บท
ตั้งค่า

บทที่ 3 สามคนพ่อแม่ลูก

เป็นพั่นพั่น !

เมื่อได้ยินเสียงของหยางพั่นพั่น เย่เมิ่งเหยียนก็อึ้งไปในทันที !

เธอไม่รู้ว่าพละกำลังมาจากไหน เธอผลักหวางหมิงออกอย่างแรง และเตะต่อยเขาไม่ยั้ง

เผียะ !

จากนั้นเย่เมิ่งเหยียนก็ตบหวางหมิงเข้าไปฉาดใหญ่

“นังแพศยา แกกล้าลงมือกับฉันหรือ วันนี้ฉันจะเอาแกให้ตาย !”

หวางหมิงโกรธจัด มือทั้งสองข้างของเขาฉีกทึ้งเสื้อผ้าที่อยู่ตรงหน้าอกของเย่เมิ่งเหยียนอย่างแรง

เมื่อเห็นดังนั้น หยางพั่นพั่นก็ตกใจจนร้องไห้ออกมา แล้วตะโกนเสียงดังว่า : “อย่าตีแม่ของหนูนะ !”

หยางพั่นพั่นวิ่งเข้าไป กอดขาของหวางหมิงเอาไว้ แล้วอ้าปากกัด

“โอ๊ย ! นังเด็กบ้า แม่ของแกเป็นโสเภณี แกยังร้ายยิ่งกว่าแม่ของแกเสียอีก ! ไสหัวไปเดี๋ยวนี้ !”

หวางหมิงยกเท้าขึ้นมา คิดที่จะเตะหยางพั่นพั่น

จากนั้น

มีคนคนหนึ่งปรากฏตัวขึ้น

ใช้หมัดต่อยเข้าไปที่หวางหมิงอย่างแรง

โอ๊ย !

หวางหมิงร้อนโอดครวญ และตัวของเขาก็ลอยกระเด็นไป

ถึงแม้หยางเฟิงจะรู้สึกผิดหวังกับเย่เมิ่งเหยียน แต่เมื่อเห็นเธอถูกผู้ชายคนอื่นรังแก เมื่อเห็นผู้หญิงของตนเองถูกผู้ชายคนอื่นด่าว่าเป็นโสเภณี ในใจก็รู้สึกเจ็บปวดจนยากเกินจะบรรยายได้ !

“ไป !”

หยางเฟิงอุ้มหยางพั่นพั่นขึ้น แล้วยื่นมือออกไปลากเย่เมิ่งเหยียนเดินออกมา

“คุณเป็นใคร ? ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะ !”

เพราะในห้องรับรองมีเพียงแสงไฟสลัว ๆ เย่เมิ่งเหยียนจึงจำหยางเฟิงไม่ได้

หยางเฟิงหันหน้ากลับไป แล้วจ้องมองเย่เมิ่งเหยียนด้วยใบหน้าที่ดุดัน : “เย่เมิ่งเหยียน ผู้หญิงหน้าเงิน คุณลองดูให้ดี ๆ ซิว่าผมเป็นใคร !”

หลังจากเห็นใบหน้าของหยางเฟิงอย่างชัดเจน เย่เมิ่งเหยียนก็รู้สึกราวกับถูกฟ้าผ่า

เป็นเขา !

สามีของตนเอง !

คือผู้ชายที่ตนเองถูกบังคับให้แต่งงานด้วยเมื่อห้าปีก่อน !

คือผู้ชายที่หนีไปหลังจากแต่งงานกับตนเองได้เพียงสองวัน !

สมองของเย่เมิ่งเหยียนว่างเปล่าในทันที

ตอนนี้หยางเฟิงเองก็รู้สึกสับสน

เมื่อห้าปีก่อน หยางเฟิงถูกขับไล่ออกจากตระกูลหยาง กลายเป็นคนจรจัด

ตอนที่เขากำลังจะอดตาย คนตระกูลเย่ก็หาเขาจนเจอ

บอกว่าดวงชาตะของเขาและเย่เมิ่งเหยียนนั้นสมพงษ์กันมาก หลังจากแต่งงานแล้ว จะช่วยแก้เคล็ดให้กับอาการป่วยของนายท่านเย่ได้

ด้วยเหตุนี้ หยางเฟิงจึงกลายเป็นลูกเขยที่แต่งเข้าตระกูล

หลังจากแต่งงานได้สองวัน ประเทศมีการประกาศคำสั่งทางทหารออกมา เพื่อที่จะแก้แค้น หยางเฟิงจึงเข้าร่วมกองทัพอย่างเด็ดเดี่ยว

ห้าปีต่อมา เขากลายเป็นที่นับถือของกองทัพ กลายเป็นตำนานของกองทัพ ได้สมญานามว่าเทพมรณะ !

น้ำตาของเย่เมิ่งเหยียนค่อย ๆ หยดลงมา

น้ำตาไหลรินลงมาอย่างต่อเนื่อง

ทันใดนั้น

เย่เมิ่งเหยียนก็โผเข้าไปในอ้อมแขนของอยากเฟิง และร้องไห้ฟูมฟายออกมา

“ฮือ ๆ หยางเฟิง คนไร้หัวใจ ในที่สุดคุณก็กลับมาเสียที !”

