เพลิงรักเพลิงเสน่หา

61.0K · จบแล้ว
ฟ้ารดา, ฟ้าใส ไอรดา, ธัญญา, ดาวฉาย, จันทร์นารี, ภูต เภตรา, จรรยา เลิศพงษ์ไทย
35
บท
3.0K
ยอดวิว
7.0
การให้คะแนน

บทย่อ

พ่อเขาซื้อที่แล้วฝากให้เพื่อนดูแล เมื่อพ่อกับแม่เขาเลิกกัน แม่มีสามีใหม่ไม่สนใจเขาที่ทุกข์ยากอยู่กับพ่อ พ่อบอกว่ามีที่แปลงหนึ่งอยู่กับเพื่อน ให้ชื่อและที่อยู่แก่เขาเอาไว้ จากนั้นพ่อตาย เขาไปดูที่ของตัวเองรู้ว่าเป็นไร่องุ่น เขาโกรธมาก มีอคติคิดว่าพ่อของเธองุบงิบเอาที่ไปเป็นของตนเอง งานนี้ความแค้นได้ก่อตัวขึ้น ยากที่จะยุติได้ง่ายๆ เขาจึงแฝงตัวเข้ามาติดต่อซื้อองุ่นไปขายและแกล้งรักเธอสาวสวยผู้แสนซื่อ เมื่อได้สมใจเขาทิ้งอย่างไม่ใยดี ขาดการติดต่อเป็นเวลาหลายเดือน ทั้งที่รู้ว่าเธอท้อง แต่ความเดียงสา อ่อนต่อโลกของหญิงสาวทำให้เขาตัดใจไม่ได้ แอบมาดูเพราะยังมีใจให้ เขาได้บอกกับทุกคนว่าเป็นใคร เข้ามาทำอย่างนี้เพื่ออะไร เรื่องราวจะเป็นอย่างไรติดตามอ่านได้แล้วค่ะ ด้วยความปรารถนาดี ธัญญา

นิยายรักแก้แค้นเศรษฐีคนธรรมดา

1 อดีตที่เจ็บปวด

เพลิงไพรชายหนุ่มวัย 26 ถึงกับขบกรามเป็นสันนูนด้วยความแค้นใจ หลังจากที่บิดาบอกว่ามีที่อยู่หนึ่งแปลงจำนวน 30 ไร่ซึ่งเป็นทำเลดี ถ้าขายตอนนี้คงได้เงินหลายสิบล้าน พ่อฝากโฉนดกับเพื่อนเอาไว้ แต่ไม่ได้ไปดูเป็นเวลายี่สิบกว่าปี

เขาได้ข่าวว่าไร่ของเพื่อนประสบความสำเร็จจากการทำไร่องุ่นและทำรีสอร์ตให้คนมาพัก พ่ออยากจะไปเอาโฉนดคืน แต่สังขารไม่อำนวยให้เพลิงไพรไปจัดการเอง

เขาคิดว่าคงยากที่จะได้ที่คืน หลังจากให้คนไปสืบดู รู้ว่าที่ทั้งหมดได้ปลูกองุ่นเต็มพื้นที่ และใครๆ รู้ว่าเป็นไร่ของนายเอก อรุณตะวัน

“โกงแม้แต่ที่ของเพื่อนเลยหรือ”

“เพลิงอย่าเพิ่งคิดอย่างนั้น อาจจะไม่ใช่ก็ได้”

“ผมว่าใช่นะพ่อ ถ้าหากว่าบริสุทธิ์ใจจริง คงออกตามหาเราเพื่อคืนที่ให้ ไม่ปล่อยเอาไว้เนิ่นนานเป็นเวลายี่สิบกว่าปีหรอก”

“พ่อไม่ได้ติดต่อเขาเอง และไม่ให้ที่อยู่เอาไว้ หลังจากเลิกกับแม่ของลูก พ่อก็หอบลูกหนีเร่ร่อนไปเรื่อยๆ กระทั่งมาเปิดร้านขายผักอยู่ที่ตลาดแห่งนี้”

“พ่อไว้ใจนายเอกขนาดนั้นเลยหรือ”

“เอกเป็นคนดีนะ อีกอย่างเมียเขาก็เป็นน้องสาวแม่ของเพลิงด้วย ถึงไม่ใช่น้องแท้ๆ ก็เถอะ”

คราวนี้เพลิงไพรขมวดคิ้วเข้าหากันด้วยความแปลกใจ น้องสาวของแม่เป็นภรรยานายเอก อรุณตะวัน แต่ไม่ใช่น้องสาวแท้ๆ คืออะไรกันแน่

“ผมไม่เข้าใจ”

“คืออย่างนี้นะ พ่อของรินทรซึ่งเป็นเมียเอกน่ะ ได้เอาแม่ดวงกมลของลูกมาเลี้ยงตั้งแต่เด็ก ประมาณสองปี ตาก็มีลูกจริงๆ คือรินทร ส่วนพ่อก็เป็นเพื่อนกับเอกไปทำไร่ที่นั่น เอกเป็นคนเก่ง ขยัน มีหัวการค้าทำให้ไร่เจริญรุ่งเรือง เขาแบ่งเงินให้พ่อ พอมีที่สวยๆ พ่อซื้อเอาไว้”

“แล้วฝากนายเอกเอาไว้งั้นหรือ”

“ใช่ เขาเป็นคนมีหน้ามีตา ส่วนพ่อก็เป็นแค่ผู้จัดการไร่ เมื่อเอกแต่งงานกับรินทร แม่ดวงกมลก็มาอยู่ที่บ้านเอกด้วย แม่คิดจะแย่งผัวน้องซึ่งพ่อเห็นว่าไม่ถูกต้องจึงเอาตัวเข้าไปพัวพันจนได้เสียกันและท้องเพลิงไพรขึ้นมา”

“แม่ทำอย่างนั้นจริงๆ หรือพ่อ”

“จริง เขาอยากได้ใคร่มี แต่นึกถึงศีลธรรม เข้าไปนัวเนียกับเอกจนเกือบหวั่นไหว พ่อสงสารรินทรที่ร้องไห้ทุกวันแต่ทำอะไรไม่ได้เพราะเธอเป็นกุลสตรีแสนซื่อ พ่อก็เข้าไปแทรกจนได้กับแม่ของลูก แม่ดวงกมลเจ้าอารมณ์ ทะเลาะกับพ่อทุกวันกระทั่งคลอด เขาหนีไปอยู่กับญาติต่างจังหวัด ได้ข่าวว่ามีผัวใหม่รวยมาก”

“พ่อเลี้ยงผมคนเดียวหรือครับ”

“ใช่ พ่อเจ็บปวดมากจึงฝากไร่ให้เอกดูแล ส่วนพ่อหอบลูกเร่ร่อนไปเรื่อยๆ อย่างว่าไม่อยากเห็นภาพเก่าๆ มันหลอนความรู้สึกมาก ความคิดพ่อตื้นจริงๆ ที่พาลูกมาลำบาก”

“แต่ตอนนี้เราไม่ลำบากแล้วนี่ครับ ผมรับซื้อผักผลไม้ที่ได้มาตรฐานแล้วส่งตามห้างสรรพสินค้า เราอยู่ได้ ผมมีโครงการจะขยายให้ใหญ่ขึ้นไปอีก ตอนนี้ก็จดทะเบียนเป็นรูปบริษัทแล้ว”

บุตรชายพูดให้บิดาดีใจว่าจะไม่มีความลำบากเข้ามาเยือน เพราะกิจการส่งผักผลไม้ให้ห้างสรรพสินค้ากำลังไปได้ดี ไทน้ำตารื้นด้วยความดีใจ จับมือลูกชายเอาไว้แน่น

“พ่อดีใจที่ลูกเป็นคนดี เอาการเอางาน”

“ผมอยากจะตามหาแม่ เขาจะมีชีวิตเป็นอย่างไร”

“อย่าไปยุ่งเลย ต่างคนต่างอยู่ดีกว่า คนใจดำอย่างนั้น เอาแต่ตัวเองรอด”

“ผมแค่อยากรู้เท่านั้นแล้วแม่มีลูกไหมครับ”

“มีเป็นผู้หญิง พ่อแม่ตามใจมาก เพลิงพ่อขอร้องอย่าไปยุ่งกับแม่ แต่เพลิงก็ต้องไปทวงสิทธิ์เรื่องที่ดินคืนจากเอก”

“ครับพ่อ ผมสัญญาว่าจะเอาที่ดินจำนวนสามสิบไร่กลับมาเป็นของเราให้ได้”

“ค่อยๆ พูดกับเขาให้ดี พ่อจะให้เอกสารทั้งหมดแก่ลูก พร้อมทั้งรูปถ่ายที่พ่อเคยถ่ายคู่กับเอก ดูสิลูกสมัยที่ไปบุกเบิกไร่ด้วยกัน”

ผู้เป็นบิดาให้ชายหนุ่มดูรูปสมัยหนุ่มๆ ซึ่งมีเอกกับไทในชุดเสื้อยืดสีขาวกับกางเกงยีนสีเข้มยืนกอดคอกันอยู่ในไร่ สองหนุ่มหน้าตาดี ยิ้มอย่างมีความสุข

ไทในเวลานี้ต่างกันมากเพราะผ่านความทุกข์ทั้งกายและใจมาพอสมควรอีกทั้งมีโรคเข้ามารุมเร้า เขาจึงทรุดโทรมเหมือนคนแก่อายุเกือบเจ็ดสิบ ทั้งที่ความจริงแค่หกสิบต้นๆ เท่านั้นเอง

“พ่อเหนื่อยเหลือเกินลูกเอ๋ย”

“พ่อนอนพักเถอะครับ เดี๋ยวจะไม่สบาย”

“ทุกวันนี้พ่อก็มีโรคอยู่กับตัว ไม่กลัวอะไรแล้วล่ะ”