3
“สามวัน!”
เธอจำได้ว่าอุทานเสียงหลง มองหน้าเขาอย่างตกใจ สามวันเธอจะไปหาเงินที่ไหนมาให้เขาล่ะ เดือนหนึ่งเธอยังไม่มีปัญญาหาเงินมาให้เขาเลย
เจ้าหนี้ของเธอสีหน้าไม่ทุกข์ร้อน ก็ใช่น่ะสิเขาเป็นเจ้าหนี้ แต่เธอเป็นลูกหนี้
แต่ลูกหนี้เดี๋ยวนี้ ไม่มี ไม่หนี ไม่จ่าย เยอะแยะไป หรือเธอจะลองยึดคตินี้ดูบ้าง
“สองวัน”
“อะไรกัน”
“วันนึง”
“นี่เสี่ย!”
ยิ่งเธอพูดเขายิ่งลดจำนวนวัน สีหน้าท่าทีเจ้าเล่ห์พร้อมที่จะกลั่นแกล้งเธอทำให้เก็ดแก้วอยากจะประทุษร้ายเขานัก
“สามวันก็ไม่มีปัญญาหรอกค่ะ ฉันจะหาเงินที่ไหนมาคืน”
“ง่ายนิดเดียว”
เขาพูดอย่างไม่ทุกข์ร้อน เธอเลิกคิ้วขึ้นมอง
“เอาตัวเธอมาใช้หนี้”
“ตาแก่บ้า ลามก ไม่มีวันเสียหรอก” เธอพูดอย่างโมโห
เขาหัวเราะไม่ทุกข์ร้อน มองเธอไม่วางตา เธออยากหาอะไรทิ่มตาเขาให้บอดนัก
“ฉันจะกลับแล้ว”
“ตามสบาย” เขาผายมือให้เธอ
เก็ดแก้วมองเจ้าหนี้หน้าเลือดอย่างสงสัย ทำไมอีกฝ่ายถึงปล่อยเธอไปง่ายนักล่ะ
หรือเขามีแผนการอะไร?
“ยังไม่อยากไปเหรอ จะอยู่ต่อก็ได้นะ”
เขาผายมือให้เธอนั่งต่อ
เก็ดแก้วสะบัดหน้าพรืด ก่อนสะบัดก้นเดินจากไป เพลิงพยัคฆ์หัวเราะชอบใจ ลูบปากตัวเองไปมา ยัยเด็กนี่พยศ โดนเขาจับทำเมียจะร้องไม่ออก
“ไอ้กิต ไอ้กิตโว้ย!”
“ครับเสี่ย”
“แกให้คนไปก่อกวนว่าที่เมียกูหน่อย เอาให้หนักๆ อยู่บ้านหลังนั้นไม่ได้เลยนะ”
“ครับ”
“เดี๋ยวกูจะเป็นพระเอกขี่ม้าขาวไปช่วยนางเอกเอง”
“ครับเสี่ย” ปะกิตรับคำ มองตาปริบๆ
สงสารก็สงสารเก็ดแก้วอยู่หรอก แต่ในเมื่อมันเป็นคำสั่งของเจ้านายเขาจะขัดได้อย่างไรกัน
พวกนักเลงอันธพาลที่มาทวงหนี้ไม่ใช่คนของเพลิงพยัคฆ์ แต่เป็นอีกพวกหนึ่ง เธออกสั่นขวัญแขวนเมื่อพวกมันมาพังบ้านเธอจนราบเป็นหน้ากลอง
“เฮ้ย! พวกมึงทำอะไรกันวะ”
เพลิงพยัคฆ์เอ่ยถาม เขามาพร้อมกับลูกน้องนับสิบ เก็ดแก้วกะพริบตาปริบๆ เขาคงไม่ได้มาทวงหนี้เธอเหมือนพวกก่อนหน้านี้หรอกนะ
“พ่ออีนี่เป็นหนี้เจ้านายพวกกู” พวกมันตอบ
“เท่าไหร่”
เพลิงพยัคฆ์เอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเข้มจัด พวกมันตอบจำนวนเงิน ก่อนที่เขาจะควักเงินออกมาส่งให้พวกมันอย่างไม่ทุกข์ร้อน
เก็ดแก้วมองจำนวนเงินมากมายที่เพลิงพยัคฆ์ใช้หนี้ให้บิดาของเธอแล้วอ่อนใจ นั่นยิ่งทำให้เธอเป็นหนี้เขาเพิ่มมากขึ้นอีกเท่าตัว
“เป็นยังไงบ้าง”
เพลิงพยัคฆ์หันไปถามเด็กสาวที่ยืนมองเขานิ่ง
“ทำไมต้องทำแบบนี้ด้วย”
“ทำแบบไหน”
“ไปใช้หนี้ให้พวกมันทำไมกัน”
“ไม่ใช้หนี้มันก็พังบ้านเธอราบเป็นหน้ากลองน่ะสิ”
“พังก็พังไปสิ แต่ฉันไม่มีเงินใช้หนี้ให้เสี่ยหรอกนะ ของเก่าก็ยังไม่มีเลย” เธอตอบอย่างเกรงใจเขาเป็นครั้งแรก
“ก็บอกแล้วว่า...”