ร้องไห้ ?

นี่คืออะไร ?

คิดจะแสร้งทำทีน่าสงสารต่อหน้าตนเองอย่างนั้นหรือ ?

หยางเฟิงใช้แรงผลักเย่เมิ่งเหยียนออกไป จ้องมองเธอด้วยสีหน้าเย็นชาแล้วถามว่า : “คุณรู้ไหมว่าตอนที่ผมกลับไปถึงตระกูลเย่ได้เห็นอะไรมาบ้าง ? ผมเห็นลูกสาวของผมถูกล่ามโซ่เอาไว้ราวกับสุนัข นอนหมอบอยู่บนพื้น”

“แม้แต่คนรับใช้ของตระกูลเย่ก็กำลังทุบตีเธออย่างรุนแรง ส่วนคุณกลับเมามายไม่ได้สติอยู่กับผู้ชายคนอื่นที่นี่ คุณเป็นแม่แบบนี้นะหรือ ? คุณดูแลลูกสาวของเราแบบนี้หรือ ?”

กรี๊ด ๆ ๆ !

ได้ยินดังนั้น

เย่เมิ่งเหยียนก็ไม่อาจควบคุมอารมณ์ได้อีก

เธอกรีดร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด

“ลูกสาวของฉัน ! ลูกสาวที่น่าสงสารของฉัน ! แม่ขอโทษลูกจริง ๆ !”

เมื่อนึกภาพที่ลูกสาวของตนเองหมอบอยู่บนพื้นราวกับสุนัข

เย่เม่งเหยียนก็ร้องไห้ราวกับจะขาดใจ

ทันใดนั้น เธอก็กำหมัดแน่นแล้วทุบลงไปบนหน้าอกของหยางเฟิงอย่างต่อเนื่อง

“คนเลว ! ทั้งหมดเป็นเพราะคุณ ! เพราะคุณคนเดียว ! ถ้าไม่ใช่เพราะคุณ ลูกก็ไม่ต้องทนมุกข์ทรมานเช่นนี้ คุณมีสิทธิ์อะไรมากล่าวโทษฉัน ?”

“คุณรู้ไหมว่าห้าปีมานี้ ฉันต้องทนกับการดูถูกมากมายแค่ไหน ? หลังจากลูกคลอดออกมา ไม่มีใครยินดีช่วยเหลือฉันสักคน ฉันตั้งทำทุกอย่างเองคนเดียวทั้งหมด ทุกครั้งที่ลูกถามฉันว่าพ่ออยู่ที่ไหน ฉันก็ไม่รู้ว่าควรจะตอบอย่างไร”

“ฉันเป็นแค่ผู้หญิงคนหนึ่ง ฉันก็หวังว่าจะมีผู้ชายสักคนที่เป็นที่พึ่งได้ ฉันใช้ชีวิตอย่างลำบากจริง ๆ ฉันแทบจะทนต่อไปไม่ไหวอีกแล้ว......”

เย่เมิ่งเหยียนร้องไห้ฟูมฟายออกมาอย่างหนัก ตลอดห้าปีมานี้ เธอต้องทนทุกข์ทรมานมามากเกินไปแล้ว

เมื่อได้ยินคำพูดของเย่เมิ่งเหยียน หยางเฟิงก็อึ้งไป

เขาคิดไม่ถึงเลยว่า ห้าปีมานี้ เย่เมิ่งเหยียนต้องใช้ชีวิตอย่างยากลำบากเช่นนี้

“เมิ่งเหยียน ผมขอโทษ......”

หยางเฟิงยื่นมือออกไป เพื่อที่จะเช็ดน้ำตาให้เย่เมิ่งเหยียน

เย่เมิ่งเหยียนร้องไห้ฟูมฟายเสียงดังและพูดว่า : “คุณมันเลว ! ไร้หัวใจ ! คุณรู้ไหมว่าลูกสาวของเราเกิดมาก็เป็นโรคหัวใจมาตั้งแต่กำเนิด ! หมอบอกว่าเธอต้องผ่าตัดให้สำเร็จก่อนอายุหกขวบ !”

“แต่ฉันไม่มีเงิน ตลอดสามวัน ฉันตระเวนยืมเงินทุกคน แต่ไม่มีใครเต็มใจที่จะให้ยืม ฉันจนปัญญาจึงต้องมาหาหวางหมิง เขาเป็นพวกปล่อยเงินกู้ เขาคิดไม่ซื่อกับฉัน อยากจะเลี้ยงดูฉัน !!”

“คุณคิดว่าฉันเต็มใจจะดื่มเหล้ากับผู้ชายคนอื่นที่นี่อย่างนั้นหรือ ? ฉันเองก็ต้องบังคับตนเองเช่นกัน !!!”

เปรี้ยง !

คำพูดของเย่เมิ่งเหยียนราวกับสายฟ้าที่ฟาดลงมาบนหัวของหยางเฟิง

ที่จริงแล้ว ตนเองเข้าใจผิดเย่เมิ่งเหยียน

ที่สามวันมานี้เย่เมิ่งเหยียนไม่สนใจหยางพั่นพั่น เป็นเพราะเธอต้องออกมาหาเงินเพื่อไปรักษาพั่นพั่น

ในเวลาเดียวกันนี้

ความโกรธในใจของหยางเฟิงก็ปะทุขึ้น !

หวางหมิง นับว่าใจกล้าไม่น้อย คิดไม่ถึงว่าจะกล้าคิดไม่ซื่อกับภรรยาของตนเอง เขาคงเบื่อชีวิตเต็มทนแล้วสินะ ?

“เมิ่งเหยียน ผมขอโทษ ผมเข้าใจคุณผิด ทั้งหมดเป็นความผิดของผมเอง......”

หยางเฟิงดึงเธอเข้ามากอดในอ้อมแขน

ตอนนี้ความรู้สึกผิด โทษตนเองถาโถมเข้ามาจนเต็มอกของหยางเฟิง

ชายชาติทหารที่แข็งแกร่งผู้นี้ ร้องไห้ออกมาแล้ว !

“ขอโทษด้วย ที่รัก เป็นความผิดของผมเอง !”

“ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ผมจะไม่ปล่อยให้คุณได้รับความทุกข์ใด ๆ อีก ผมจะทำให้คุณกลายเป็นผู้หญิงที่มีความสุขที่สุดในโลก !”

เย่เมิ่งเหยียนซบอยู่ที่อกของหยางเฟิงและร้องไห้ฟูมฟายออกมา

ความทุกข์ตลอดหลายปีที่ผ่านมา ถูกปลดปล่อยออกมาทั้งหมดในเวลานี้

จากนั้น สามคนพ่อแม่ลูกก็กลับมาถึงบ้าน

นี่คือห้องใต้ดินอันมืดมิด แต่ได้รับการดูแลจนสะอาดสะอ้าน

เมื่อนึกถึงคฤหาสน์โอ่อ่าที่ตระกูลเย่อาศัยอยู่ แล้วหันมองดูห้องใต้ดินที่เก่าและทรุดโทรมแห่งนี้ หยางเฟิงก็อดไม่ได้ที่จะกำหมัดแน่น

“พวกคุณอาศัยอยู่ที่นี่หรือ ?”

เย่เมิ่งเหยียนพยักหน้าแล้วพูดว่า : “ตอนนั้นหลังจากที่คุณหนีไป ตระกูลเย่รู้สึกว่าฉันทำให้ตระกูลต้องขายหน้า ดังนั้นจึงไล่ครอบครัวของฉันออกตระกูลเย่”

หยางเฟิงถาม : “พ่อแม่ของคุณล่ะ ?”

เย่เมิ่งเหยียนสีหน้าโศกเศร้า : “หลังจากพวกเราถูกไล่ออกจากตระกูลเย่ แม่รับมือกับเรื่องนี้ไม่ไหวจึงกลับบ้านเดิมไป เพื่อที่จะตามแม่กลับมาพ่อจึงจากไปด้วย”

เมื่อได้ยินเช่นนี้ หยางเฟิงยิ่งโทษตนเอง

ครอบครัวของเย่เมิ่งเหยียนต้องตกต่ำถึงขั้นนี้ก็เพราะเขา

หยางพั่นพั่นหลบอยู่ด้านหลังของเย่เมิ่งเหยียน เธอมองพิจารณาหยางเฟิงด้วยความสงสัย

เย่เมิ่งเหยียนพูดกับหยางพั่นพั่นว่า : “พั่นพั่น มาเรียกคุณพ่อสิจ๊ะ นี่คือคุณพ่อของหนูนะ”

เมื่อได้ยินสิ่งที่เย่เมิ่งเหยียนพูด หยางพั่นพั่นก็มีสีหน้าตกใจเล็กน้อย

คำว่าคุณพ่อสองพยางค์นี้ จะเรียกอย่างไรก็เรียกไม่ออก

หยางเฟิงโน้มตัวลง ใช้มือลูบหัวของหยางพั่นพั่นแล้วพูดว่า : “พั่นพั่น ฉันคือคุณพ่อของหนู ตั้งแต่นี้ไป พ่อจะปกป้องหนูกับคุณแม่เอง พ่อจะทำให้หนูละคุณแม่ กลางเป็นผู้หญิงที่คนทั้งโลกต้องอิจฉา ดีไหมจ๊ะ !”

“คุณพ่อ......”

เมื่อได้ยินคำพูดของหยางเฟิง หยางพั่นพั่นก็โผเข้าไปในอ้อมกอดของเขา และร้องไห้เสียงดังออกมา

ตอนนี้ ในใจของหยางเฟิงหลอมละลายในทันที

เทพสงครามผู้แกร่งแข็งหาใครเทียบได้ พิชิตดินแดนมาทั่วโลก กลับหลั่งน้ำตาออกมาทันที

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel