บท
ตั้งค่า

บทที่ 1 กลืนกิน (2)

“นั่นมันอะไร มัน...อ่า...”

หล่อนกรีดร้องยาวและแหลมฟังดูน่ากลัวกับการถึงจุดสุขสมอย่างรุนแรงและมันไม่ใช่แค่ครั้งเดียว มันเป็นการสุขสุมทีเดียวติดๆ กันถึงสี่ครั้งแม้ว่าเขาจะหยุดขยับไปแล้ว แต่การขยายขนาดกลับมีผลกับหล่อนอย่างไม่น่าเชื่อ

เสียงกรีดร้องของหล่อนดังก้องไปทั่วราวกับหล่อนจะขาดใจตายเสียให้ได้ แต่เป็นการตายด้วยความสุขสมที่หล่อนเชื่อว่าไม่มีผู้หญิงคนไหนจะได้พบความสุขเหมือนกับที่หล่อนได้พบพานอีกแล้ว

ดวงตาของหล่อนหรี่ปรือฉ่ำหวาน สติเริ่มจมลงสู่ภวังค์ราวกับดึงให้หล่อนเคลิ้มฝันถึงบทรักที่ผ่านมา แต่สิ่งเดียวที่หล่อนยังไม่ได้สมหวังกับบทพิศวาสนั้นคือสายธารของเขาไม่ได้หลั่งรินสู่กายหล่อน แต่หล่อนไม่มีสติพอจะร้องขอใดๆ ได้อีกแล้ว เพราะภวังค์นั้นช่างมีอำนาจลึกลับอย่างไม่น่าเชื่อ

ชายหนุ่มมองหญิงสาวที่ก้าวผ่านไปสู่สรวงสวรรค์ด้วยความโกรธที่ปะทุขึ้นมาอย่างปัจจุบันทันด่วน เขาดึงความแข็งแกร่งออกอย่างรวดเร็วจนร่างของหล่อนเผยอตามติด ก่อนจะคำรามออกมาด้วยความเกรี้ยวกราด เมื่อความสุขสมนั้นไม่ได้มีเพื่อเขาและความโหดร้ายมันยังอยู่กับเขา สายธารของเขาไม่ได้เข้าไปอาบท้นในร่างของหล่อน...เพราะหล่อนไม่ใช่!

หล่อนเป็นผู้หญิงคนที่สิบที่ถึงสวรรค์เพราะเขา แต่สำหรับเขา...ผู้ชายที่ไม่มีวันได้ไปถึงสวรรค์ ยังคงต้องทรมานต่อไป

“เอียน!”

เขาตะโกนเรียกคนสนิทด้อย่างโกรธเกรี้ยว ใบหน้าบิดเบี้ยวเหยเกก่อนจะลุกลงจากเตียงเดินโผเผไปยังห้องน้ำที่เห็นอยู่ ปล่อยให้ผู้หญิงที่นอนอยู่บนเตียงที่ยังไม่รับรู้อะไรได้แต่เคลิ้มไปกับความสุขสมที่ได้รับ โดยไม่รู้ว่าผู้ชายคนหนึ่งเข้ามาในห้องพร้อมกับเสื้อคลุมในมือ ที่นำมาคลุมร่างหล่อนไว้ก่อนจะอุ้มเจ้าหล่อนออกจากห้องไปเหมือนทุกครั้งที่เจ้านายได้จัดการพวกหล่อนแล้ว

เสียงร้องสุขสมหวานแหลมและเสียงคำรามที่ผ่านพ้นไปช่างเป็นเสียงที่ไพเราะของคู่ที่เพิ่งโรมรันกันอย่างถึงใจ แต่มันกลับเป็นเสียงร้องชวนสยดสยองสำหรับแอนนิต้า บาลานอกซ์ ผู้ซึ่งเข้ามาอยู่ผิดที่ผิดทางเสียแล้ว!

ใบหน้าสวยรับกับจมูกโด่งซุกหมอนที่กอดเอาไว้ต่างเครื่องป้องกันภัย เรือนผมสีน้ำตาลแดงยาวสยายทิ้งตัวกลางแผ่นหลัง ดวงตาสีฟ้าน้ำทะเลหลับแน่นด้วยความกลัวจับใจ

หญิงสาวเพิ่งรับรู้รสชาติของความกลัวสุดขีดก็เมื่อสามวันที่ผ่านมานี้เอง หล่อนก้าวเข้ามาในคฤหาสน์วอเรนตันในฐานะของสาวใช้โดยไม่รู้อะไรเลยสักนิด หวังเพียงแค่ว่าชีวิตของหล่อนคงจะสบายมากกว่าการต้องถูกอาสะใภ้กดขี่ให้ทำงานอยู่ในบาร์และต้องทนกับความกักขฬระของผู้ชายที่หล่อนแสนเกลียดชัง

เดิมทีหล่อนอาศัยอยู่กับอาสะใภ้ที่ฟีนิกซ์ ซึ่งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของแคลิฟอเนีย แต่พอถูกเอียน มัลโรเลอร์หยิบยื่นโอกาสที่จะได้โผบินออกจากความร้ายกาจของอาสะใภ้ หล่อนก็กระโจนเข้าใส่อย่างไม่คิดหน้าคิดหลังและอาสะใภ้ก็เต็มใจเฉดหัวหล่อนออกมาอย่างไม่ใยดี เพื่อแลกกับเงินที่อามักพูดบ่อยครั้งว่า.. ‘มีเงินดีกว่ามีตัวซวยอย่างแกอยู่ด้วย!’

