บท
ตั้งค่า

ตอนที่4.ชื่อเพราะจัง

“เอ่อ...เปล่าค่ะ หนูมาเดินดูเฉยๆ”

‘วัลยา’ เดินออกมาแซวหญิงสาวรูปร่างบอกบางเหมือนก้านดอกไม้ ความจริงหล่อนรู้อยู่แล้วว่าหญิงสาวไม่ใช่ลูกค้าเพราะมีป้ายสตาฟ์ห้อยคออยู่ แต่ก็ไม่รู้ทำไมถึงถูกชะตากับเธอคนนี้จนต้องเดินออกมาทัก ปาณิศารีบโบกไม้โบกมือปฏิเสธว่าเธอไม่ใช่ลูกค้า แต่ก็ไม่ได้ตั้งใจมาก่อกวนเวลาทำงานของใคร หญิงวัยกลางคนอายุอานามคงประมาณพ่อภากรแต่แต่งตัวเหมือนพวกยิปซี ใบหน้านั่นมียิ้มกว้างไม่ได้ทีท่าทีจะโกรธเคืองอะไร

“ฉันแหย่เล่นนะจ๊ะ” วัลยาหัวเราะเสียงดังแล้วควักมือเรียกให้เข้ามาใกล้ๆ ไม่รู้เพราะการแต่งตัวแปลกประหลาดของวัลยาหรือว่าเธอมีเวทมนต์อะไรทำให้ปาณิศาเดินตามเข้าไปในบูธของเธอ

“ฉันชื่อวัลยา เป็นนักจัดสวนจ๊ะ นี่นามบัตรฉัน” สาวใหญ่ยืนนามบัตรให้

“หนูชื่อปาณิศาคะ เรียกฝนก็ได้ค่ะบ้านหนูเพาะต้นลีลาวดี”

“ว้าว!ชื่อเพราะจัง แถมเลี้ยงลั่นทมอีก อ้อ! ฉันชอบชื่อเก่ามากกว่าลีลาวดีนะจ๊ะ”

“พ่อหนูก็เคยพูดแบบคุณน้านี่แหละคะ”

“คุณน้า! ตายแล้วยัยหนู!!! เรียกพี่ก็พอมั้งจ๊ะ”

“เอ่อ...” ปาณิศาหน้าเหวอขึ้นมาทันที

“เด็กมันเรียกน้าก็ถูกแล้วนี่...จะให้เรียกป้าหรือไง”

“ยัยนี พี่บอกหลายครั้งแล้วใช่ไหม ถ้าจะอ้าพูดอะไรก็ให้มันน่าฟังหน่อย” วัลยาแสร้งทำเป็นงอนเดินเข้าไปในบูธของตัวเองท่ามกลางเสียงหัวเราะคิกคักของ ‘จงกลนี’ น้องสาวของตนเอง

“อย่าคิดมากเลยจ๊ะ พี่สาวฉันก็เป็นแบบนี้แหละ อ้อ! พี่ชื่อจงกลนี เป็นหุ้นส่วนของร้าน ‘ประดับใจ’ ปาณิศาแทบไม่อยากเชื่อว่าพี่น้องสองสาวที่ดูอายุจะห่างกันหลายปีจะนิสัยต่างขั้วขนาดนี้ เพราะจงกลนีดูเหมือนอายุประมาณ สามสิบต้นๆ แถมแต่งตัวเหมือนสาวออฟฟิศ

“เพิ่งมาออกบูธครั้งแรกหรือคะ”

“เอ่อ...ค่ะ ความจริงคุณพ่อต้องมาด้วย แต่ท่านขาเจ็บเดินไม่สะดวก”

“แหม...น่าอิจฉาคุณพ่อที่มีลูกสาวสวยแถมยังทำงานแทนได้อีกน่ะค่ะ” จงกลนียิ้มอ่อนโยน “ได้ยินว่าเพาะต้นลีลาวดีหรือคะ”

“ใช่ค่ะ บูธหนูอยู่ตรงโน้น ...” นิ้วเรียวชี้ไปตรงทางที่เดินจากมา “ของเราเป็นสายพันธุ์ไทยค่ะ มีทั้งพันธุ์แคระที่ปลูกในกระถาง หรือจะต้นใหญ่ที่ปลูกกลางแจ้งในบริเวณกว้างด้วย”

“ดีจัง ถ้าว่างจะเดินไปขอชมที่บูธนะคะ”

“ด้วยความยินดีค่ะ” ปาณิศายิ้มรับก่อนยกข้อมือดูนาฬิกา “ใกล้จะได้เวลาเปิดงานแล้ว หนูขอตัวก่อนนะคะ”

“ตามสบายค่ะ ยังไงสามวันนี้เราต้องได้คุยกันอีกแน่ๆ”

“ค่ะ”

หญิงสาวพาร่างบอบบางเดินกลับมาทางเดิม ยังไม่ทันถึงบูธก็เห็นคนตัวใหญ่ยักษ์หมุนซ้ายแลขวาเหมือนมองหาใครอยู่ซึ่งเธอก็รู้ดีว่าคนที่มองหาคือตัวเธอเองนั้นแหละ เพราะความรีบที่จะเดินไปให้ถึงที่หมายโดยเร็วจนลืมดูคนที่เดินสวนมาข้างหน้า ทั้งที่คิดว่าเบี่ยงตัวหลบแล้วแต่ไหล่ของเธอก็ยังชนกับร่างสูงโปร่งจนเซถลา โชคดีที่ว่ามือใหญ่เอื้อมมาคว้าเธอไว้แนบอกกว้างของเขา

ตั้งแต่เกิดมาจนตัวโตขนาดนี้ ปาณิศาไม่เคยอยู่ในอ้อมกอดชายอื่นใกล้ชิดขนาดนี้ กลิ่นโคโลญจ์ผู้ชายปนกับกลิ่นเหงื่อจางๆ กลับทำให้รู้สึกหอมอ่อนเหมือนเป็นกลิ่นกายเฉพาะตัวเป็นกลิ่นที่เธอไม่เคยสัมผัส

“เป็นอะไรหรือเปล่าครับ”

“เอ่อ...มะ...ไม่ ไม่เป็นไรคะ” ด้วยความเขินอาย ปาณิศารีบดันตัวเองออกจากอกอุ่นแต่ผมยาวของตัวเองกลับไปพันกับกระดุมเสื้อเชิ้ตของเขา

“แย่แล้ว!”

“อย่าดึงครับ...เดี๋ยวผมขาด”

เสียงทุ้มลอยอยู่ริมหูของหญิงสาวที่อายจนหน้าแดงกล่ำ ไม่กล้าแม้แต่จะเงยหน้าขึ้นสบตาเขา มือเล็กของเธอพยามยามแกะผมออกจากกระดุมเสื้อ แต่มือใหญ่ของเขาก็สัมผัสมือเธอเบาๆ ต้องการจะช่วยเธอ

“ขอโทษนะค่ะ ขอโทษ”

ปาณิศาพร่ำขอโทษจนนับครั้งไม่ถ้วนจนชายหนุ่มหัวเราะออกมาเบาๆ เขาไม่ได้หงุดหงิดใจอะไรกับเรื่องที่เกิดขึ้น แต่เธอกลับคิดว่าเขารำคาญจึงกระชากผมออกจากกระดุมเสื้อของเขา

“คุณ!”

“ขอโทษจริงๆ ค่ะ”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel