บทนำ
คนที่หอบพาเอาหัวใจที่บอบช้ำของตัวเอง มันก็นึกอะไรไม่ออกหรอกนะ นอกจากการหนีเที่ยว การไปฮีลใจที่ไหนสักแห่ง ที่ที่ไม่มีใครรู้จัก ที่ที่แน่นอนว่าย่อมไม่พบเจอใครสักเท่าไหร่
มือเรียวสวยกดคลิกตกลงยืนยันจ่ายเงินกับกรุ๊ปทัวร์ยุโรปแบบฉ่ำๆ 15 วัน 13 คืน กับยอดค่าใช้จ่ายเฉพาะทริปก็เกือบสามแสน นี่ไม่รวมค่าอยู่ค่ากินนอกทริปอีกนะ ก็จะเป็นอะไรไปล่ะ เลี้ยงผู้ชายหมดเป็นล้านยังเลี้ยงมาแล้วเลย แต่ดูสิ่งที่ได้สิ มันคุ้มกันแล้วไหม
ไอรีน ดีไซเนอร์สาวไทยแท้ ไม่มีส่วนผสมของต่างชาติเลยแม้แต่น้อย ทว่าหน้าตาออกไปทางลูกครึ่งซะมากกว่า บางทีเธอก็อดสงสัยไม่ได้เหมือนกัน ว่าเธอคือลูกของป๊าจริงๆ ไหม หญิงสาวผู้มากด้วยความรู้และทรัพย์สิน แน่นอน การที่เธอจะหาคนรัก มันก็ไม่ใช่เรื่องยากอะไร หากผู้ชายเหล่านั้นไม่ได้เข้าหาเธอเพียงเพราะบ้านรวย
ด้วยธุรกิจของที่บ้านที่สืบทอดรุ่นต่อรุ่นตั้งแต่อากง อาม่า มายังอาป๊า อาเจ็ก อาอี๊ ตระกูลของเธอต่างเป็นจีนล้วน ซึ่งพวกท่านย้ายถิ่นฐานมาตั้งรกรากในไทยตั้งแต่ต้นรัตนโกสินทร์แล้ว ให้เท้าความยาวสาวความยืดเกี่ยวกับบรรพบุรุษคงไม่จบง่ายๆ ป๊าของเธอได้พบรักกับคุณวลี แม่ของเธอจึงทำให้ดีเอ็นเอลูกครึ่งที่ไม่ค่อยจะออกไปทางหมวยสักเท่าไหร่ ทำให้เครือญาติถึงกับต้องพาไปตรวจดีเอ็นเอ แล้วไง หน้าหงายไหมล่ะ ฉันมันลูกป๊าร้อยเปอร์เซ็นต์
หญิงสาวกับลุคเซ็กซี่ทันสมัย เพราะเธอจบโทด้านออกแบบและดีไซน์จากอิตาลี ซึ่งมีสถาบันชื่อดังอันดับหนึ่งจากทั่วโลก ด้วยความเป็นลูกสาวคนเดียว เธอจึงถูกตามใจเสมอมา
บรู๊คลิน ชายหนุ่มวัยสามสิบสอง ลูกครึ่งไทยอิตาลีที่รู้จักกันที่นั่น เขาคือเจ้าของร้านออกแบบเสื้อผ้าชื่อดัง เธอกับเขาคบกับพ่อหนุ่มตาน้ำข้าวได้แค่ไม่กี่ปีก็ต้องเลิกราเพียงเพราะความเจ้าชู้ประตูดินของเขา รักครั้งนี้เธอคาดหวังเอาไว้มาก เพราะถึงขึ้นเกือบพามาเปิดตัวกับครอบครัวเลยทีเดียว แต่แล้วทุกอย่างก็ต้องพังคลืนลงไป
ทำไมเธอถึงเลือกทัวร์กับทัวร์ยุโรปน่ะหรอ ทำไมถึงไม่ไปเอง ทั้งๆ ที่มีเงิน ภาษาก็ได้ งงใช่ป่ะล่ะ ก็ใครจะมีกระจิตกระใจมานั่งหา นั่งจองโรงแรมกันล่ะ สมัยนี้เขามีทัวร์คอยทำให้เราทุกอย่าง อีกอย่างสภาพจิตใจของเธอตอนนี้มันปกติซะที่ไหน คนที่พึ่งอกหักหมาดๆ ทั้งๆ ที่ร้านพึ่งจะเริ่มเปิดได้ไม่ถึงเดือน แต่เธอก็ปิดมันไว้ก่อน ขอเที่ยวก่อนละกัน นี่สิน๊าที่เขาว่า พวกอารมณ์อาร์ต เธอล่ะเบื่ออารมณ์แบบนี้ของตนเสียจริง