เขาพูดยังไม่ทันขาดคำ เธอสวนขึ้นมาเสียก่อน
“ฉันไม่มีให้ เดี๋ยวพวกมันก็เลิกราไปเอง”
“เลิกราหรือฉุดเธอไปขายซ่องแทน”
เพลิงพยัคฆ์ขู่ เด็กสาวหน้าซีดเผือดในทันที
“คงไม่เลวร้ายขนาดนั้นหรอก” เธอพูดเสียงเบาหวิว
“รู้ไหมเจ้าหนี้ของเธอเป็นใคร มันไม่ได้ใจดีอย่างฉันหรอกนะ”
“ใจดี”
เธอทวนประโยคเขาเสียงสูง มองเขาอย่างเหลือเชื่อ เขานี่นะใจดี ทำให้พ่อเธอติดหนี้ขนาดนี้ แต่ลึกๆ ก็ยังนึกขอบคุณเขาอยู่
“ขอบคุณมากๆ นะคะ แล้วเกดจะรีบหาเงินมาคืนให้เร็วที่สุด”
“ยังคิดที่จะอยู่บ้านหลังนี้ต่อไปอีกเหรอ”
เพลิงพยัคฆ์เลิกคิ้วถามด้วยสีหน้าห่วงใย ก่อนจะถอนใจเฮือกใหญ่ เขามีสีหน้าเป็นกังวลจนเธอรู้สึกได้
“ทำไมล่ะคะ”
“ไม่กลัวเหรอ นอนอยู่ดีๆ ได้โดนอุ้มไปขายซ่อง”
“อย่ามาขู่เลย บ้านเมืองมีกฎหมาย ใช่ใครจะทำอะไรได้ง่ายๆ”
“ไม่ได้ขู่ แต่พูดจริงๆ ก็แล้วแต่นะ ไม่ได้บังคับให้เชื่อ แต่ถ้าไม่ปลอดภัยย้ายไปอยู่กับฉันดีกว่า”
เธอเม้มปากอย่างครุ่นคิด ย้ายไปอยู่กับเขายิ่งไม่ปลอดภัยน่ะสิ เธอไม่ได้เข้าข้างตัวเอง แต่ได้สบตาเขาแล้วรู้เลยว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่
“ฉันรู้ว่าเธอระแวงและกลัวฉัน แต่ฉันไม่เคยบังคับใคร ไม่สมยอมก็ไม่บังคับแน่นอน”
“ขอคิดดูก่อน”
เธอตอบแบบแบ่งรับแบ่งสู้ เขาไม่ได้ว่าอะไร การที่เขาไม่บังคับเอาแต่ได้ ทำให้เธอคลายใจไปได้มาก
แต่เก็ดแก้วนอนไม่หลับเอาเสียเลย บิดาหนีหายไปไหนเธอไม่รู้ การอยู่คนเดียวในช่วงนี้รู้สึกว่าไม่ปลอดภัย เธอไม่รู้ว่าเจ้าหนี้บิดามีอีกไหมและจะมาทวงหนี้เอาเมื่อไหร่
