว่าเดิม เขาเอาแต่ถามตัวเองว่าทำไมเขาต้องฝืนใจทำในสิ่งที่ไม่อยากทำด้วย ทำไมเขาต้องรับผู้หญิงคนนี้มาเป็นภรรยา
“วัฒน์ เซ็นได้แล้วลูก” เสียงของผู้เป็นแม่เอ่ยเตือนสติของลูกชายออกมา
ยิ่งได้ยินอย่างนั้นชายหนุ่มก็ยิ่งรู้สึกไม่พอใจแต่เขาต้องเก็บซ่อนความรู้สึกที่มีเอาไว้ ก่อนจะฝืนใจยอมจดทะเบียนสมรสไปในที่สุด
ในเมื่อผู้หญิงหน้าหนาที่นั่งยิ้มข้างกายเขาคนนี้ต้องการแบบนี้เขาก็จะจัดให้ รับรองว่าเธอต้องอยู่อย่างเจ็บปวดยิ่งกว่าเขาแน่นอน