นิ้วเรียวเขี่ยแท็ปเล็ตหน้าจอขนาด 12 นิ้วไปมา ก่อนจะถ่างซูมเพื่อดูสถานที่พัก ทริปนี้มันเป็นอะไรที่ปุบปับ และการเดินทางคนเดียว แน่นอนว่ามันต้องมีค่าใช้จ่ายเพิ่ม ทว่า ห้องดันเต็ม และเธอต้องถูกจับยัดไปไว้กับลูกทัวร์คนไหนสักคนแหละหน่า แต่เธอก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร กะเอาว่าพอไปถึงค่อยไปเดินวอคอินเข้าไปเช็คอินโรงแรมใกล้ๆ คนที่ตอนนี้มันไม่สนอะไรแล้ว ก็มองข้ามเรื่องพวกนี้ไปโดยสิ้นเชิง
ประเทศที่เธอจะไป มีฝรั่งเศส สวิต อิตาลี และเยอรมัน ขากลับเธอกะว่าอาจจะกลับเอง ส่วนเรื่องวีซ่าเชงเก้นเธอก็ไม่ได้วุ่นวายอะไร เพราะเครดิตวันยังเหลือ
“พรุ่งนี้แล้วสินะ”
คนอะไร จะจองปุบปับแล้วไปทันที
ร่างบางระหงกับความสูงถึง 170 เซนติเมตรก็จัดการเก็บพวกสเวตเตอร์ เสื้อโค้ช เสื้อฮีทเทค ถุงมือถุงเท้ารองเท้าหนัง รองเท้ากันลื่นหิมะ สารพัดสิ่งยัดลงในกระเป๋าไซซ์ใหญ่ถึงสองใบ เธออยากนั่งรถไฟชมเมือง ล่องแม่น้ำ ชมหอไอเฟล เที่ยวให้จุใจ เอาให้ลืมใครบางคนไปเลย
“ทำไมถึงเดินทางปุบปับขนาดนั้นล่ะลูก?”
เสียงของวลีผู้เป็นมารดาที่กำลังจัดเตรียมอาหารเช้าถึงกับเอ่ยถามลูกสาว ซึ่งตอนนี้ก็มีอากง อาม่า และอาป๊าของเธอนั่งอยู่ด้วย การเดินทางเป็นไฟล์ทบินของเธอคือช่วงเช้า คือแปดโมง ถึงปารีสก็คงเกือบๆ สองทุ่ม สำหรับวันแรกคงเข้าที่พักกันเลย และตอนนี้ก็เป็นเวลาหกโมงซึ่งทุกคนในบ้านของเธอตื่นมาทานมื้อเช้าตั้งแต่เช้าตรู่ เพราะการตื่นเช้ามันทำให้เราทำอะไรได้หลายอย่าง
“แล้วหลานจะไปกี่วันกันล่ะไอรีน พอกเก็ตมันนี่พอมั้ย” เสียงของอากงเอ่ยถามหลานสาวหัวแก้วหัวแหวน ก็ตั้งแต่อ้อนแต่ออกมาแล้ว ท่านก็เลี้ยงของท่านแบบยุงไม่ให้ไต่ไรไม่ให้ตอม แม้ไอรีนจะอายุ27 แล้ว แต่สำหรับปู่ เธอย่อมเหมือนเด็กอยู่วันยังค่ำ
“ขอบคุณนะคะอากง ไว้หนูเงินไม่พอจะโทรมาขอนะคะ เดี๋ยวไอรีนต้องรีบไปก่อนนะคะอาม่า อาป๊า เดี๋ยวรถติดค่ะ”
ว่าพลางก็หอบข้าวของพะรุงพะรังใบใหญ่ ก่อนจะหันไปหอมทุกคน คนละฟ้อด ก่อนที่คนรถจะเข้ามานำเอากระเป๋าของเธอไปใส่ในรถ
“เอาไปเยอะแบบนั้น พะรุงพะรังไปมั้ย ดูตัวเองตัวเล็กๆ เดี๋ยวก็ไม่ทันเพื่อนในกรุ๊ปกันพอดี”
กลับเป็นเสียงของอาม่าซะอีก ที่เอ่ยบอกหลานสาวอย่างห่วงใย
“อาม่าไม่ต้องเป็นห่วงนะคะ เดี๋ยวหนูหาผู้ชายช่วยถือระหว่างทางได้ค่ะ” คนหน้าสวยพูดทีเล่นทีจริง