แต่ใครจะไปคิดเล่าว่าหล่อนจะถูกพามายังคฤหาสน์วอเรนตันแห่งนี้ ซึ่งครั้งแรกที่หล่อนเห็นคฤหาสน์ก็คิดได้อย่างเดียวว่าตนเองควรวิ่งหนีไปจากมันโดยเร็วที่สุด เพราะมันไม่ต่างจากคฤหาสน์ผีสิงและมันน่ากลัวกว่านั้นก็ตรงที่ในคฤหาสน์มีเพียงแค่เอียน มัลโรเลอร์, มารีน่า เมสัน กับคนสวนท่าทางแปลกๆ ที่ทำให้หล่อนแน่ใจได้ว่าตัวเองมาผิดที่แล้ว!

หล่อนจำได้ว่าอ้อนวอนขอให้เอียนพาหล่อนกลับไปส่งอาสะใภ้ แต่เอียนบอกหล่อนว่าที่นี่ไม่มีอะไร ถึงแม้ภายนอกจะดูน่ากลัวและถูกเรียกว่าคฤหาสน์ลึกลับของวอเรนตันก็ตาม

ตอนแรกหล่อนไม่เข้าใจว่าอะไรคือความลึกลับของวอเรนตัน แต่แล้วในค่ำคืนแรกของการใช้ชีวิตในคฤหาสน์ หล่อนก็ได้คำตอบว่าความน่ากลัวเป็นอย่างไร กลางวันอาจดูเงียบสงบแต่กลางคืนมันกลับน่าสะพรึงกลัวอย่างที่สุด โดยเฉพาะเสียงคำรามราวกับสัตว์ร้าย

เสียงนั้นบวกกับคำสั่งของเอียนที่กำชับไว้ว่า ห้ามออกจากห้องในยามค่ำคืนอย่างเด็ดขาด มันยิ่งตอกย้ำให้หล่อนเชื่อว่าในคฤหาสน์หลังนี้ต้องมีอะไรที่สมกับความลึกลับของมันอยู่อย่างแน่นอน

ตั้งแต่คืนนั้นจนถึงคืนนี้ แอนนิต้านอนฟังเสียงคำรามมาแล้วสามคืน เพียงแต่คืนนี้มันกลับมีเสียงอื่นเข้ามาด้วย เป็นเสียงกรีดร้องของผู้หญิงที่ทำให้หล่อนคิดไปถึงผู้หญิงสาวสวยที่เห็นเมื่อช่วงหัวค่ำ เพราะในคฤหาสน์นี้นอกจากหล่อนและมารีน่าที่เป็นผู้หญิงแล้ว ก็ไม่มีผู้หญิงอื่นอีก

ผู้หญิงคนนั้นมากับรถคันหนึ่งและหายขึ้นไปบนชั้นสามของคฤหาสน์ อันเปรียบเสมือนพื้นที่ต้องห้าม เพราะมันถูกสั่งห้ามไม่ให้ใครขึ้นไปโดยไม่ได้รับอนุญาต และจนถึงเดี๋ยวนี้ผู้หญิงคนนั้นก็ยังไม่กลับลงมาเลยด้วยซ้ำ จึงไม่มีใครรู้ว่าเจ้าหล่อนเป็นตายร้ายดีอย่างไร

แอนนิต้ากอดหมอนซุกกายอยู่ตรงมุมห้องด้วยความกลัวจับใจ ยิ่งเสียงคำรามดังกึกก้องไปทั่วบริเวณราวกับย้ำเตือนถึงอาณาเขตในครอบครอง หล่อนก็เหมือนจะเห็นภาพของตัวเองอยู่ในหนังสยองขวัญแสนน่าสะพรึงกลัว มันทำให้หล่อนอยากวิ่งหนีออกไปจากหนังสยองขวัญเรื่องนี้ให้เร็วที่สุด

“พระเจ้าช่วยลูกด้วย ลูกไม่อยากตายอยู่ที่นี่” หล่อนพร้ำภาวนาให้ทุกอย่างที่เกิดขึ้นเป็นเพียงแค่ความฝัน ขอให้พรุ่งนี้ทุกอย่างได้หายไป ขอให้มันกลายเป็นแค่ฝันร้ายที่จะไม่มาเยือนหล่อนอีกเลย...

หญิงสาวภาวนาระหว่างที่เสียงร้องคำรามยังคงดังต่อไป เหมือนกับเจ้าสัตว์ร้ายหรืออะไรก็ตามกำลังเจ็บปวดอย่างแสนสาหัส แต่หล่อนไม่คิดว่าตัวเองควรออกไปจากห้องนอนเพื่อหาคำตอบของเสียงนั้นอย่างเด็ดขาด

‘อย่าริออกไปจากห้องในยามค่ำคืน ถ้าเธอไม่อยากตาย’

หล่อนเตือนตัวเอง เพราะนึกถึงเรื่องราวสยองขวัญในนิยายทั้งหลายที่มักเขียนว่าค่ำคืนเป็นดั่งรัตติกาลของสัตว์ร้ายและสิ่งที่น่ากลัว!

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel