1 น้องสาวนอกไส้ & พี่ชายนอกสายเลือด (2)
“ดีสิจ๊ะ ซันนี่เชื่อฟังขาล น้าคิดว่าขาลพูดกับน้องน่าจะได้ผล”
เชื่อฟังงั้นเหรอ... คนอย่างฉายตะวันที่ดื้อไม่ฟังใครแม้แต่แม่ตัวเองน่ะเหรอจะเชื่อฟังเขา พยัคฆาค้านจะพูดจึงพยักหน้ารับ “ผมจะลองดู”
รับปากรังสิมาผู้เป็นแม่เลี้ยง ชายหนุ่มก็หันมาตักข้าวต้มเข้าปาก กระนั้นในหัวกลับเต็มไปด้วยเรื่องของฉายตะวัน
เขาเห็นฉายตะวันมาตั้งแต่เจ้าหล่อนยังเป็นเด็ก ก็ตั้งแต่รังสิมาแต่งงานกับพ่อของเขานั่นแหละ ความสัมพันธ์กับน้องสาวนอกไส้เป็นไปด้วยดี
ฉายตะวันติดเขาแจ เวลาไปไหนมาไหนเขาจะพาฉายตะวันไปด้วยเสมอ แม้แต่พาไปมหา’ลัยเพื่อทำกิจกรรม จนเพื่อน ๆ สนิทในกลุ่มล้อว่าฉายตะวันเป็นลูกสาว ก็แน่ล่ะ เขากับฉายตะวันอายุห่างกันถึงสิบหกปี
แต่เพื่อนบางคนก็ล้อว่าเขา ‘เลี้ยงต้อย’ เพราะฉายตะวันติดเขาแจ อีกทั้งเจ้าหล่อนก็หวงเขามากถึงขนาดไม่ยอมให้เพื่อนผู้หญิงคนไหนเข้าใกล้
จนกระทั่งเขาบินไปเรียนต่อต่างประเทศเพื่อทำปริญญาใบที่สอง เขาก็ห่างจากน้องสาวคนนี้ไปโดยปริยาย เขายังจำได้ดีวันที่ออกเดินทาง ฉายตะวันร้องไห้โยเยทั้งวันจนตาบวม ซ้ำยังไม่ย่อมนอนเพราะกลัวเขาจะจากไป แต่เขาก็ไป... ไปหลายปีซะด้วยสิ
พอกลับมาเมืองไทยฉายตะวันก็เริ่มโตเป็นสาว ความสนิทสนมที่เคยมีจึงกลายเป็นความห่างเหิน เขาเองก็ยุ่งกับธุรกิจฟาร์มเลี้ยงหอยมุกมาตลอด เพราะพ่อต้องการวางมือ สุดท้ายเขาก็รับช่วงต่อเต็มตัว
ส่วนฉายตะวันก็มีโลกส่วนตัวและเริ่มติดเพื่อนมากขึ้น เขาเองไม่ค่อยได้สนใจน้องสาวคนนี้อีก ไม่สิ ไม่ใช่ไม่สนใจ มันก็แค่ดูพฤติกรรมอยู่ห่าง ๆ โดยไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวเท่านั้น
จนกระทั่งเมื่อสองปีที่แล้ว ฉายตะวันได้เข้าประกวดมิสแม็กซิมและคว้าตำแหน่งรองมิสแม็กซิมมาครอง ความวุ่นวายก็ตามมาเป็นเงา...
“เอาผลไม้ล้างปากมั้ยขาล?”
พยัคฆาหลุดจากภวังค์แล้วมองหน้าแม่เลี้ยงที่ยื่นจานฝรั่งมาให้ “ไม่ล่ะครับ”
บอกจบชายหนุ่มจึงยกชามข้าวต้มที่ทานจนเกลี้ยงไปใส่ไว้ในอ่างล้างจาน จากนั้นก็กลับขึ้นห้องนอนเพื่อพักผ่อน
เข้ามาในห้องนอนพยัคฆาถึงกับชะงักเมื่อเห็นร่างบางนอนหลับอยู่บนเตียงนุ่ม คิ้วเรียวหนารับกับดวงตาคมดุย่นเข้าหากัน ทันเท่าความคิดชายหนุ่มก็ตรงดิ่งไปหาผู้บุกรุกห้องทันที
“ซันนี่!” ชายหนุ่มเรียกหญิงสาวด้วยน้ำเสียงเคือง ๆ แต่เจ้าของวงหน้าหวานที่พริ้มตาหลับอย่างสบายซุกตัวภายใต้ผ้าห่มผืนนุ่มกลับไม่ยอมตื่นง่าย ๆ
พยัคฆาหรี่ตาเอามือเท้าสะเอวพลางดุนลิ้นข้างกระพุ้งแก้มอย่างขัดใจ “ซันนี่ ตื่นเดี๋ยวนี้!!”
คนถูกเรียกด้วยน้ำเสียงดุ ๆ ขยับตัวบิดขี้เกียจ ทำหน้านิ่วคิ้วขมวด แต่ไม่ยอมลืมตาตื่นง่าย ๆ พอเห็นฉายตะวันนอนขี้เซา พยัคฆาก็เลยหยิบเอาขวดสเปรย์ฉีดน้ำมาพ่นใส่น้องสาวทันที
“อื้ม” คนถูกปลุกทำเสียงรำคาญในลำคอ แต่ไม่ยอมตื่นง่าย ๆ พอโดนฉีดน้ำใส่อีกครั้งเธอจึงลืมตาขึ้น ก็พบสายตาคมดุของเจ้าของเตียงนุ่มที่จ้องมองมา
“เฮียขาล” ฉายตะวันส่งยิ้มให้ ก่อนอ้อมแอ้มถาม “ถึงวันสงกรานต์แล้วเหรอคะ”
“สงกรานต์บ้าสิ! ลุกขึ้นจากเตียงฉันแล้วกลับไปที่ห้องของเธอซะ” ชายหนุ่มออกคำสั่งเสียงห้วน หน้าตาบอกบุญไม่รับ
แน่ล่ะ นี่เป็นห้องนอนของเขา เขาไม่ชอบให้คนอื่นเข้ามายุ่งวุ่นวาย ยิ่งเป็นฉายตะวันด้วยแล้ว เขายิ่งไม่พอใจ ก็ห้องนอนของหญิงสาวอยู่ติดกับห้องของเขา เดินแค่ไม่กี่ก้าวก็ถึง แต่เจ้าหล่อนก็มักง่ายหนีมานอนห้องเขา!
“ยืมนอนก่อนน่า เตียงเฮียห๊อมหอม” ฉายตะวันยิ้มระรื่น ดึงผ้าห่มมาดมขณะปรือตามองชายหนุ่ม
“กลับไปที่ห้องเธอซะ ห้องตัวเองมีก็ไม่นอน” เจ้าของห้องทำหน้าดุ
“เอาน่าเฮีย... ยืมนอนหน่อยเดียวบ่นเป็นตาแก่ไปได้” หญิงสาวบอกอย่างไม่สนใจพลางดึงผ้าห่มมาคลุมโปง แต่เจ้าของห้องกลับดึงผ้าห่มออก ซ้ำยังเอาขวดสเปรย์ฉีดน้ำมาฉีดใส่หน้าอีก
“กลับไปซะ!”