“ไอ้เด็กคนนี้นิ่ ไม่รู้จักโต”
ไม่นานนักรถยนต์คันหรูก็มาจอดยังฝั่งผู้โดยสารขาออกระหว่างประเทศ กรุ๊ปที่เธอจะไปนัดให้เจอกันตรงประตู 8 สำหรับกรุ๊ปแบบกึ่งไพรเวทในครั้งนี้ก็มีลูกทัวร์รวมถึงไกด์ก็น่าจะราวๆ สี่สิบคนได้
‘ดี คนเยอะแบบนี้แหละดี วุ่นวายดี ฉันจะได้ไม่เหงา’
ไม่นานนักไกด์สาวทั้งสองจากบริษัททัวร์ชื่อดังก็เริ่มยื่นทัวร์แท็ก หรือป้ายห้อยกระเป๋าไว้ให้ทุกคนนำไปใส่ยังกระเป๋าของตน ก่อนจะเริ่มทำการเช็คอินและเดินเข้าไปในเกต
คนร่างบอบบางมองคนนั้นทีคนนี้ทีที่มากันเป็นคู่ๆ บ้างก็พาครอบครัวมาเที่ยวเป็นหมู่ใหญ่ๆ คงมีแต่เธอสินะที่มาเที่ยวกับทัวร์แบบตัวคนเดียว หัวเดียวกระเทียมลีบว่างั้น แต่ไม่เป็นไร เธอเป็นคนคุยเก่ง อัธยาศัยดี เข้าคนง่าย แม้บางอารมณ์จะติสไปหน่อย แต่โดยรวมถือว่าไม่ใช่ปัญหา แต่แล้วไกด์สาวคนสวยคนหนึ่งอายุน่าจะไม่มากกว่าเธอสักเท่าไหร่ ก็ได้เอ่ยถามขึ้น
“คุณไอรีนใช่ไหมคะ”
“เอ่อ ค่ะ ใช่ค่ะ”
“ทางเรามีข้อมูลว่าคุณไอรีนเดินทางคนเดียว แต่ไม่เป็นไรนะคะ ดิฉันขออนุญาตแนะนำตัวเองก่อนเลยนะคะ ดิฉันลูกน้ำค่ะ ส่วนคนนี้ พิราค่ะ” ก่อนที่ลูกน้ำไกด์คนสวยจะเผยฝ่ามือแนะนำไกด์อีกคนให้เธอรู้จัก
“สวัสดีค่ะคุณไอรีน พิรานะคะ”
“ยินดีที่ได้รู้จักคุณลูกน้ำและก็คุณพิรานะคะ เอ่อ …” เธออ้ำอึ้งไปเล็กน้อย ถ้าจะเรียกพวกเธอว่าพี่คงจะไม่น่าเกลียดไปใช่มั้ย แต่แล้ว ลูกน้ำก็เป็นคนเอ่ยขึ้นก่อน
“เรียกพวกพี่ว่าพี่ก็ได้ค่ะ พอดีพี่เห็นอายุของคุณไอรีนตอนที่ส่งเมลมาน่ะค่ะ” ลูกน้ำเอ่ยยิ้มแย้มเป็นกันเอง ตามด้วยอีกคนที่ส่งยิ้มหวานมาให้ไม่แพ้กัน
“งั้นเรียกหนูว่าไอรีนเฉยๆ ก็ได้ค่ะ เรียกคุณแล้วรู้สึกเขินจัง แฮร่ …” เธอยิ้มก่อนจะเผลอเอาผมขึ้นไปทัดหูก้มหน้าอย่างเอียงอาย ก็ไม่ใช่อายอะไรหรอก โตป่านนี้เธอยังคงหลงลืมเรียกแทนตัวเองว่าหนูอยู่บ่อยๆ มันชักจะติดปากไปละ
“ได้ค่ะน้องไอรีน สำหรับทริปนี้ไม่ต้องห่วงนะคะเดี๋ยวพวกพี่จะเป็นเพื่อนให้ไอรีนตลอดทั้งทริปเลยค่ะ รับรองไม่มีเหงา” พิราเอ่ยขึ้น ก่อนที่ทุกคนจะเริ่มทยอยกันไปขึ้นเครื่อง เพราะตอนนี้ก็ถึงเวลาขึ้นเครื่องแล้ว
“แปลกเน้อ มากับทัวร์แต่ซื้อบัตรโดยสารแบบเฟิร์สคลาส ฉันว่าบ้านนางคงรวยแหละ งั้นแกก็เทคแคร์ดีๆ หน่อยละกัน” ลูกน้ำเอ่ยกับพิรา เพราะคนที่แยกตัวไปก็ผละตัวเข้าห้องผู้โดยสารชั้นพิเศษเสียแล้ว
